การพัฒนาแนวทางการบริหารจัดการหลักสูตรและการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง สำหรับโรงเรียนในสังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาฬสินธุ์
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาสภาพปัจจุบันและสภาพที่พึงประสงค์ของการบริหารจัดการหลักสูตรและการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง สำหรับโรงเรียนในสังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาฬสินธุ์ 2) เพื่อสร้างแนวทางการบริหารจัดการหลักสูตรและการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง สำหรับโรงเรียน ในสังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาฬสินธุ์ วิธีดำเนินการ แบ่งออกเป็น 2 ระยะ โดย ระยะที่ 1 การเก็บรวบรวมข้อมูล แบ่งออกเป็น 2 ส่วน ส่วนที่ 1 การศึกษาสภาพปัจจุบันและสภาพที่พึงประสงค์ของการบริหารจัดการหลักสูตรและการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง สำหรับโรงเรียนในสังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาฬสินธุ์ กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ บุคลากรในโรงเรียนสังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาฬสินธุ์ ปีการศึกษา 2560 ประกอบด้วยผู้บริหาร 14 คน ครูผู้สอน 207 คน รวม 221 คน จากโรงเรียน 12 โรง ได้มาโดยการสุ่มตัวอย่างแบบแบ่งกลุ่ม (Cluster Random Sampling) โดยใช้โรงเรียนเป็นเกณฑ์ในการสุ่ม เครื่องมือที่ใช้ ได้แก่ แบบสอบถามสภาพปัจจุบันและสภาพที่พึงประสงค์ของการบริหารจัดการหลักสูตรและการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง สำหรับโรงเรียนในสังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาฬสินธุ์ ชนิดมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ แบ่งเป็น 4 องค์ประกอบ รวม 33 ตัวบ่งชี้ มีค่าอำนาจจำแนกรายข้อ (rXY) ตั้งแต่ 0.26-0.73 ค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ 0.90 ส่วนที่ 2 ทำการศึกษางานโรงเรียนที่มีการปฏิบัติที่เป็นเลิศ (Best Practice) จำนวนโรงเรียน 3 โรง โดยทำการสัมภาษณ์ผู้บริหารหัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้และครูที่มีส่วนเกี่ยวข้อง โรงเรียนละ 3 คน รวม 9 คน ได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) เครื่องมือที่ใช้ ได้แก่ แบบสัมภาษณ์กึ่งโครงสร้าง จำนวน 4 องค์ประกอบ รวม 12 ข้อ ระยะที่ 2 ทำการสร้างแนวทางการบริหารจัดการหลักสูตรและการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง สำหรับโรงเรียนในสังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาฬสินธุ์ โดยการนำข้อมูลจาก ระยะที่ 1 ทั้ง 2 ส่วน มาจัดทำร่างแนวทางการพัฒนา และจัดสนทนากลุ่ม (Focus Group) โดยอาศัยผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวน 9 คน เพื่อพิจารณาความเหมาะสม ต่อจากนั้นนำข้อเสนอแนะที่ได้มาปรับปรุงแนวทางทางการบริหารจัดการหลักสูตรและการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง สำหรับโรงเรียนในสังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาฬสินธุ์ เครื่องมือที่ใช้ ได้แก่ แบบสังเกตการสนทนากลุ่มและแบบสอบถามความเหมาะสมและความเป็นไปได้ สถิติที่ใช้ คือ ค่าเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
ผลการวิจัยพบว่า
1. การศึกษาสภาพปัจจุบัน สภาพที่พึงประสงค์ของการบริหารจัดการหลักสูตรและการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง สำหรับโรงเรียนในสังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาฬสินธุ์ ประกอบด้วย 4 องค์ประกอบ พบว่า เข้าเกณฑ์ทั้ง 33 ตัวบ่งชี้ ( = 4.24-4.60) กล่าวคือ สภาพปัจจุบัน โดยรวมอยู่ในระดับมาก (
= 4.35) ส่วนสภาพที่พึงประสงค์ โดยรวมอยู่ในระดับมาก (
= 4.50) และการศึกษาโรงเรียนที่มีการปฏิบัติที่เป็นเลิศ (Best Practice) ประกอบด้วย 4 องค์ประกอบ พบว่า เมื่อสัมภาษณ์ผู้บริหาร หัวหน้ากลุ่มสาระและครูที่มีส่วนเกี่ยวข้อง สามารถสรุปประเด็นสำคัญเพิ่มเติมจากเดิม 33 ตัวบ่งชี้เป็น 50 ตัวบ่งชี้ ซึ่งจะนำไปใช้วิเคราะห์ในระยะที่ 2 ต่อไป
2. การสร้างแนวทางการบริหารจัดการหลักสูตรและการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง สำหรับโรงเรียนในสังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาฬสินธุ์ ผลจากการนำข้อมูลในระยะที่ 1 และผลการสนทนากลุ่มของผู้ทรงคุณวุฒิ ได้ทำการประเมินความเหมาะสมและความเป็นไปได้ของแนวทางการบริหารจัดการหลักสูตรและการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง สำหรับโรงเรียนในสังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาฬสินธุ์ ยังคงมี 4 องค์ประกอบ แต่เพิ่มเป็น 38 ตัวบ่งชี้และเข้าเกณฑ์ทั้ง 38 ตัวบ่งชี้ (= 4.42-4.58) ดังนั้นจึงนำผลการวิเคราะห์ข้อมูลในระยะที่ 2 มาสร้างเป็นคู่มือเกี่ยวกับหลักของแนวทางการบริหารจัดการหลักสูตรและการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง สำหรับโรงเรียนในสังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้อย่างเหมาะสม
Article Details
เนื้อหาและข้อมูลในบทความที่ลงตีพิมพ์ในวารสารการวัดผลการศึกษา มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ถือเป็นข้อคิดเห็นและความรับผิดชอบของผู้เขียนบทความโดยตรง ซึ่งกองบรรณาธิการวารสาร ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย หรือร่วมรับผิดชอบใดๆ
บทความ ข้อมูล เนื้อหา รูปภาพ ฯลฯ ที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารการวัดผลการศึกษา มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ถือเป็นลิขสิทธิ์ของวารสารการวัดผลการศึกษา มหาวิทยาลัยมหาสารคาม หากบุคคลหรือหน่วยงานใดต้องการนำทั้งหมดหรือส่วนใดส่วนหนึ่งไปเผยแพร่ต่อหรือกระทำการใดๆ จะต้องได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจากวารสารการวัดผลการศึกษา มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ก่อนเท่านั้น
เอกสารอ้างอิง
กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น. (2559). ยุทธศาสตร์กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น พ.ศ. 2560 – 2569. กรุงเทพฯ: กองยุทธศาสตร์และแผนงาน กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น.
กระทรวงศึกษาธิการ. (2544). หลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2544. กรุงเทพฯ: พัฒนาคุณภาพวิชาการ.
จิราพร ผุยผง. (2560). การพัฒนาแนวทางการบริหารจัดการหลักสูตรและการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงสำหรับโรงเรียนสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 27. วิทยานิพนธ์การศึกษามหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยมหาสารคาม.
ถวัลย์ มาศจรัส. (2550). MODEL การจัดการเรียนรู้ตามแนวปรัชญาพระราชทานเศรษฐกิจพอเพียง. กรุงเทพฯ: ธารอักษร.
ปรียานุช พิบูลสราวุธ. (2550). การขับเคลื่อนเศรษฐกิจพอเพียงด้านการศึกษา. กรุงเทพฯ : ศูนย์ประสานงานกลางการดำเนินงานโครงการอันเนื่องจากพระราชดำริสำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ.
พรทิพย์ บรรเทา. (2558). แนวทางการบริหารสถานศึกษาตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงของสถานศึกษาในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 19 (เลย-หนองบัวลำภู).วิทยานิพนธ์การศึกษามหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยมหาสารคาม.
รุ่งฤดี โชติวิเชียร. (2558). การพัฒนารูปแบบการจัดการศึกษาตามแนวปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงในสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากาฬสินธุ์ เขต 1.วารสารศึกษาศาสตร์มหาวิทยาลัยมหาสารคาม, 9(ฉบับพิเศษ), 686-709.
สำนักงานคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน. (2554). หนังสือราชการ เรื่อง การขับเคลื่อนหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงสู่สถานศึกษา. ลงวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2554.
สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ. (2550). เศรษฐกิจพอเพียงคืออะไร / สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ.(พิมพ์ครั้งที่ 4). กรุงเทพฯ:คณะอนุกรรมการขับเคลื่อนเศรษฐกิจพอเพียง สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ.
สุนัย เศรษฐ์บุญสร้าง. (2551). การเรียนรู้ร่วมกันแบบมีเข็มมุ่งสู่วิถีเศรษฐกิจพอเพียง. กรุงเทพฯ : ซีเอ็ดยูเคชั่น.