การพัฒนาทักษะการอ่านจับใจความภาษาอังกฤษ โดย ใช้เทคนิค 5W1H: กรณีศึกษาของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาภาษาอังกฤษก่อนเรียนและหลังเรียน
โดยใช้เทคนิค 5W1H สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 2) หาประสิทธิภาพของชุดกิจกรรมพัฒนาการอ่านจับใจความด้วยเทคนิค 5W1H สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ตามเกณฑ์มาตรฐาน 80/80 3) ศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ที่มีต่อการพัฒนาการอ่านจับใจความด้วยเทคนิค 5W1H ซึ่งเป็นกระบวนการในการจัดการเรียนการสอนการอ่าน ใช้รูปแบบการตั้งประเด็นคำถามด้วย Who, What, When, Where, Why, และ How เพื่อกระตุ้นให้นักเรียนเกิดความกระตือรือร้นในการคิดวิเคราะห์เนื้อเรื่องจากการอ่านและเสริมด้วยชุดกิจกรรมเพื่อส่งเสริมให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ตามระดับขั้นการเรียนรู้ของ Bloom ในขั้นที่ 1-3 ได้แก่ ขั้นความรู้ความจำ ขั้นความเข้าใจ และขั้นการประยุกต์ใช้ เพราะมีความเหมาะสมกับพฤติกรรมการเรียนรู้ของนักเรียน และสอดคล้องกับเนื้อหาที่ใช้ในการจัดการเรียนการสอนอ่านจับใจความภาษาอังกฤษตามหลักสูตรแกนกลางขั้นพื้นฐาน 2551 กลุ่มตัวอย่างเป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนบ้านโนนแคน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุบลราชธานีเขต 5 ที่กำลังศึกษาในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2567 จำนวน 30 คน ได้มาโดยการสุ่มแบบกลุ่ม เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ ชุดกิจกรรมพัฒนาการอ่านจับใจความภาษาอังกฤษ จำนวน 12 ชุด แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์การเรียน 40 ข้อ ซึ่งมีค่าความยากง่าย อยู่ระหว่าง .43 – .83 และอำนาจจำแนก อยู่ระหว่าง .27 – .67 มีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ .85 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าร้อยละ และการทดสอบค่าที
ผลการวิจัยพบว่า 1) การวิเคราะห์เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาภาษาอังกฤษก่อนเรียนและหลังเรียน ด้วยเทคนิค5W1H สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 พบว่าผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาภาษาอังกฤษหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 และมีค่าเฉลี่ยผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนเท่ากับ 32.90 และมีค่าเฉลี่ยผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนเท่ากับ 15.93 2) ชุดกิจกรรมพัฒนาการอ่านจับใจความด้วยเทคนิค 5W1H สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ E1/E2 คือ 83.12/82.25 ซึ่งสูงกว่ามาตรฐานที่ตั้งไว้ 80/80 3) นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 มีความพึงพอใจต่อการพัฒนาการอ่านจับใจความด้วยเทคนิค 5W1H อยู่ในระดับมาก ( = 4.30, S.D = 0.75)
Article Details

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
- ต้นฉบับที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารวิชาการ มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ สาขามนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ ถือเป็นกรรมสิทธิ์ของมหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ ห้ามนำข้อความทั้งหมดหรือบางส่วนไปพิมพ์ซ้ำเว้นเสียแต่ว่าจะได้รับอนุญาตจากมหาวิทยาลัยฯ เป็นลายลักษณ์อักษร
- เนื้อหาต้นฉบับที่ปรากฏในวารสารเป็นความรับผิดชอบของผู้เขียน ทั้งนี้ไม่รวมความผิดพลาด อันเกิดจากเทคนิคการพิมพ์
เอกสารอ้างอิง
กรมวิชาการ กระทรวงศึกษาธิการ. (2542). การจัดการเรียนการสอนภาษาอังกฤษ ระดับประถมศึกษา. พิมพ์ครั้งที่ 1. กรุงเทพ: กรมวิชาการ กระทรวงศึกษาธิการ.
กระทรวงศึกษาธิการ. (2561). หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2551. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์คุรุสภาลาดพร้าว.
กิตติชัย สุธาสิโนบล. 2558). จิตสำนึกและจรรยาบรรณวิชาชีพครู. กรุงเทพมหานคร: คอมเมอร์เชียล เวิลด์ มีเดีย.
ขวัญฤทัย มูลทาทอง. (2558). ผลการสอนด้วยวิธีDR-TAเสริมด้วยวิธี Story Impressionและการใช้คําถาม 5W1H ต่อความสามารถในการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจของนักเรียนขั้นประถมศึกษาปีที่ 4. วิทยานิพนธ์ครุศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาหลักสูตรและการสอน. บัณฑิตวิทยาลัย:มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี, 2558
ธนภรณ์ ขันคำนันต๊ะ. (2555). การพัฒนาชุดกิจกรรมการอ่านจับใจความสำคัญ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โดยใช้ทฤษฎีการสร้างความรู้ด้วยตนเอง โรงเรียนเทพพิทักษ์พิทยา อำเภอเมือง จังหวัดแพร่. วิทยานิพนธ์ครุศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาหลักสูตรและการสอน มหาวิทยาลัยมราชภัฏอุตรดิถต์.
พิมชนก หอมหวน. (2565). การพัฒนาการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ โดยการจัดการเรียนรู้แบบ DR-TA ร่วมกับเทคนิค 5W1H สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4. วิทยานิพนธ์ศึกษามหาบัณฑิต สาขาวิชาหลักสูตรและการสอน มหาวิทยาลัยมหาสารคาม.
เพ็ญศรี สร้อยเพชร. (2542). ชุดการเรียนการสอน. พิมพ์คครั้งที่ 1. นครปฐม: มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม.
โรงเรียนบ้านโนนแคน. (2566). คู่มือการประเมินคุณภาพการศึกษา โรงเรียนบ้านโนนแคน. (น.26).
วราภรณ์ พูลสวัสดิ์. (2564). การจัดการเรียนรู้แบบ MIA เพื่อพัฒนาความสามารถในการอ่านเพื่อความเข้าใจและการคิด วิเคราะห์วิชาภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนสาธิต “พิบูลบำเพ็ญ” มหาวิทยาลัยบูรพา. วิทยานิพนธ์ศึกษามหาบัณฑิต สาขาวิชาหลักสูตรและการสอน มหาวิทยาลัยบูรพา.
วิทวัฒน์ ขัตติยะมาน และ อมลวรรณ วีระธรรมโม. (2549). การสอนเพื่อพัฒนาการคิด. พิมพ์ครั้งที่ 2. สงขลา: เทมการพิมพ์.
วิไล ปันวาละ. ( 2554). การพัฒนาชุดกิจกรรมการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจเรื่อง Food for Health โดยใช้กลวิธีการสอนแบบ KWL Plus สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6. วิทยานิพนธ์ศึกษามหาบัณฑิต สาขาวิชาหลักสูตรและการสอน มหาวิทยาลัยนเรศวร.
สถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ. (2566) รายงานผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET), สืบค้นเมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2567, จาก https://newonetresult.niets.or.th/AnnouncementWeb/School/ReportSchoolBySchool.aspx?mi=2
สายชล โชติธนากิจ. (2561). การพัฒนาชุดกิจกรรมการอ่านจับใจความภาษาไทยโดยใช้วิธีการสอนอ่านแบบ SQ4R ร่วมกับเทคนิคเพื่อนคูคิด สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1. วิทยานิพนธ์ศึกษามหาบัณฑิต สาขาวิชาหลักสูตรและการสอน คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา.
สุกัญญา ศรีสืบสาย. (2551). การจัดการเรียนรู้ที่บูรณาการการอ่าน และการคิด. กรุงเทพฯ: นาม มีบุ๊คส์พับลิเคชั่น.
อรวรรณ พุทธมนต์ทักษิณ. (2554). การใช้วิธีสอนตามรูปแบบเอริกา (ERICA Model) ร่วมกับเทคนิคการตั้งคำถาม 5W1H ที่มีผลต่อความสามารถในการอ่านจับใจความภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6. วิทยานิพนธ์ปริญญาการศึกษามหาบัณฑิต สาขาวิชาหลักสูตรและการสอน, มหาวิทยาลัยทักษิณ, 2554.