บทบาทหน้าที่ของวัฒนธรรมดนตรีจาเป็ย ในราชอาณากัมพูชา บทบาทหน้าที่ของวัฒนธรรมดนตรีจาเป็ย ในราชอาณากัมพูชา
Main Article Content
บทคัดย่อ
บทความวิจัยเรื่อง “บทบาทหน้าที่ของวัฒนธรรมดนตรีจาเป็ย ในราชอาณากัมพูชา” ฉบับนี้เป็นส่วนหนึ่งในวัตถุประสงค์ของการทำวิทยานิพนธ์ในระดับปริญญาเอก สาขาดุริยางคศิลป์คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น
โดยผู้วิจัยสนใจเนื้อหาด้านวัฒนธรรมทางดนตรี “จาเป็ย” โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาบทบาทหน้าที่ของวัฒนธรรมดนตรี
จาเป็ย ในราชอาณากัมพูชา ผลการวิจัยพบว่าบทบาทหน้าที่ของ จาเป็ย สามารถได้เป็น 2 ประเด็น คือ
ประเด็นที่ 1. ใช้บรรเลงประกอบในวงดนตรีต่าง ๆ ในแต่ละพิธีกรรมของชาวกัมพูชาโดยปรากฏ 4 วงคือ (1) วงเพลงการ์กูล คือวงดนตรีอารักษ์เพื่อใช้ประกอบการเลี้ยงเทวดา หรือเรียกอีกอย่างว่าพิธีเข้าทรงอารักษ์เป็นพิธีบวงสรวง (2) วงเพลงการ์โบราณ โดยชื่อของวงเพลงการ์โบราณ เป็นพิธีมงคลสมรสของชาวเขมร (3) วงเพลงมโหรี เป็นวงที่ใช้บรรเลงในงานมงคลทั่วไป เช่น งานขึ้นบ้านใหม่งานบวช งานเลี้ยงต้องรับที่เน้นการบรรเลงคลอภายในงาน หรืองานแต่ง และ (4) วงพระบิตร หรือ
วงเพลงปี่แก้ว เป็นชื่อเพลงที่มีความสำคัญเพลงหนึ่งในพิธีอัญเชิญพระวิญญาณในพระราชวงศานุวงศ์ของเจ้าฟ้ามหากษัตริย์
ประเด็นที่ 2. บทบาทหน้าที่ของจาเป็ยในวัฒนธรรมการเจรียง คือการร้องเล่าเรื่องราวต่าง ๆ เป็นทำนองด้วยภาษาเขมรควบคู่หรือสลับการดีดจาเป็ย โดยเนื้อหาของการร้องเจรียงเป็นการเล่าเรื่องบรรยายให้ผู้ฟังจินตนาภาพตามเนื้อหานั้น ๆ โดยอาศัยเสียงของเครื่องดนตรีจาเป็ยสร้างอรรถรสให้กับเนื้อหา เช่น หากเนื้อหาในตอนใดกล่าวถึงความตื่นเต้นน่ากลัว
นักดนตรีก็จักบรรเลงเร็ว ๆ และดีดเน้นจังหวะของจาเป็ยให้เร็วและดังขึ้น ส่วนเนื้อหาในตอนใดต้องการจะสื่อถึงความโศกเศร้าก็จักบรรเลงให้ช้าลงสลับกับร้องเอื้อนเสียงให้เป็นทำนอง และนิยมบรรเลงเกริ่นด้วย “เพลงพักเจือย” ขึ้นก่อน จากนั้นจึงจะเริ่มร้องเข้าเนื้อหาที่จะเล่าโดยเล่าเนื้อหานั้นสลับกับการดีดจาเป็ยไปเรื่อย ๆ จากนั้นเมื่อเนื้อเรื่องเล่าใกล้จะจบ ก็จะบรรเลงทำนองอีกครั้ง โดยถือเป็นการจบกระบวนการร้องเจรียงจาเป็ยในหนึ่งเรื่อง
Article Details
This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
- ต้นฉบับที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารวิชาการ มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ สาขามนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ ถือเป็นกรรมสิทธิ์ของมหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ ห้ามนำข้อความทั้งหมดหรือบางส่วนไปพิมพ์ซ้ำเว้นเสียแต่ว่าจะได้รับอนุญาตจากมหาวิทยาลัยฯ เป็นลายลักษณ์อักษร
- เนื้อหาต้นฉบับที่ปรากฏในวารสารเป็นความรับผิดชอบของผู้เขียน ทั้งนี้ไม่รวมความผิดพลาด อันเกิดจากเทคนิคการพิมพ์