การพัฒนาตัวชี้วัดสุขภาพและการประเมินสภาวะสุขภาพของประชาชนจังหวัดนนทบุรี
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาตัวชี้วัดสุขภาพ เพื่อประเมินสภาวะสุขภาพของประชาชน และเพื่อกำหนดรูปแบบ/ทิศทางการพัฒนาระบบสุขภาพของประชาชนจังหวัดนนทบุรี วิธีดำเนินการวิจัยมีการดำเนินงานทั้งในส่วนของข้อมูลเชิงปริมาณ ที่เก็บข้อมูลจากฐานข้อมูลและเอกสารของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และจากการสำรวจสภาวะสุขภาพของประชาชนด้วยแบบสอบถาม โดยการสุ่มตัวอย่างแบบหลายขั้นตอนกับประชาชนในพื้นที่จังหวัดนนทบุรี จำนวนทั้งสิ้น 2,650 คน และการเก็บข้อมูลในเชิงคุณภาพด้วยการสนทนากลุ่มย่อยกับกลุ่มผู้มีส่วนได้ส่วนเสียกับระบบสุขภาพของประชาชน จำนวน 30 คน โดยการจัดการสนทนากลุ่มย่อยในพื้นที่ 6 อำเภอ ๆ ละ 1 ครั้ง วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและการวิเคราะห์เนื้อหา ผลการวิจัยพบว่า ตัวชี้วัดสุขภาพแบ่งออกเป็น 3 ตัวชี้วัด ได้แก่ 1) ตัวชี้วัดทางด้านสถานะสุขภาพ ซึ่งเป็นข้อมูลเกี่ยวกับสถานะสุขภาพทางกายและสุขภาพจิต ประกอบไปด้วย 7 ตัวชี้วัด และมี 3 ตัวชี้วัดที่เป็นปัญหาที่ต้องเร่งแก้ไข 2) ตัวชี้วัดปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อสุขภาพอนามัย เป็นปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อสถานะสุขภาพของประชาชน ซึ่งรวมถึงทักษะส่วนบุคคลในการรับรู้ต่อเหตุการณ์ต่าง ๆ รวมทั้งพฤติกรรมในการดำเนินชีวิต ปัจจัยทางด้านชีววิทยาและสิ่งแวดล้อม ประกอบไปด้วย 19 ตัวชี้วัด และมี 12 ตัวชี้วัดที่เป็นปัญหาที่ต้องเร่งแก้ไข และ 3) ตัวชี้วัดระบบสุขภาพ เป็นตัวชี้วัดที่เกี่ยวกับการปฏิบัติงาน ใช้ในการจัดสรรทรัพยากร ประเมินแผนงาน ประเมินผลการปฏิบัติงาน และปรับปรุงผลงาน รวมทั้งผลกระทบที่เกิดจากการจัดบริการสาธารณสุข นโยบายสาธารณะ ระบบข้อมูลข่าวสาร และการวิจัย ประกอบไปด้วย 16 ตัวชี้วัด และมี 3 ตัวชี้วัดที่เป็นปัญหาที่ต้องเร่งแก้ไข มีข้อเสนอแนะจากการวิจัยครั้งนี้ คือ ในการพัฒนาระบบบริการสุขภาพของประชาชนจังหวัดนนทบุรีนั้น ควรเน้นไปที่การจัดการโรค การเปลี่ยนแปลงของวิถีชีวิต และรูปแบบการดำเนินงานนั้นควรมีทั้งเชิงรับและเชิงรุกลงไปในพื้นที่แบบบูรณาการ เป็นองค์รวม และควรสร้างโอกาสการเข้าถึงบริการสุขภาพตามความจำเป็นในกลุ่มเป้าหมายเฉพาะ
Article Details
This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
- วารสารสังคมศาสตร์บูรณาการ มหาวิทยาลัยมหิดล อนุญาตให้สามารถนำไฟล์บทความไปใช้ประโยชน์และเผยแพร่ต่อได้ โดยอยู่ภายใต้เงื่อนไขสัญญาอนุญาต CC Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International (CC BY-NC-ND 4.0) โดยต้องแสดงที่มา/การอ้างอิงจากวารสาร – ไม่ใช้เพื่อการค้า – ห้ามแก้ไขดัดแปลงเนื้อหา
- ข้อความที่ปรากฏในบทความในวารสารฯ เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแต่ละท่าน ไม่เกี่ยวข้องกับกองบรรณาธิการวารสารฯ (ซึ่งหมายรวมถึง บรรณาธิการ ผู้ทรงคุณวุฒิในกองบรรณาธิการ หรือ บรรณาธิการรับเชิญ) แต่อย่างใด ความรับผิดชอบองค์ประกอบทั้งหมดของบทความแต่ละเรื่องเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน หากมีความผิดพลาดใด ๆ ผู้เขียนแต่ละท่านจะรับผิดชอบบทความของตนเอง ตลอดจนความรับผิดชอบด้านเนื้อหาและการตรวจร่างบทความเป็นของผู้เขียน ไม่เกี่ยวข้องกับกองบรรณาธิการวารสารฯ
- กองบรรณาธิการขอสงวนสิทธิ์ในการตัดทอน/ปรับแก้ถ้อยคำบางประการเพื่อความเหมาะสม