การยกระดับผลสัมฤทธิ์ด้านการอ่าน คิดวิเคราะห์และเขียน สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษา โดยใช้การออกแบบการบริหารหลักสูตรและการจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดสตรีม

Main Article Content

ตรีคม พรมมาบุญ

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วม มีวัตถุประสงค์ (1) เพื่อประเมินคุณภาพ  การออกแบบการบริหารหลักสูตรและการจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดสตรีมของครูภาษาไทย (2) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ด้านการอ่าน คิดวิเคราะห์และเขียนก่อนและหลังเรียนในหน่วยการเรียนรู้ที่ครูภาษาไทยออกแบบการบริหารหลักสูตรและการจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดสตรีม ผู้ร่วมวิจัยเป็นครูภาษาไทย จำนวน 17 คน กลุ่มตัวอย่างคือนักเรียนชั้นประถมศึกษาชั้นปีที่ 4 และ 5 จำนวน 110 คน เครื่องมือในการวิจัยคือ แผนการจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดสตรีม จำนวน 2 แผน รวม 4 ชั่วโมง และแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ด้านการอ่าน ชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก แบบทดสอบการคิดวิเคราะห์และเขียนเป็นชนิดเขียนตอบ วิเคราะห์ข้อมูลใช้ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และ Dependent Samples t-test ผลการวิจัยพบว่า


1) ผลการประเมินคุณภาพการออกแบบการบริหารหลักสูตรและการจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดสตรีมของครูภาษาไทยอยู่ในระดับดี (gif.latex?\bar{x} = 4.24, S.D. = 0.64)


2) ผลสัมฤทธิ์ด้านการอ่าน คิดวิเคราะห์และเขียนทั้งสามด้านของนักเรียนทุกโรงเรียนในหน่วยการเรียนรู้ที่ครูออกแบบการบริหารหลักสูตรและการจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดสตรีมหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

Article Details

ประเภทบทความ
บทความวิจัย

เอกสารอ้างอิง

กมลฉัตร กล่อมอิ่ม. (2559). การพัฒนาการจัดการเรียนรู้แบบบูรณาการสะเต็มศึกษาเพื่อส่งเสริความสามารถในการคิดวิเคราะห์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษา. มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบูรณ์:เพชรบูรณ์.

กระทรวงศึกษาธิการ. (2552). หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551.กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย จำกัด.

คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์. (2562). รายงานการสำรวจสภาพปัจจุบันด้านการอ่าน เขียนและคิดวิเคราะห์ของนักเรียนระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน จังหวัดสุรินทร์. มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์.

บุรีรัตน์ จินดาศรี. (2552). การพัฒนาทักษะในการอ่าน คิดวิเคราะห์ และเขียนภาษาไทย โดยใช้สถานการณ์จำลอง สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนในกลุ่มตำบลสระตะเคียน จังหวัดนครราชสีมา. หลักสูตรปริญญาศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต แขนงวิชาหลักสูตรและการสอน สาขาวิชาศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช.

ภัสสร ติดมา มะลิวรรณ นาคขุนทด และ สิรินภา กิจเกื้อกูล. (2558). การจัดการเรียนรู้ตามแนวทาง STEM Education เรื่องระบบของร่างกายมนุษย์ เพื่อส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2. วารสารราชพฤกษ์, 13(3),71-76.

นัสรินทร์ บือซา. (2558). ผลการจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดสะเต็มศึกษา (STEM Education) ที่มีต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนชีววิทยา ความสามารถในการแก้ปัญหาและความพึงพอใจต่อการจัดการเรียนรู้ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5. วิทยานิพนธ์ปริญญาศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต . สาขาวิชาการสอน วิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์.

พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พุทธศักราช 2542. (2542). ราชกิจจานุเบกษา. หน้า 42-48.

ฟัตมาอัสไวนี ตาเย๊ะ, ณัฐินี โมพันธุ์ และ มัฮดี แวดราแม. (2560). ผลของการจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดสะตีมศึกษาที่มีต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิทยาศาสตร์ ความคิดสร้างสรรค์ และความพึงพอใจต่อการจัดการเรียนรู้ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5. วารสารสาขามนุษย์ศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์, 4(2), 1-14.

ยศวีร์ สายฟ้า. (2555). การเสริมสร้าง วิทย์ เทคโนโลยี ศิลปะ และคณิตศาสตร์ ด้วย STEAM Model [ออนไลน์]. จาก http://www.educathai.com/workshop_download_handout_download.php?id=60&page=4 [สืบค้นวันที่ 15 มกราคม 2563].

วิจารณ์ พานิช. (2555). วิถีสร้างการเรียนรู้เพื่อศิษย์ในศตวรรษที่ 21. กรุงเทพฯ : มูลนิธิสดศรี-สฤษดิ์วงศ์.

สมเกียรติ ทานอก และคณะ. (2556). การพัฒนาครูโดยใช้กระบวนการสร้างระบบพี่เลี้ยง Coaching and Mentoring: คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา.

สุวิทย์ มูลคำ. (2547). กลยุทธ์การสอนคิดวิเคราะห์. พิมพ์ครั้งที่ 2 .กรุงเทพฯ : ห้างหุ้นส่วนจำกัดภาพพิมพ์.

สิริลักษณ์ บุ้งทอง และตรีคม พรมมาบุญ. (2563). การพัฒนาความสามารถของครูภาษาไทยในการออกแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้กระบวนการชี้แนะและการเป็นพี่เลี้ยง เพื่อยกระดับคุณภาพด้านการอ่าน การเขียนและการคิดวิเคราะห์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนบ้านละเอาะ อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์. วารสารวัดผลการศึกษา มหาวิทยาลัยมหาสารคาม, 26(1), 257-272.

สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา. (2558). โครงการปฏิรูปการเรียนรู้สู่ผู้เรียน (พ.ศ. 2557-2560) “สะท้อนปัญหาและทางออก ตอบโจทย์ปฏิรูปการศึกษาไทย”. กรุงเทพมหานคร: 21 เซ็นจูรี่.

สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน. (2562). ระบบจัดเก็บข้อมูลนักเรียนรายบุคคล (Data Management Center) ปีการศึกษา 2562 รอบที่ 3.[ออนไลน์]. จาก https://portal.bopp-obec.info/obec62/publicstat/report?areaCode=32010000&schoolCode= [สืบค้นวันที่ 12 มกราคม 2563].

สุวิมล ว่องวาณิช. (2550). การวิจัยประเมินความต้องการจำเป็น. พิมพ์ครั้งที่ 2. กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

อนงค์ศิริ วิชาลัย และ ประพิณ ขอดแก้ว. (2558). การพัฒนาความสามารถด้านการอ่านเชิงวิเคราะห์ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทยของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปี ที่ 5 โดยใช้เทคนิคการสอนแบบเลือกสรร. วารสารมหาวิทยาลัยราชภัฏลำปาง, 3(2), 20-37.

Ejiwale, A. J. (2012). Facilitating Teaching and Learning Across STEM Fields. Journal of STEM Education, 13(2), 87-94.

Kim, B.H. and Kim. J. (2016). Development and Validation of Evaluation Indicators for Teaching Competency in STEAM Education in Korea. Eurasia Journal of Mathematics, Science & Technology Education, 12(7), 1909-1924. doi: 10.12973/eurasia.2016.1537a

Herro, D. and Quigley, C. (2016), "Innovating with STEAM in middle school classrooms: remixing education", On the Horizon, 24(3), 190-204.

Hunkoog, J., Oksu, H. and Jinwoong, S. (2016). An analysis of STEM/STEAM teacher education In Korea with a case study of two schools from a community of practice perspective. Eurasia Journal of Mathematics, Science & Technology Education, 12(7), 1843-1862.

Guskey, T. R. (2000). Evaluating professional development. Thousand Oaks, CA: Corwin Press. Korea Foundation for the Advancement of Science and Creativity. (2016). Introduction to STEAM education. Seoul: KOFAC.

Stohlmann, M., Moore, J. T and Roehrig, H. G. (2012). Consideration for Teaching Integrated STEM Education. Journal of Pre-College Engineering Education Research, 2(1), 28-34.