การพัฒนาหนังสือส่งเสริมการอ่าน เรื่อง การอ่านและการเขียนสะกดคำตามมาตราตัวสะกด โดยใช้การเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1

Main Article Content

อารีรัตน์ เกิดสาย
สุรชัย ปิยานุกูล

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีความมุ่งหมายเพื่อ 1) สร้างและพัฒนาหนังสือส่งเสริมการอ่าน เรื่อง การอ่าน และการเขียนสะกดคำตามมาตราตัวสะกด โดยใช้การเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD สำหรับนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของ นักเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนด้วยหนังสือส่งเสริมการอ่าน 3) ศึกษาดัชนีประสิทธิผลของการเรียนด้วย หนังสือส่งเสริมการอ่าน และ 4) ศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนด้วยหนังสือส่งเสริม การอ่าน กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้เป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนบ้านนาลาว ภาค เรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2555 จำนวน 1 ห้องเรียน จำนวนนักเรียน 14 คน ได้กลุ่มตัวอย่างมาโดยวิธีการสุ่ม อย่างเจาะจงเครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยได้แก่ 1) หนังสือส่งเสริมการอ่านจำนวน 8 เล่ม 2) แผนการจัดการ เรียนรู้ประกอบหนังสือส่งเสริมการอ่านจำนวน 8 แผน 3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เป็น แบบทดสอบแบบปรนัย 3 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อ โดยมีค่าความยากง่าย ตั้งแต่ 0.30 - 0.73 ค่าอำนาจ จำแนกตั้งแต่ 0.21 -0.92 ความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.92 และ 4) แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มี ต่อการเรียนด้วยหนังสือส่งเสริมการอ่านเป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า 3 ระดับ คือ มาก ปานกลาง และน้อย จำนวน 10 ข้อ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละค่าเฉลี่ยส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และทดสอบสมมติฐานโดยใช้ t-test แบบ Dependent Samples ผลการวิจัยพบว่าหนังสือส่งเสริมการอ่าน เรื่อง การอ่านและการเขียนสะกดคำตามมาตราตัวสะกด โดยใช้การเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 มีประสิทธิภาพ (E1/E2 ) เท่ากับ 87.02/85.71 ซึ่งผ่านเกณฑ์ 80/80 ที่ตั้งไว้ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนหลังเรียนด้วยหนังสือส่งเสริม

การอ่าน สูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 ดัชนีประสิทธิผลของการเรียน ด้วยหนังสือส่งเสริมการอ่าน มีค่าเท่ากับ 0.66 แสดงว่านักเรียนมีความก้าวหน้าทางการเรียนเพิ่มขึ้น ร้อยละ 66 และความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ที่มีต่อการเรียนด้วยหนังสือส่งเสริม การอ่านอยู่ในระดับพอใจมาก

 

THE DEVELOPMENT OF READING SUPPLEMENTARY BOOKLETS ENTITLED “READING AND WORD SPELLING BY USING STAD COOPERATIVE LEARNING” FOR STUDENTS IN PRATHOMSUKSA 1

The purposes of this research were 1) to develop reading supplementary booklets entitled “Reading and Word Spelling by Using STAD Cooperative Learning” for students in Prathomsuksa 1 to meet the efficiency criteria set of 80/80; 2) to compare the students’ learning achievement before and after using reading supplementary booklets; 3) to study the effectiveness index of reading supplementary booklets; and 4) to study the satisfaction of the students towards learning by using reading supplementary booklets. The samples of this study were 14 students studying in Prathomsuksa 1 at the first semester of academic year 2012 of Bannalao school, selected by using purposive sampling technique. The research instruments were 1) 8 reading supplementary booklets; 2) 8 lesson plans using along with reading supplementary booklets; 3) a 30-item achievement test with 3 multiple-choice with the difficulty value between 0.30-0.73, the discrimination index between 0.21-0.92, and the reliability at 0.92; and 4) a 10-item with 3-rating scale of satisfaction questionnaire. The statistics used for data analysis were percentage, mean, standard deviation, E1/E2, E.I. and the hypothesis was tested by dependent samples t-test.

The results were as follows: The efficiency of reading supplementary booklets entitled “Reading and Word Spelling by Using STAD Cooperative Learning” for students in Prathomsuksa 1 was at 87.02/85.71 which was higher than the criteria set of 80/80.The students’ learning achievement after learning with reading supplementary booklets was higher than before learning with the statistically significant difference at .01 level.The effectiveness index of reading supplementary booklets was at 0.66 which showed that the students’ knowledge increased 66%. The students’ satisfaction towards learning by using reading supplementary booklets for students in Prathomsuksa 1 was at a high level.

Article Details

บท
บทความวิจัย (Research Paper)