การศึกษาความเที่ยงตรงของการประมาณค่าในการวิเคราะห์โมเดลสมการ
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อศึกษาความเที่ยงตรงของวิธีการประมาณค่าพารามิเตอร์สำ หรับงานวิจัย โมเดลสมการโครงสร้างพหุระดับภายใต้เงื่อนไขขนาดตัวอย่างของแต่ละระดับการวิเคราะห์ที่แตกต่างกัน การวิจัยนี้ใช้การวิเคราะห์ทุติยภูมิ โดยคัดเลือกข้อมูลจากโครงการการศึกษาโอกาสในการเรียนรู้ทางด้าน คณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ของสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และ เทคโนโลยี (สสวท.) สุ่มข้อมูลตามเงื่อนไขขนาดตัวอย่างระดับที่สอง 50 โรงเรียน, 30 โรงเรียนและ 15 โรงเรียน ขนาดตัวอย่างระดับที่หนึ่ง โรงเรียนละ 10 คน, โรงเรียนละ 5 คนและขนาดเท่ากับแต่ละโรงเรียนที่เก็บจริง (10-40) วิเคราะห์ข้อมูลแต่ละเงื่อนไขด้วยวิธีการประมาณค่า 2 วิธี คือ Full Information Maximum Likelihood (FIML) และ Robust Maximum Likelihood (RML) และตรวจสอบความเที่ยงตรงโดยพิจารณา จากการประมาณค่าน้ำ หนักองค์ประกอบ ค่าสัมประสิทธิ์เส้นทางและค่าสัมประสิทธิ์อิทธิพลข้ามระดับโดยการ เปรียบเทียบค่าสถิติกับค่าพารามิเตอร์ของประชากร ด้วยการวิเคราะห์สถิติทดสอบที ผลการวิจัยสรุปได้ดังนี้ 1. การทดสอบความเที่ยงตรงของการประมาณค่าพารามิเตอร์ระหว่าง วิธีการประมาณค่า พารามิเตอร์แบบ FIML และ RML พบว่า เมื่อกลุ่มตัวอย่างระดับที่สอง 50 โรงเรียน และ 30 โรงเรียน กลุ่มตัวอย่างระดับที่หนึ่ง โรงเรียนละ 5 คน โรงเรียนละ 10 คน และจำ นวนนักเรียนที่เก็บจริง แต่ละโรงเรียน (10-40 คน) ทั้งสองวิธีประมาณค่าน้ำ หนักองค์ประกอบ ค่าสัมประสิทธิ์เส้นทางและค่าสัมประสิทธิ์ อิทธิพลข้ามระดับไม่ต่างกัน แสดงว่าการประมาณค่าทั้งสองวิธีให้ผลการประมาณค่าที่มีความเที่ยงตรงไม่ต่างกัน ส่วนกรณีขนาดตัวอย่างระดับที่สอง 15 โรงเรียน ตัวอย่างระดับที่หนึ่งเก็บจริงแต่ละโรงเรียน (10–40 คน) วิธีการประมาณค่าแบบ RML ประมาณค่าต่าง ๆ ได้ครบส่วนวิธีการประมาณค่าพารามิเตอร์แบบ FIML ไม่สามารถประมาณค่าต่าง ๆ ได้ครบ
2. การกำหนดขนาดตัวอย่างระดับที่สอง 50 โรงเรียน 30 โรงเรียน ทั้งกรณีกลุ่มตัวอย่างระดับที่ 1 โรงเรียนละ 5 คน โรงเรียนละ 10 คน และจำ นวนนักเรียนที่เก็บจริงแต่ละโรงเรียน (10-40 คน) วิธีการประมาณ ค่าแบบ FIML และ RML ประมาณค่า ค่าน้ำ หนักองค์ประกอบ ค่าสัมประสิทธิ์เส้นทางและค่าสัมประสิทธิ์อิทธิพล ข้ามระดับที่มีความเที่ยงตรง และขนาดตัวอย่างระดับที่สองอย่างน้อย 15 โรงเรียน วิธีการประมาณค่าแบบ RML ประมาณค่าน้ำ หนักองค์ประกอบ ค่าสัมประสิทธิ์เส้นทางและค่าสัมประสิทธิ์อิทธิพลข้ามระดับที่มีความเที่ยงตรง 3. การกำ หนดขนาดตัวอย่างระดับที่หนึ่ง อย่างน้อยโรงเรียนละ 5 คน วิธีการประมาณค่าพารา มิเตอร์แบบ FIML และ RML ให้ผลการประมาณค่าน้ำ หนักองค์ประกอบ ค่าสัมประสิทธิ์เส้นทางและค่า สัมประสิทธิ์อิทธิพลข้ามระดับที่มีความเที่ยงตรง
Article Details
เนื้อหาและข้อมูลในบทความที่ลงตีพิมพ์ในวารสารการวัดผลการศึกษา มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ถือเป็นข้อคิดเห็นและความรับผิดชอบของผู้เขียนบทความโดยตรง ซึ่งกองบรรณาธิการวารสาร ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย หรือร่วมรับผิดชอบใดๆ
บทความ ข้อมูล เนื้อหา รูปภาพ ฯลฯ ที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารการวัดผลการศึกษา มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ถือเป็นลิขสิทธิ์ของวารสารการวัดผลการศึกษา มหาวิทยาลัยมหาสารคาม หากบุคคลหรือหน่วยงานใดต้องการนำทั้งหมดหรือส่วนใดส่วนหนึ่งไปเผยแพร่ต่อหรือกระทำการใดๆ จะต้องได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจากวารสารการวัดผลการศึกษา มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ก่อนเท่านั้น