การพัฒนาแนวทางการนิเทศภายในโดยใช้ชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพของสถานศึกษาสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา
Article Sidebar
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยนี้เป็นการวิจัยแบบผสมวิธี มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาแนวทางการนิเทศภายในโดยใช้ชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพของสถานศึกษา การดำเนินการวิจัยแบ่งเป็น 2 ขั้นตอน คือ ขั้นตอนที่ 1 การประเมินความต้องการจำเป็นของการนิเทศภายในของสถานศึกษา มีกลุ่มตัวอย่าง คือ ครูในสถานศึกษาสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา จำนวน 400 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ แบบประเมินความต้องการจำเป็น มีค่าความเชื่อมั่น เท่ากับ 0.98 - 0.99 และสถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และดัชนีอันดับความต้องการจำเป็น ขั้นตอนที่ 2 การพัฒนาแนวทางการนิเทศภายใน โดยใช้ชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพของสถานศึกษา กลุ่มผู้ให้ข้อมูล ได้แก่ ผู้เชี่ยวชาญด้านการนิเทศการศึกษา ด้านการบริหารการศึกษา และครู จำนวน 9 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แบบประเมิน และสถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย
และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
ผลการวิจัยพบว่า 1) การประเมินความต้องการจำเป็นของการนิเทศภายในของสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา (PNImodified = 0.11) โดยด้านที่มีดัชนีอันดับความต้องการจำเป็นลำดับที่ 1 คือ ด้านการสร้างสื่อและเครื่องมือนิเทศ (PNImodified = 0.13) ลำดับที่ 2 คือ ด้านการปฏิบัติการนิเทศ (PNImodified = 0.12) ลำดับที่ 3 คือ ด้านการศึกษาสภาพปัจจุบัน ปัญหา และความต้องการ (PNImodified = 0.11) ลำดับที่ 4 คือ ด้านการประเมินผล การปรับปรุง และรายงานผล (PNImodified = 0.10) และลำดับที่ 5 คือ ด้านการวางแผนการนิเทศและกำหนดทางเลือก (PNImodified = 0.09) และ 2) ผลการพัฒนาแนวทางการนิเทศภายในโดยใช้ชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพของสถานศึกษา พบว่า แนวทางการนิเทศภายในโดยใช้ชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพของสถานศึกษา แบบ 5 Supervision step by PLC + PDCA ประกอบด้วย แนวทางปฏิบัติ จำนวน 32 รายการ จำแนกเป็น การศึกษาสภาพปัจจุบัน ปัญหา และความต้องการจำนวน 5 รายการ ขั้นการวางแผนการนิเทศและกำหนดทางเลือก จำนวน 6 รายการ ขั้นการสร้างสื่อและเครื่องมือนิเทศ จำนวน 5 รายการ ขั้นการปฏิบัติการนิเทศ จำนวน 8 รายการ และการประเมินผล การปรับปรุง และรายงานผล จำนวน 8 รายการ โดยผู้ทรงคุณวุฒิมีความคิดเห็น ด้านความเหมาะสมในภาพรวม มีความเหมาะสมอยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.80, S.D. = 0.15) เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน มีค่าเฉลี่ยระหว่าง คือ 4.85 -4.71 ด้านความเป็นไปได้ในภาพรวม มีความเป็นไปได้อยู่ในระดับมากที่สุด (
= 4.80, S.D. = 0.16) เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน มีค่าเฉลี่ยระหว่าง 4.83.- 4.73 และด้านความเป็นประโยชน์ในภาพรวม มีความเป็นประโยชน์อยู่ในระดับมากที่สุด (
= 4.83, S.D. = 0.29) เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน มีค่าเฉลี่ยระหว่าง คือ 4.89 – 4.78
Article Details
อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เอกสารอ้างอิง
Asae, S. (2020). Management of the supervision system within the educational institution using the 3 SMART MUNO model. Baan Muno School.
Chaikhirin, A. (2019). Developing Professional Learning Community-based Internal Supervision Model for Secondary School. [Doctoral dissertation, Mahasarakham University]. [in Thai]
Karuna, P. (2020). Guidelines of Internal Supervision Process Development of Basic Education school underMinburi District Office, BangkokMetropolitan Administration. Chandrakasem Rajabhat University Journal of Graduate School, 15(2), 45–62. [in Thai]
Kerdtip, C. (2020). Promoting Values for Teachers’ Performance from Different Age Groups in School Organizational Culture in Yala Primary Educational Service Area Office. Journal of Education, Prince of Songkla University, Pattani Campus, 32(2), 158-174. [in Thai]
Kraysuban, S. (2022). Best Practices of Moral School Management of OBEC in Songphinong District, Suphanburi Province. [Master's thesis, Nakhon Pathom Rajabhat University]. [in Thai]
Lopburi Primary Educational Service Area Office 2. (2020). Manual for conducting internal supervision in schools using the classroom as a base "2020, the golden year of internal supervision". Lopburi Primary Educational Service Area Office 2. [in Thai]
MemduhoGLu, H.B. (2012). The Issue of Education Supervision in Turkey in the Views of Teachers, Administrators, Supervisors and Lecturers. Educational Sciences: Theory and Practice, 12(1), 149-156.
Mukdahan Primary Educational Service Area Office. (2019). Supervision Manual, Supervision, Monitoring and Evaluation Group Educational management. Mukdahan Primary Educational Service Area Office. [in Thai]
Office of the Basic Education Commission. (2017). Training manual for driving the PLC process. Office of the Basic Education Commission. [in Thai]
Office of the Basic Education Commission. (2019). Guidelines for internal supervision using the classroom as a base to develop the quality of students. Office of the Basic Education Commission. [in Thai]
Office of the Basic Education Commission. (2020). Guidelines for internal supervision using the classroom as a base to develop the quality of students. https://drive.google.com/file/d/1BBHmefKKsGgOi_8AKeKufrgE8w-UbhBX/view [in Thai]
Office of the Education Council. (2017). The National education plan B.E. 2560-2579 (2017-2036). Prikwarn Graphic. [in Thai]
Parajoom, S. (2020). Developing Guideline-based Peer Coaching Supervision for Schools under the Mahasarakham Primary Educational Service Area Office 2. [Master's thesis, Mahasarakham University]. [in Thai]
Petchwiset, P. (2020). Guidelines for Developing Internal Supervision of Administrators in Schools Under Buriram Primary Educational Service Area Office 3. [Master's thesis, Buriram Rajabhat University]. [in Thai]
Sakon Nakhon Primary Educational Service Area Office 1. (2021). Manual: Driving the professional learning community process To promote teachers' learning management competency in raising academic achievement. Sakon Nakhon Primary Educational Service Area Office 1. [in Thai]
Sanorkan, J. (2019). Professional Learning Community to Organize Active learning to improve academic achievement in Thailand 4.0. Journal of Education, Prince of Songkla University, Pattani Campus, 30(1), 12-23 [in Thai]
Suwanmonkha, S. (2018). Professional learning community for educational development. Chulalongkorn University. [in Thai]
Teerasoonthontai, K. (2019). Needs assessment of teachers towards the process of teaching practice supervision for schools in The Secondary Education Service Area 6, Samutprakarn province. [Master's thesis, King Mongkut's Institute of Technology Ladkrabang].
Udon Thani Primary Educational Service Area Office 2. (2020). School Supervision Manual. Udon Thani Primary Educational Service Area Office 2. [in Thai]
Wongwanich, S. (2015). Research to assess needs is necessary. Chulalongkorn University. [in Thai]
Yamane, T. (1973). Statistics: An Introductory Analysis. (3th ed.). Harper and Row.
Yuktichat, K. (2021). Classroom Based Supervisory Performance of AnubanwatLukkae Prachachanuthit School under Kanchanaburi Primary Educational Service Area Office 2. [Master's thesis, Silpakorn University]. [in Thai]
