Effects of Genre-based Approach to Improve Grade 11 Students’ Writing Ability and Retention

Main Article Content

สุทธิพงษ์ บรรยงค์
นวมินทร์ ประชานันท์
ชูเกียรติ จารัตน์

บทคัดย่อ

This study aimed to: 1) explore the efficiency of lesson plans on genre-based approach for grade 11 students based on the criterion set at 75/75; 2) compare the writing ability of grade 11 students before and after being taught through the genre-based approach; 3) investigate the satisfaction of grade 11 students toward writing ability by using the genre-based approach; and 4) investigate the retention of grade 11 students toward writing ability by using the genre-based approach. The samples of this study were 42 grade 11 students who took fundamental English (E32102) course in the second semester of academic year 2015 at Satuek School, Satuek District, Buriram Province under the Secondary Educational Service Area Office 32, selected by using simple random sampling technique. The research instruments were lesson plans, achievement tests, and satisfaction questionnaire. The statistics used to analyze the collected data were percentage, mean, standard deviation, and dependent samples t-test with the statistical significant set at .05 level.

The findings were as follows :

1. The efficiency of lesson plans of English writing on genre-based approach was 89.40/77.64 which was higher than the criterion set at 75/75.

2. The grade 11 students’ writing ability post-test mean score was higher than the pre-test mean score with statistically significant difference at .05 level.

3. The grade 11 students’ satisfaction toward writing after learning through the genre-based approach in overall was at the most satisfactory

4. The comparison of grade 11 students has the retention after learning English writing through the genre-based approach. The findings can be significant for teachers and students to develop effective teaching and learning regarding writing ability on genre-based approach in the EFL settings.

 

ผลการใช้การสอนแบบอรรถลักษณะเพื่อพัฒนาความสามารถ และความคงทนในการเขียนภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5

การวิจัยครั้งนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อ 1) หาประสิทธิภาพของแผนการจัดการเรียนรู้การเขียนภาษาอังกฤษ โดยใช้การสอนแบบอรรถลักษณะสำหรับนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 75/75 2) เปรียบเทียบความสามารถในการเขียนภาษาอังกฤษของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษา ปีที่ 5 โดยใช้การสอนแบบอรรถลักษณะ ก่อนเรียนและหลังเรียน 3) ศึกษาความพึงพอใจของ นักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ที่เรียนการเขียนภาษาอังกฤษโดยใช้การสอนแบบอรรถลักษณะ และ 4) ศึกษาความคงทนการเขียนภาษาอังกฤษของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาชั้นปีที่ 5 โดยใช้การสอนแบบอรรถลักษณะ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้เป็นนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปี ที่ 5 จำนวน 42 คน ซึ่งเรียนวิชาภาษาอังกฤษพื้นฐาน (อ32102) ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2558 โรงเรียนสตึก อำเภอสตึก จังหวัดบุรีรัมย์ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 32 ได้มาโดยการสุ่มอย่างง่ายเครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลได้แก่ แผนการจัดการเรียนรู้ แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและแบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนต่อการ เขียนภาษาอังกฤษ โดยใช้การสอนแบบอรรถลักษณะ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และ Dependent Samples t-test โดยกำหนด ค่านัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

ผลการศึกษาพบว่า

1. แผนการจัดการเรียนรู้การเขียนภาษาอังกฤษ โดยใช้การสอนแบบอรรถลักษณะสำหรับนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ที่ผู้วิจัยสร้างขึ้น มีประสิทธิภาพ 89.40/77.64 ซึ่งมีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 75/75 ที่ตั้งไว้

2. เปรียบเทียบนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ที่เรียนภาษาอังกฤษโดยใช้การสอนแบบอรรถลักษณะมีความสามารถในการเขียนภาษา อังกฤษหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ.05

3. นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 มีความพึงพอใจต่อการเขียนโดยใช้การสอนแบบอรรถลักษณะในระดับมากที่สุด

4. เปรียบเทียบนักเรียนที่เรียนการเขียนโดยใช้การสอนแบบอรรถลักษณะมีความคงทนการเรียนไม่แตกต่างจากหลังเรียน

ผลจากการศึกษาจะเป็นข้อมูลที่สำคัญสำหรับครูและนักเรียนในการพัฒนาการเรียนการ สอนทักษะการเขียนโดยใช้การสอนแบบอรรถลักษณะของการเรียนภาษาอังกฤษในฐานะภาษา ต่างประเทศที่มีประสิทธิภาพต่อไป

Article Details

บท
บทความวิจัย (Research Paper)