การศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและความคงทนในการเรียนรู้ เรื่องโน้ตดนตรีสากลเบื้องต้น ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่เรียนโดยใช้บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน

Main Article Content

พรทิพย์ สายแวว
กระพัน ศรีงาน
โกวิท วัชรินทรางกูร

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้ มีความมุ่งหมาย 1) เพื่อพัฒนาบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนเรื่องโน้ตดนตรีสากลเบื้องต้น ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่เรียนโดยใช้บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียน 3) เพื่อศึกษาความคงทนในการเรียนรู้ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่เรียนโดยใช้บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน 4) เพื่อศึกษาดัชนีประสิทธิผลการเรียนรู้ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่เรียนโดยใช้บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน และ 5) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียน ที่มีต่อการเรียนโดยใช้บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน เรื่องโน้ตดนตรีสากลเบื้องต้น กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1/2 โรงเรียนบ้านเสม็ดโคกตาล ตำบลเสม็ด อำเภอเมือง จังหวัดบุรีรัมย์ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาบุรีรัมย์ เขต 1 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2558 จำนวน 20 คน ได้มาจากการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ 1) บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน เรื่องโน้ตดนตรีสากลเบื้องต้น กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ วิชาดนตรี ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ประกอบด้วย หน่วยการเรียนรู้ จำนวน 2 หน่วยการเรียนรู้ จำนวน 4 บท 2) แผนการจัดการเรียนรู้ ประกอบบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน จำนวน 4 แผน 3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน เรื่องโน้ตดนตรีสากลเบื้องต้น กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ วิชาดนตรี ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 เพื่อใช้ทดสอบก่อนเรียน หลังเรียน และความคงทนในการเรียนรู้ ซึ่งเป็นแบบทดสอบแบบปรนัย ชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อ มีความยากง่ายระหว่าง 0.30- 0.73 ค่าอำนาจจำแนกระหว่าง 0.33-0.92 และมีค่าความเชื่อมั่น เท่ากับ 0.8953 และ 4) แบบสอบถามความพึงพอใจที่มีต่อการเรียน ซึ่งมีลักษณะเป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ จำนวน 15 ข้อ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ยส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน สถิติที่ใช้ทดสอบสมมติฐานใช้สถิติ t-test (Dependent Samples) ผลการวิจัย พบว่า

1. บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน เรื่องโน้ตดนตรีสากลเบื้องต้น ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 มีประสิทธิภาพเท่ากับ 91.00/82.00 ซึ่งผ่านเกณฑ์ที่กำหนดไว้

2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

3. นักเรียนที่เรียนโดยใช้บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน เรื่องโน้ตดนตรีสากลเบื้องต้น มีความคงทนในการเรียนรู้

4. บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน เรื่องโน้ตดนตรีสากลเบื้องต้น ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 มีดัชนีประสิทธิผลมีค่าเท่ากับ 0.7978 แสดงว่าหลังเรียนนักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน 0.7978 หรือคิดเป็นร้อยละ 79.78 จากก่อนเรียน

5. นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 มีความพึงพอใจต่อการเรียนด้วยบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนเรื่องโน้ตดนตรีสากลเบื้องต้น โดยรวมในระดับมากที่สุด

 

Study of Learning Achievement and Learning Retention in Basic Musical Nolation of Mathayomsuksa 1 Students With Computer-Assisted Instruction

The purposes of this research were 1) to develop a computer-assisted instruction for teaching basic musical notation of Matthayomsuksa 1 students to meet the efficiency criterion set at 80/80, 2) to compare learning achievement of Mathayomsuksa 1 students before and after learning by computer-assisted instruction, 3) to examine learning retention of Matthayomsuksa 1 students who studied with computer-assisted instruction, 4) to investigate the effectiveness index of Matthayomsuksa 1 students who studied with computer-assisted instruction, and 5) to examine the satisfaction of students toward learning by using the computer-assisted instruction for teaching basic musical notation. The samples were 20 Mathayomsuksa 1 students of Bansamedkokthan School, Tambon Samed, Muang District, Buriram Province under Buriram Primary Educational Service Area Office 1 in the first semester of academic year 2015, selected by a cluster random sampling. The instruments used in this research were 1) 2 units of learning computer-assisted instruction entitled “Basic Musical Notation” Art subject of Matthayomsuksa 1 students, 2) 4 lesson plans for learning management by computer- assisted instruction, and 3) a 30-item achievement test with 4 multiple choice with the difficulty value at 0.30-0.73, the discrimination index between 0.33-0.92, and the reliability value at 0.8953, and 4) a 15-item questionnaire asking for the students’ satisfaction. The research design was one group pretest-posttest design. The statistics used for analyzing the collected data were Mean, Standard Deviation, Index of Item Objective Congruence and the hypothesis was tested by t-test (Dependent Samples) The findings were as follows :

1. The computer-assisted instruction had the efficiency of 91.00/82.00 which was higher than the set criterion 80/80.

2. The learning achievement of Matthayomsuksa 1 students after learning was higher than before learning with the significant difference at the .05 level.

3. The learning by computer-assisted instruction had learned retention.

4. The effectiveness index of learning by using the computer-assisted instruction in Basic Musical Notation for Matthayomsuksa 1 students was 0.7978, before learning which revealed that after learning the students’ learning achievement progress was at 79.78%.

5. The satisfaction of students toward learning by using the computer-assisted instruction in Basic Musical Notation for Matthayomsuksa 1 students as a whole was at the highest level.

Article Details

บท
บทความวิจัย (Research Paper)