ประสิทธิผลและความคงทนในการเรียนรู้ ประโยคเพื่อการสื่อสารภาษาจีน ด้วยการใช้เพลง และการสอนแบบปกติ
Main Article Content
บทคัดย่อ
งานวิจัยเรื่องประสิทธิผลและความคงทนในการเรียนรู้ ประโยคเพื่อการสื่อสารภาษาจีน ด้วยการใช้เพลง และการสอนแบบปกติ มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อเปรียบเทียบประสิทธิผลการเรียนรู้ ประโยคเพื่อการสื่อสารภาษาจีนระหว่างกลุ่มที่สอนด้วยการใช้เพลงเป็นสื่อ และกลุ่มที่สอนแบบปกติ 2) เพื่อศึกษาผลของการสอนด้วยการใช้เพลงเป็นสื่อ และการสอนแบบปกติ ที่มีต่อความคงทนในการเรียนรู้ ประโยคเพื่อการสื่อสารภาษาจีนกลุ่มตัวอย่างคือ นักศึกษาทุกชั้นปีที่ลงทะเบียนเรียนในรายวิชาการสนทนาภาษาจีนในชีวิตประจำวัน ประจำภาคการศึกษาที่ 2 ปีการศึกษา 2561 ของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตสุรินทร์ จำนวน 77 คน แบ่งเป็น 2 กลุ่มเรียน คือ กลุ่มที่สอนด้วยการใช้เพลงเป็นสื่อ 39 คน และกลุ่มที่สอนแบบปกติ 38 คน เครื่องมือในการวิจัย 1) แผนการจัดการเรียนรู้แบบใช้เพลงเป็นสื่อ จำนวน 12 แผน 2) แผนการจัดการเรียนรู้แบบการสอนปกติ จำนวน 12 แผน โดยจัดการเรียนรู้ตามแผนสัปดาห์ละ 2 ชั่วโมง รวมทั้งสิ้น 24 ชั่วโมง 3) แบบทดสอบผลการเรียนรู้ ระยะเวลาการศึกษาวิจัย 15 สัปดาห์ สถิติที่ใช้ในการศึกษาวิจัยคือ การหาค่าเฉลี่ย การหาค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และทดสอบหาค่าที (t-test) แบบ Independent
ผลการวิจัยมีดังนี้
1) การศึกษาเปรียบเทียบประสิทธิผลการเรียนรู้ ประโยคเพื่อการสื่อสารภาษาจีนระหว่างกลุ่มที่สอนด้วยการใช้เพลงเป็นสื่อ และกลุ่มที่สอนแบบปกติ พบว่า การสอนด้วยการใช้เพลงเป็นสื่อและการสอนแบบปกติมีประสิทธิผลการเรียนรู้ประโยคเพื่อการสื่อสารภาษาจีนไม่แตกต่างกัน
2) การศึกษาผลของการสอนด้วยการใช้เพลงเป็นสื่อ และการสอนแบบปกติ ที่มีต่อความคงทน ในการเรียนรู้ ประโยคเพื่อการสื่อสารภาษาจีน พบว่า การสอนด้วยการใช้เพลงเป็นสื่อ และการสอนแบบปกติ ทำให้นักศึกษามีความคงทนในการเรียนรู้ประโยคเพื่อการสื่อสารภาษาจีน
Article Details
เนื้อหาและข้อมูลในบทความที่ลงตีพิมพ์ในวารสารการวัดผลการศึกษา มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ถือเป็นข้อคิดเห็นและความรับผิดชอบของผู้เขียนบทความโดยตรง ซึ่งกองบรรณาธิการวารสาร ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย หรือร่วมรับผิดชอบใดๆ
บทความ ข้อมูล เนื้อหา รูปภาพ ฯลฯ ที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารการวัดผลการศึกษา มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ถือเป็นลิขสิทธิ์ของวารสารการวัดผลการศึกษา มหาวิทยาลัยมหาสารคาม หากบุคคลหรือหน่วยงานใดต้องการนำทั้งหมดหรือส่วนใดส่วนหนึ่งไปเผยแพร่ต่อหรือกระทำการใดๆ จะต้องได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจากวารสารการวัดผลการศึกษา มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ก่อนเท่านั้น
เอกสารอ้างอิง
กมลรัตน์ หล้าสุวงษ์. (2528). จิตวิทยาการศึกษาฉบับปรับปรุงใหม่. พิมพ์ครั้งที่ 3. กรุงเทพฯ: ภาควิชาการแนะแนวและจิตวิทยาการศึกษา คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทร์วิโรฒ ประสานมิตร.
ชลธิชา ทิพย์ดวงตา, ศักดา สวาทะนันทน์, นงลักษณ์ เขียนงาม และ พรสวรรค์ เพ่งพิศ. (2561). ผลการใช้ เพลงภาษาฝรั่งเศส เพื่อพัฒนาทักษะการเขียนประโยคความเดียวของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนวัฒโนทัยพายัพ จังหวัดเชียงใหม่. วารสารมนุษยศาสตร์ สังคมศาสตร์ และศิลปะ, 11(1): 42 - 56.
ชัยวัฒน์ สุทธิรัตน์. (2559). 80 นวัตกรรมการจัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ. พิมพ์ครั้งที่ 7. นนทบุรี: พีบาลานซ์ดีไซน์แอนปริ้นติ้ง.
ชูศรี วงศ์รัตนะ. (2560). เทคนิคการใช้สถิติเพื่อการวิจัย. พิมพ์ครั้งที่ 13. กรุงเทพฯ: อมรการพิมพ์.
ญาศินี อัศเวศน์. (2554). ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับการจัดการ. ปทุมธานี: มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล ธัญบุรี.
เนาวรัตน์ อินทรประสิทธิ์ และอาคม สระบัว. (2558). การใช้กิจกรรมเพลงภาษาอังกฤษ เพื่อส่งเสริมการออกเสียงต่อเนื่องกันในภาษาอังกฤษ. มหาวิทยาลัยราชมงคลสุวรรณภูมิ ศูนย์พระนครศรีอยุธยาหันตรา.
บุญชม ศรีสะอาด. (2542). วิธีการสถิติสำหรับการวิจัย. พิมพ์ครั้งที่ 2. กรุงเทพฯ: สุวีริยาสาสน์.
พิชิต ฤทธิ์จรูญ. (2545). หลักการวัดและประเมินผลการศึกษา. พิมพ์ครั้งที่ 2. กรุงเทพฯ: เฮ้าส์ ออฟ เคอร์มีสท์.
ไพลิน แก้วดก และทัศน์ศิรินทร์ สว่างบุญ. (2562). การศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและความคิดสร้างสรรค์ ทางวิทยาศาสตร์ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โดยการใช้การสอนแบบสร้างสรรค์เป็นฐาน: การวิจัยผสานวิธี. วารสารการวัดผลการศึกษา มหาวิทยาลัยมหาสารคาม, 25(1): 206 - 224.
รุจิร์ ภู่สาระ. (2555). การเขียนแผนการเรียนรู้. กรุงเทพฯ: บุ๊ค พอยท์.
วันวิสา กองเสน. (2558). การศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ความคงทนในการเรียนรู้ และเจตคติต่อการเรียนวิชาชีววิทยา เรื่องอาณาจักรของสิ่งมีชีวิต ด้วยการจัดการเรียนรู้แบบวัฏจักรสืบเสาะหาความรู้ 7 ขั้นร่วมกับเทคนิคการใช้ผังความคิดของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6. วิทยานิพนธ์วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต, มหาวิทยาลัยบูรพา.
สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา. (2560). แผนการศึกษาแห่งชาติ พศ. 2560 - 2579. กรุงเทพฯ: กระทรวงศึกษาธิการ.
สิรินธร สินจินดาวงศ์. (2547). วิธีการวิเคราะห์ข้อสอบ. วารสารวิจัยศรีปทุมปริทัศน์, 4(1): 21 - 33.
สุภัชญา สวัสดิ์โยธิน. (2557). ปัญหาการเรียนการสอนวิชาการสนทนาภาษาจีนในชีวิตประจำวัน มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตสุรินทร์. วารสารวิจัยมหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์, 2(4): 73 - 81.
อัศรภูมิ จารุภากร และ พรพิไล เลิศวิชา. (2550). สมอง เรียนรู้. กรุงเทพฯ: ศิริวัฒนาอินเตอร์พรินท์.
Aguirre, Diego ; Bustinza, Daisyi and Garvich, Mijail. (2016). Influence of Songs in Primary School Students Motivation for Learning English in Lima, Peru. English Language Teaching, V9, p2.
Atkinson, R. C., & Shiffrin, R. M. (1968). Human memory: A proposed system and its control processes. Cited from K. W., & Spence, J. T. The psychology of learning and motivation (Volume 2). New York: Academic Press.
Baddeley, A.D. (2012). Working memory: theories, model, and controversies. Annual Review of Psychology, 63 (1), 1 - 29.
Chen, Ai-Hwa. (2016). Perspectives upon Integrating Music into Freshman English Pronunciation Training Classroom. Asian Journal of Education and Training, V2, p1.
Matlin. M. W. (1995). Psychology. 2nd ed.: Holt Rinehart and Winston, Inc.
Ramburuth, P and Daniel, S. (2011). Integrating Experiential Learning and cases in International Business. Journal of Teaching in International Business, 22(1), 38 - 50.
Yamane Taro. (1967). Statistics, An Introductory Analysis. 2nd ed. New York: Harper and Row.
Yee Pinn Tsin and Isabel. (2015). Composing Songs for Teaching Science to College Students. Universal Journal of Educational Research, V3, p10.
Yu Yue. (2012). A study of English Learning Motivation of Less Successful Student. Journal of Contemporary English Teaching and Learning in Non - English Speaking Countries, 1(2), 1 - 20.