ชุดการทดลองวิทยาศาสตร์ตามกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ (5E) เรื่อง การวิเคราะห์วงจรไฟฟ้ากระแสตรงเบื้องต้นสำหรับระบบผลิตกระแสไฟฟ้าด้วยเซลล์แสงอาทิตย์เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน วิชาเทคโนโลยีพลังงานของนักศึกษาระดับปริญญาตรีสาขาวิชาฟิสิกส์
Article Sidebar
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) การพัฒนาและประเมินประสิทธิภาพชุดทดลองวิทยาศาสตร์ เรื่อง การวิเคราะห์วงจรไฟฟ้ากระแสตรงเบื้องต้นสำหรับระบบผลิตกระแสไฟฟ้าด้วยเซลล์แสงอาทิตย์ ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรายวิชาเทคโนโลยีพลังงานทั้งก่อนและหลังการใช้ชุดทดลองวิทยาศาสตร์ที่พัฒนาขึ้นกับนักศึกษาสาขาวิชาฟิสิกส์ และ 3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักศึกษาสาขาวิชาฟิสิกส์ที่มีต่อชุดทดลองวิทยาศาสตร์ตามกระบวนการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5Es) ในรายวิชาเทคโนโลยีพลังงานระดับปริญญาตรี กลุ่มตัวอย่างได้มาโดยวิธีการสุ่มอย่างง่ายเป็นนักศึกษาสาขาวิชาฟิสิกส์ชั้นปีที่ 3 จำนวน 15 คน มหาวิทยาลัยราชภัฏลำปาง จังหวัดลำปาง เครื่องมือที่ใช้สำหรับการวิจัยประกอบด้วย 1) ชุดทดลองวิทยาศาสตร์ เรื่อง การวิเคราะห์วงจรไฟฟ้ากระแสตรงเบื้องต้นสำหรับระบบผลิตกระแสไฟฟ้าด้วยเซลล์แสงอาทิตย์ รายวิชาเทคโนโลยีพลังงาน 2) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักศึกษาสาขาวิชาฟิสิกส์ และ 3) แบบสอบถามความพึงพอใจของนักศึกษาสาขาวิชาฟิสิกส์ที่มีต่อการเรียนโดยใช้ชุดทดลองวิทยาศาสตร์ตามกระบวนการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5Es) ที่พัฒนาขึ้น สถิติที่ใช้วิเคราะห์ข้อมูลคือ ค่าร้อยละความก้าวหน้าของคะแนน ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และสถิติทดสอบทีแบบไม่อิสระ ผลงานวิจัยพบว่า 1) ผลการประเมินคุณภาพตามความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญต่อคุณภาพชุดทดลองวิทยาศาสตร์ที่พัฒนาขึ้นมีความสอดคล้องกันในระดับมากที่สุด และมีประสิทธิภาพ 86.67/82.67 สูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด 2) ผลการเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักศึกษาสาขาวิชาฟิสิกส์ที่เรียนด้วยชุดทดลองวิทยาศาสตร์ที่พัฒนาขึ้นพบว่าคะแนนเฉลี่ยหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 เป็นไปตามสมมติฐานที่ตั้งไว้ และ 3) นักศึกษาสาขาวิชาฟิสิกส์มีความพึงพอใจหลังจากเรียนด้วยชุดทดลองวิทยาศาสตร์ที่พัฒนาขึ้นอยู่ในระดับมากที่สุด ดังนั้น ชุดทดลองวิทยาศาสตร์ที่พัฒนาขึ้นช่วยอธิบายเนื้อหาการวิเคราะห์วงจรไฟฟ้ากระแสตรงเบื้องต้นสำหรับระบบผลิตกระแสไฟฟ้าด้วยเซลล์แสงอาทิตย์จากนามธรรมสู่รูปธรรมให้นักศึกษาเข้าใจมากขึ้น อีกทั้งช่วยให้จดจำองค์ความรู้ได้ในระยะยาวและสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้
Article Details
อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เอกสารอ้างอิง
Benjakan, S., (2019). Effectiveness of the future problem- solving instructional model in science on problem solving thinking ability of students in Matthayom Suksa 3 students. Journal of Buddhist Studies, 10(2), 479-494. [in Thai]
Boonphud, V., (2022). Development of an apparatus for determination of gravitational acceleration with digital timer with IoT AutoPlay program on a smartphone for physical laboratory, Royal Thai Naval Academy. Royal Thai Naval Academy Journal of Science and Technology, 5(1), 158-169. [in Thai]
Bybee, R. W. (2009). The BSCS 5E instructional model and its application to the teaching of biology. BioScience, 59(11), 995–1005.
Charoen-agsorn, A., Dumrongrattana, S., and Kedkaew, C., (2017). Development of learning on electric charges and type of electric charges for high school level using inquiry-based instruction. Research Journal Phranakhon Rajabhat: Humanities and Social Sciences, 12(2), 234-249. [in Thai]
Dwivedi, R. and Pandey, N. (2021). Analysis of evaluation data collected on Likert type items: Humanities-courses. Journal of Data Analysis and Information Processing, 9(2), 102-121.
Faikhamta, C., (2008). Student alternative conceptions in chemistry. Journal of Education, Faculty of Education, Prince of Songkla University, Pattani campus, 19(2), 10-28. [in Thai]
Kim, H., & Lee, S. (2018). The effect of 5E inquiry-based science teaching on students' understanding and attitudes towards the physics of energy and motion. Journal of Science Education an Technology,
(4), 321–335.
Klinkajorn, P., Yutakom, N., and Veerapaspong, T., (2018). Physics teacher’ understandings and teaching practices in accordance with science, technology, engineering, and mathematics (STEM) education in a pre-engineering school. Journal of Graduate Studies Valaya Alongkron Rajabhat University, 12(2), 146-156. [in Thai]
Lederman, N. G., Abd-El-Khalick, F., Bell, R. L., & Schwartz, R. S. (2015). Views of nature of science questionnaire: Toward valid and meaningful assessment of learners’ conceptions of nature of science. Journal of Research in Science Teaching, 44(1), 55–61.
Saphet, P., (2019). Using the Arduino board with LabVIEW for a mechanical experiment kit. Thai Journal of Physics, 36(2), 55-61. [in Thai]
Sasom, S., and Jupmato, M., (2019). Design and development of a simple harmonic motion experimental set with Arduino. Journal of
Science Innovation for Sustainable Development, 1(1), 36-43. [in Thai]
Srichathum, N. and Pinasa, C., (2020). A study of grade-11 students’ Physics learning achievement and achievement and attitudes in learning waves using a 7-step learning cycle with a series of experiments. Journal of Education Loei Rajabhat University, 15(1), 52-63. [in Thai]
Sutthirat, C., (2021). Developing a Model of Learning Management for the 21st Century through Lesso Study with PLC and University Coaching and Mentoring. Journal of Graduate Studies in Northern Rajabhat Universities, 11(2), 75-92. [in Thai]
Wattanasupinyo, N., (2020). The development of a current and magnetic field experimental apparatus for physics teaching to enhance undergraduate student achievement. Journal of Education Naresuan University, 22(1), 109-122. [in Thai]
