การส่งเสริมการเรียนรู้ด้วยกรอบความคิดแบบเติบโตในการเรียนการสอน:การวิเคราะห์อภิมาน

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้ใช้การวิเคราะห์อภิมานเพื่อศึกษาค่าอิทธิพลของการสอนโดยวิธีส่งเสริมกรอบความคิดแบบเติบโตที่มีผลต่อความสำเร็จและผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนโดยคัดเลือกงานวิจัยตามเกณฑ์คัดเข้า (Prisma, Moher et al., 2009)โดยรวบรวมวิทยานิพนธ์และดุษฎีนิพนธ์ที่ตีพิมพ์เป็นภาษาอังกฤษจากทั่วโลกตั้งแต่ปีค.ศ. 2010 ถึง 2019 เพื่อหาค่าขนาดอิทธิพลของการสอนโดยใช้วิธีการส่งเสริมกรอบความคิดแบบเติบโตมีผลต่อความสำเร็จและผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน หลังจากผ่านเกณฑ์คัดเข้าจึงได้วิทยานิพนธ์และดุษฎีนิพนธ์ฉบับเต็มจำนวน 10เล่มที่ใช้ผลคะแนนก่อนทดสอบและหลังทดสอบในงานวิจัยเชิงทดลองด้วยการสอนโดยวิธีการส่งเสริมกรอบความคิดแบบเติบโตที่มีผลต่อความสำเร็จและผลสัมฤทธิ์ของนักเรียนชั้นอนุบาลจนถึงมัธยมศึกษาตอนปลายจากนั้นได้นำโปรแกรม Comprehensive Meta-Analysis Software (CMA) เวอร์ชัน 3.0 มาใช้ในการคำนวณหาค่าขนาดอิทธิพล (Hedges, 1985) ของการสอนโดยวิธีการส่งเสริมกรอบความคิดแบบเติบโตที่มีผลต่อความสำเร็จและผลสัมฤทธิ์โดยเลือกใช้โมเดลแบบสุ่มในการคำนวณหาค่าเฉลี่ยของค่าขนาดอิทธิพลและระบุช่วงความเชื่อมั่นที่ระดับ 95%
การศึกษาในครั้งนี้ก่อให้เกิดข้อค้นพบใหม่ที่เกี่ยวเนื่องกับการสอนโดยวิธีส่งเสริมกรอบความคิดแบบเติบโตที่ส่งผลสูงสุดต่อแรงจูงใจของผู้เรียนโดยมีค่าขนาดอิทธิพลขนาดใหญ่ที่ระดับ g = 1.53 และมีนัยสำคัญทางสถิติที่ p = 0.00 จากผลของการวิจัยจึงสรุปได้ว่าการสอนโดยวิธีส่งเสริมกรอบความคิดแบบเติบโตนั้นสามารถสร้างแรงจูงใจอย่างมีประสิทธิภาพทำให้นักเรียนสามารถท้าทายตนเองสู่เป้าหมายสูงสุดเพื่อให้ได้มาซึ่งผลสัมฤทธิ์และผลของการเรียนที่ดีขึ้น ดังนั้นจึงควรมีการบูรณาการการสอนโดยวิธีส่งเสริมกรอบความคิดแบบเติบโตให้กับนักศึกษาในระดับอุดมศึกษาเพื่อให้เกิดแรงจูงใจภายในใจสามารถท้าทายตนเองสู่เป้าหมายของชีวิตควบคู่ไปกับการเรียนรู้อย่างมีประสิทธิภาพ