การวิจัยแบบมีส่วนร่วมเพื่อพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษา รายวิชาเพิ่มเติม เรื่อง การออกแบบลายผ้ามัดหมี่ภูมิปัญญาท้องถิ่นไทยโส้บ้านโพนจาน จังหวัดนครพนม

Main Article Content

รุ่งเรือง ราชมณี
สมบัติ ท้ายเรือคำา
อรัญ ซุยกระเดื่อง

บทคัดย่อ

หลักสูตรสถานศึกษารายวิชาเพิ่มเติมเป็นหลักสูตรที่พัฒนาจากความต้องการและสอดคล้องกับสภาพ
สังคมท้องถิ่น ครอบคลุมมาตรฐานการเรียนรู้ ตามหลักสูตรแกนกลาง เปิดโอกาสให้นักเรียน ชุมชน สังคมเข้ามา
มีส่วนร่วมในการกำาหนดและพัฒนาลำดับขั้นของมวลประสบการณ์ที่ก่อให้เกิดการเรียนรู้อย่างยั่งยืน การวิจัย
ครั้งนี้ มีความมุ่งหมายเพื่อ 1) ศึกษาความต้องการจำเป็นในการพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษารายวิชาเพิ่มเติม
2) พัฒนาหลักสูตรสถานศึกษารายวิชาเพิ่มเติม 3) ทดลองใช้หลักสูตรสถานศึกษารายวิชาเพิ่มเติม 4) ประเมิน
ผลการทดลองใช้หลักสูตรสถานศึกษารายวิชาเพิ่มเติม กลุ่มเป้าหมาย คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2/2
โรงเรียนบ้านโพนจาน สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษานครพนม เขต 2 จำานวน 30 คน ได้โดยวิธีการสุ่มแบบกลุ่ม
เครื่องมือที่ใช้เก็บรวบรวมข้อมูล ได้แก่ หลักสูตรสถานศึกษารายวิชาเพิ่มเติม เรื่องการออกแบบลายผ้ามัดหมี่
ภูมิปัญญาท้องถิ่นไทยโส้บ้านโพนจาน แบบสอบถามความคิดเห็นของนักเรียน แผนการจัดการเรียนรู้ แบทดสอบ
วัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน แบบสังเกตทักษะปฏิบัติ แบบสังเกตคุณลักษณะอันพึงประสงค์ แบบสัมภาษณ์
อย่างไม่เป็นทางการและแบบสอบถามความพึงพอใจที่มีต่อการเรียน วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบน
มาตรฐานร้อยละและ t-test (Dependent Sample) ข้อมูลเชิงคุณภาพใช้วิธีวิเคราะห์เนื้อหา สร้างข้อสรุป
แบบอุปนัย เขียนบรรยาย ผลการวิจัยพบว่า ครู ผู้ปกครอง นักเรียนและชุมชนมีความต้องการพัฒนาหลักสูตร
สถานศึกษารายวิชาเพิ่มเติม เรื่องการออกแบบลายผ้ามัดหมี่ภูมิปัญญาท้องถิ่นไทยโส้บ้านโพนจาน อยู่ในระดับ
มาก หลักสูตรที่พัฒนาขึ้นมีความสอดคล้องและเหมาะสมประกอบด้วย ความนำ วิสัยทัศน์ จุดหมาย สมรรถนะ
ที่สำาคัญของนักเรียนคุณลักษณะอันพึงประสงค์ มาตรฐานการเรียนรู้ สาระการเรียนรู้ คำอธิบายรายวิชา
ผลการเรียนรู้ หน่วยการเรียนรู้ กิจกรรมการเรียนรู้ สื่อการเรียนรู้ การวัดและประเมินผล ชุมชนมีส่วนร่วมใน
การพัฒนา สามารถจัดสาระการเรียนรู้ได้ตามความต้องการ ความถนัดและความสนใจของนักเรียน ผลการ
ทดลองใช้หลักสูตร พบว่า นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำาคัญทางสถิติที่ระดับ
.05 มีทักษะปฏิบัติคิดเป็นร้อยละ 84.75 และคุณลักษณะอันพึงประสงค์คิดเป็นร้อยละ 82.97 ครู ผู้ปกครอง
และนักเรียนมีความพึงพอใจต่อการเรียนตามหลักสูตรที่พัฒนาขึ้นอยู่ในระดับมากที่สุด
โดยสรุปหลักสูตรสถานศึกษาที่พัฒนาขึ้นมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลเหมาะสมสอดคล้องกับความ
ต้องการของผู้เรียนและชุมชน ครู นักเรียนและผู้ปกครอง มีความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด ดังนั้นหลักสูตรนี้
สามารถนำไปใช้เป็นแนวทางเพื่อสร้างหลักสูตรสถานศึกษาในรายวิชาอื่น ๆ และในโรงเรียนอื่น ๆ ได้

Article Details

ประเภทบทความ
บทความวิจัย