ผลการใช้แบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษที่เรียนโดยการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5

Main Article Content

บุญจิราภรณ์ จีนโน

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีความมุ่งหมาย เพื่อศึกษาประสิทธิภาพ เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ก่อนและหลังเรียน ศึกษาดัชนีประสิทธิผลของแบบฝึกทักษะการอ่าน และศึกษาความพึงพอใจของนักเรียน กลุ่มตัวอย่าง คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2555 โรงเรียนบ้านหนองกง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาบุรีรัมย์ เขต 3 จำนวน 24 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แบบฝึกทักษะ แผนการจัดการเรียนรู้ แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ และแบบสอบถามความพึงพอใจ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ คือ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และทดสอบสมมติฐานโดยใช้ค่าสถิติ t ผลการวิจัยพบว่า แบบฝึกทักษะการอ่านมีประสิทธิภาพ 86.67/87.50 2) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 3) ดัชนีประสิทธิผลของแบบฝึกทักษะ เท่ากับ 0.7907 4) ความพึงพอใจโดยรวมอยู่ในระดับมาก

 

The Effects of Using Skill Practice Exercises for Developing Reading Comprehension by Using Cooperative Learning STAD Technique for Prathomsuksa 5 Students

The purposes of this research were to study the efficiency, to compare the learning achievement, to investigate the effectiveness index and to study the opinions of students. The samples of this study included 24 Prathomsuksa 5 students of Bannongkong School, Buriram Primary Educational Service Area Office 3, in the second semester of academic year 2012. The research instruments were the skill practice exercises, lesson plans, achievement test and the questionnaires to study students’ opinion. The statistics for data analyzing consisted of the percentage, mean, standard deviation and t-test. The results were the efficiency was 86.67/87.50, the achievement after learning was higher than before learning at the statistical significant difference level of .01, the effectiveness index was 0.7907 and the opinions as a whole was at “high” level.

Article Details

บท
Articles