การพัฒนาข้อเสนอเชิงนโยบายการจัดการศึกษาโรงเรียนศูนย์ปฐมวัยต้นแบบสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุตรดิตถ์เขต 1

Main Article Content

อุษณี กำพร้า
สุมิตรา โรจนนิติ

บทคัดย่อ

           การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อประเมินการดำเนินงานตามนโยบายการจัดการศึกษาปฐมวัย ตามมิติของการประเมิน CIPPIEST เพื่อพัฒนาข้อเสนอเชิงนโยบายการจัดการศึกษาปฐมวัย และเพื่อตรวจสอบข้อเสนอเชิงนโยบายการจัดการศึกษาปฐมวัยโรงเรียนศูนย์ปฐมวัยต้นแบบสังกัดเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุตรดิตถ์เขต 1 ตามเกณฑ์ความเหมาะสม และความเป็นไปได้ประชากรในการวิจัยครั้งนี้ประกอบด้วย ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุตรดิตถ์เขต 1 ศึกษานิเทศก์ผู้อำนวยการโรงเรียน ครูผู้สอนระดับปฐมวัยและผู้ปกครองนักเรียนระดับปฐมวัยของโรงเรียนศูนย์ปฐมวัยต้นแบบ สังกัดเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุตรดิตถ์ เขต 1 กลุ่มตัวอย่างใช้เทคนิคการเลือกกลุ่มตัวอย่างแบบเจาะจง ประกอบด้วยผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุตรดิตถ์ เขต 1 จำนวน 1 คน ศึกษานิเทศก์ 2 คน ผู้อำนวยการโรงเรียน 6 คน และครูผู้สอนระดับปฐมวัย 36 คน ส่วนผู้ปกครองนักเรียนใช้เทคนิคการสุ่มตัวอย่างแบบง่าย โดยกำหนดขนาดกลุ่มตัวอย่างจำนวน 297 คนรวมกลุ่มตัวอย่างทั้งสิ้น 342 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยได้แก่แบบสอบถามสภาพการดำเนินงานตามนโยบายการจัดการศึกษาปฐมวัยแบบสัมภาษณ์เชิงลึกแบบบันทึกประเด็นข้อเสนอเชิงนโยบายสำหรับการสนทนากลุ่มและแบบสอบถามความคิดเห็นผู้เชี่ยวชาญ การวิเคราะห์ข้อมูลวิเคราะห์โดยใช้ค่าเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ส่วนการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงคุณภาพใช้การวิเคราะห์เนื้อหา


           ผลการวิจัยพบว่า การดำเนินงานของโรงเรียนศูนย์ปฐมวัยต้นแบบตามการประเมิน CIPPIEST มีผลการประเมินอยู่ในระดับมากถึงมากที่สุด ทั้งด้านบริบท ด้านปัจจัยนำเข้า ด้านกระบวนการ และด้านผลผลิต ซึ่งผู้ให้ข้อมูลหลักระบุว่าการขยายผลผลิตทั้งด้านผลกระทบ ประสิทธิผล ความยั่งยืน และการถ่ายทอดส่งต่อมีความเป็นจริง สามารถนำมาพัฒนาเป็นข้อเสนอเชิงนโยบายของการบริหารงานทั้ง 4 ด้าน คือ ด้านการบริหารงานวิชาการ การบริหารงานบุคคล การบริหารงานงบประมาณ และการบริหารงานทั่วไปได้ทั้งหมด 12 ประเด็น ประกอบด้วย 1) พัฒนาโครงการและหลักสูตรให้สอดคล้องกับความต้องการของเด็ก สถานศึกษา และท้องถิ่น 2) พัฒนาสถานศึกษาให้เป็นศูนย์วิชาการต้นแบบร่วมกับผู้ปกครอง และหน่วยงานอื่นๆ 3) พัฒนาการจัดการเรียนการสอนที่เน้นเด็กเป็นสำคัญ มีการบูรณาการใช้แหล่งการเรียนรู้ภายในโรงเรียนจัดประสบการณ์ต่างๆ ให้กับเด็ก และมีการประเมินพัฒนาการที่ได้มาตรฐาน 4) พัฒนาการจัดการศึกษาปฐมวัย โดยการบูรณาการเทคโนโลยี ภาษาต่างประเทศเข้ามาจัดกิจกรรมให้แก่ผู้เรียน และขยายผลการดำเนินงานของโรงเรียนศูนย์ปฐมวัยต้นแบบอย่างต่อเนื่อง 5) พัฒนาและส่งเสริมความพร้อมด้านการจัดการศึกษาพิเศษสำหรับเด็กที่มีความต้องการพิเศษในการเรียนร่วม 6) พัฒนาครูผู้สอนให้มีความรู้ ความสามารถ มีวุฒิทางการศึกษาตรงตามความรู้ที่สอน มีจิตสำนึก และความรับผิดชอบต่อการปฏิบัติหน้าที่ 7) ส่งเสริมให้ครูได้ปฏิบัติหน้าที่เต็มตามศักยภาพ ความสามารถ ความถนัด และตรงตามวุฒิการศึกษาที่จบมา 8) พัฒนาระบบโครงสร้างการบริหารงานโดยการมอบหมายงาน และความรับผิดชอบให้ฝ่ายต่างๆได้อย่างเหมาะสม 9) ปรับปรุงและพัฒนาแผนการใช้จ่ายงบประมาณของโรงเรียนศูนย์เด็กปฐมวัยต้นแบบ อย่างต่อเนื่อง และให้มีการดำเนินการเบิกจ่ายงบประมาณได้อย่างถูกต้อง 10) พัฒนาระบบการบริหารงานงบประมาณ โดยมุ่งเน้นความเป็นอิสระ ความโปร่งใส ความคล่องตัว ความคุ้มค่า ประหยัด และสามารถตรวจสอบได้ 11) พัฒนาระบบการให้บริการ อาหาร เครื่องดื่มและอาหารเสริมนม และมีการสนับสนุนให้วางแผนจัดสภาพแวดล้อมในศูนย์เด็กปฐมวัยต้นแบบให้มีความเหมาะสม และ 12) พัฒนาระบบสารสนเทศและการประชาสัมพันธ์ที่หลากหลายโดยการตรวจสอบความเหมาะสมและความเป็นไปได้ของผู้เชี่ยวชาญ พบว่าในภาพรวมมีความเหมาะสมและความเป็นไปได้อยู่ในระดับมากที่สุด         ( gif.latex?\bar{x}=4.82, S.D.=0.47  และ gif.latex?\bar{x}=4.86,S.D.=0.39 ตามลำดับ)

Article Details

ประเภทบทความ
บทความวิจัย

เอกสารอ้างอิง

กระทรวงศึกษาธิการ. (2546). หลักสูตรการศึกษาปฐมวัยพุทธศักราช 2546. กรุงเทพมหานคร:
โรงพิมพ์ครุสภาลาดพร้าว.
กุลนาถ อัจฉริยะสงคราม. (2554).ศึกษาสภาพการบริหารงานวิชาการของสถานศึกษาสังกัด สำนักงานเขต
พื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพิษณุโลก เขต 2. สารนิพนธ์การศึกษามหาบัณฑิต สาขาการบริหาร
การศึกษา: มหาวิทยาลัยนเรศวร.
นันทนา สมิงไพร. (2558). ศึกษาการบริหารงานงบประมาณแบบมุ่งเน้นผลงานตามความคิดเห็นของผู้บริหาร
สถานศึกษาและครูในสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 9 จังหวัด
สุพรรณบุรี.วารสารวิจัยราชภัฏกรุงเก่าปีที่ 2 ฉบับที่ 1 มกราคม - เมษายน 2558. มหาวิทยาลัย
ราชภัฏพระนครศรีอยุธยา.
บุญมี พันธุ์ไทย. (2545). ระเบียบวิธีวิจัยการศึกษาเบื้องต้น. กรุงเทพมหานคร: สำนักพิมพ์
มหาวิทยาลัยรามคำแหง.
พงษ์ศักดิ์ ภูกาบขาว. (2553). ข้อเสนอเชิงนโยบายเพื่อความมีประสิทธิผลของโรงเรียนเรียนร่วมจังหวัด
ขอนแก่น. วิทยานิพนธ์ปริญญาปรัชญาดุษฎีบัณฑิต, มหาวิทยาลัยขอนแก่น.
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน. (2548). แนวดำเนินงานโรงเรียนศูนย์ปฐมวัยต้นแบบ. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์องค์กรรับส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์(ร.ส.พ.).
______. (2558). รายงานผลการประเมินโรงเรียนอนุบาลประจำจังหวัด โรงเรียนศูนย์ปฐมวัยต้นแบบ และโรงเรียนศูนย์ปฐมวัยต้นแบบเครือข่าย ปีการศึกษา 2556. กรุงเทพฯ: ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย จำกัด.
สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา. (2555). รายงานผลการติดตามและประเมินผลนโยบายและยุทธศาสตร์
การพัฒนาเด็กปฐมวัย(๐-๕ ปี) ระยะยาว พ.ศ. ๒๕๕๐-๒๕๕๙ ช่วงครึ่งแผนแรก พ.ศ. ๒๕๕๐-๒๕๕๔.กรุงเทพฯ: กระทรวงศึกษาธิการ สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษาสำนักมาตรฐานการศึกษา
และพัฒนาการเรียนรู้.
สำนักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา. (2554). การศึกษาประสิทธิภาพการจัดการศึกษาของโรงเรียนศูนย์ปฐมวัยต้นแบบ. กรุงเทพฯ: กระทรวงศึกษาธิการ.
สุเทพ กันแยม (2557). ศึกษาความต้องการและแนวทางการจัดการศูนย์พัฒนาเด็กเล็กแบบมีส่วนร่วมของเครือข่ายการจัดการศึกษาปฐมวัย.สารนิพนธ์การศึกษามหาบัณฑิต สาขาวิชาการศึกษา:
มหาวิทยาลัยนเรศวร.
อัญชลี อุทธิยา. (2556) ศึกษาความคิดเห็นของครูผู้สอนปฐมวัยที่มีต่อการบริหารงานวิชาการ ที่สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพิษณุโลกเขต 3.สารนิพนธ์การศึกษามหาบัณฑิต
สาขาการบริหารการศึกษา: มหาวิทยาลัยนเรศวร.
Guskey, T.R. (2000), Evaluation professional development. California: A Sage Publication Company.
Mullawee Rchefolle. (2011). The development of the effective sub district school through the partnership process in Thailand. the Degree Doctor of Philosophy.Department
of Educational Administration: Silpakorn University