การสังเคราะห์งานวิจัยเกี่ยวกับวิธีจัดการเรียนรู้ที่ส่งผลต่อการคิดวิเคราะห์ ของนักเรียนระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานโดยการวิเคราะห์อภิมาน
Main Article Content
บทคัดย่อ
การพัฒนาการคิดวิเคราะห์ของผู้เรียนให้สูงขึ้นนั้นได้มีการนำวิธีจัดการเรียนรู้ที่หลากหลายมาใช้ใน
การจัดการเรียนการสอนเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด การวิจัยเกี่ยวกับวิธีจัดการเรียนรู้ที่ส่งผลต่อการคิด
วิเคราะห์มีผู้วิจัยไว้เป็นจำนวนมาก มีข้อค้นพบที่สอดคล้องและขัดแย้งกัน เพื่อให้ได้ข้อสรุปของงานวิจัยเกี่ยวกับ
วิธีจัดการเรียนรู้ที่ส่งผลต่อการคิดวิเคราะห์การวิจัยครั้งนี้จึงมีจุดมุ่งหมายเพื่อสังเคราะห์งานวิจัยเกี่ยวกับวิธีการ
จัดการเรียนรู้ที่ส่งผลต่อการคิดวิเคราะห์ ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานโดยการวิเคราะห์อภิมาน งานวิจัยที่นำมา
สังเคราะห์ เป็นการศึกษาค้นคว้าอิสระหรือสาระนิพนธ์ วิทยานิพนธ์หรือปริญญานิพนธ์ระดับมหาบัณฑิต
งานวิจัยของคณาจารย์มหาวิทยาลัยของรัฐและหน่วยงานราชการในประเทศไทย ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2544-2552
จำนวน 70 เรื่อง คำานวณค่าขนาดอิทธิพลโดยการวิเคราะห์อภิมานด้วยวิธีของ กลาส (Glass. 1976)
เปรียบเทียบค่าขนาดอิทธิพลโดยการวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว ศึกษาปฏิสัมพันธ์โดยการวิเคราะห์
ความแปรปรวนสองทาง
ผลการวิจัยปรากฏดังนี้
1. ข้อมูลพื้นฐานงานวิจัยที่ศึกษาเกี่ยวกับวิธีจัดการเรียนรู้ที่ส่งผลต่อการคิดวิเคราะห์ จำนวน 70 เรื่อง
พบว่า ปีที่มีการพิมพ์เผยแพร่มากที่สุด คือ ปี พ.ศ. 2550 งานวิจัยส่วนใหญ่มาจากสาขาวิชาหลักสูตรและ
การสอนสถาบันที่ผลิตงานวิจัยมากที่สุด คือ มหาวิทยาลัยมหาสารคามประเภทงานวิจัยที่ศึกษาส่วนใหญ่เป็น
ปริญญานิพนธ์หรือวิทยานิพนธ์ในกลุ่มสาระการเรียนคณิตศาสตร์มากที่สุด ส่วนใหญ่ศึกษาในระดับช่วงชั้นที่ 3 วิธีจัดการเรียนรู้ตามแนวทฤษฎี Constructivism มีการศึกษามากที่สุด
แหล่งข้อมูลที่ศึกษาเป็นกลุ่มตัวอย่างและมีการกำหนดกลุ่มตัวอย่างโดยการกำหนดเองมากที่สุดลักษณะการสุ่ม
ที่ใช้มากที่สุด คือ สุ่มแบบแบ่งกลุ่ม ส่วนใหญ่เป็นนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 การตั้งสมมุติฐานแบบมี
ทิศทางมากที่สุด แบบแผนการวิจัยที่ศึกษามากที่สุด คือ แบบ Randomized Control Group Pretest–
Posttest Design จำนวนกลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยมากที่สุด คือ 2 กลุ่ม จำนวนกลุ่มตัวอย่างหรือประชากร
ศึกษามากที่สุด คือ 41-70 คน จำนวนตัวแปรอิสระ 1 ตัวแปร คือ วิธีจัดการเรียนรู้มีการศึกษามากที่สุด
ส่วนจำนวนตัวแปรตามที่ศึกษามากที่สุด คือ 2 ตัวแปร ได้แก่ ตัวแปรการคิดวิเคราะห์และผลสัมฤทธิ์
ทางการเรียน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล พบว่า ใช้แบบทดสอบวัดความสามารถในการคิดวิเคราะห์
มากที่สุด สถิติพื้นฐานที่ใช้ในการวิจัยมากที่สุด คือ ค่าเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานส่วนสถิติทดสอบ
สมมุติฐานที่ใช้มากที่สุด คือ t-test และลักษณะการวิเคราะห์ข้อมูลส่วนใหญ่ไม่ระบุ
2. ค่าเฉลี่ยขนาดอิทธิพลของวิธีจัดการเรียนรู้ที่ส่งผลต่อการคิดวิเคราะห์แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ
ทางสถิติที่ระดับ .05 เมื่อเปรียบเทียบรายคู่ พบว่า วิธีจัดการเรียนรู้โดยใช้เทคโนโลยี ส่งผลต่อการคิดวิเคราะห์
สูงกว่าวิธีจัดการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือ ส่วนวิธีจัดการเรียนรู้คู่อื่น ๆ ส่งผลต่อการคิดวิเคราะห์ไม่แตกต่างกัน
3. ระหว่างวิธีจัดการเรียนรู้ที่ส่งผลต่อการคิดวิเคราะห์กับกลุ่มสาระการเรียนรู้ ไม่มีปฏิสัมพันธ์กัน
4. ระหว่างวิธีจัดการเรียนรู้ที่ส่งผลต่อการคิดวิเคราะห์กับระดับช่วงชั้นไม่มีปฏิสัมพันธ์กัน
โดยสรุป วิธีจัดการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือ โดยใช้เทคโนโลยี ตามแนวทฤษฎี Constructivism และ
แบบบูรณาการส่งผลต่อการคิดวิเคราะห์สูงกว่าการสอนตามปกติและแต่ละวิธีจัดการเรียนรู้ส่งผลแตกต่างกัน
อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ดังนั้นครูผู้สอนควรเลือกใช้วิธีจัดการเรียนรู้ให้เหมาะสมกับความสามารถของผู้เรียน
และสภาพแวดล้อมของการเรียนการสอนเพื่อให้ผู้เรียนมีการคิดวิเคราะห์สูงขึ้นและสามารถนำไปใช้ในชีวิต
ประจำวันได้
Article Details
เนื้อหาและข้อมูลในบทความที่ลงตีพิมพ์ในวารสารการวัดผลการศึกษา มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ถือเป็นข้อคิดเห็นและความรับผิดชอบของผู้เขียนบทความโดยตรง ซึ่งกองบรรณาธิการวารสาร ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย หรือร่วมรับผิดชอบใดๆ
บทความ ข้อมูล เนื้อหา รูปภาพ ฯลฯ ที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารการวัดผลการศึกษา มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ถือเป็นลิขสิทธิ์ของวารสารการวัดผลการศึกษา มหาวิทยาลัยมหาสารคาม หากบุคคลหรือหน่วยงานใดต้องการนำทั้งหมดหรือส่วนใดส่วนหนึ่งไปเผยแพร่ต่อหรือกระทำการใดๆ จะต้องได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจากวารสารการวัดผลการศึกษา มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ก่อนเท่านั้น