การศึกษาสภาพการใช้ไอซีทีเพื่องานประกันคุณภาพการศึกษา: กรณีศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์

Main Article Content

สุพิศ กองชัย
ขจรศักดิ์ สงวนสัตย์
นุชจรี บุญเกต

บทคัดย่อ

การวิจัยเรื่อง การศึกษาสภาพการใช้ไอซีทีเพื่องานประกันคุณภาพการศึกษา: กรณีศึกษา
มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ ผู้วิจัยตั้งวัตถุประสงค์ไว้ 2 ประการ คือ 1) เพื่อศึกษาสภาพการใช้ไอชีที
เพื่อการประกันคุณภาพการศึกษา: กรณีศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ 2) เพื่อเปรียบเทียบการ
ใช้ไอชีทีเพื่องานประกันคุณภาพการการศึกษา: กรณีศึกษามหาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้
ในการวิจัย ได้แก่บุคลากรมหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ จำนวน 229 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยครั้ง
นี้ คือ แบบสอบถามที่ผู้วิจัยพัฒนาขึ้นเพื่อสอบถามเกี่ยวกับสภาพการใช้ไอชีทีเพื่องานประกันคุณภาพ
การศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลคือ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และค่า
เบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบสมมติฐานโดยใช้ค่าที (t-test) การวิเคราะห์ความแปรปรวนแบบทาง
เดียว (One way ANOVA) และทดสอบความแตกต่างรายคู่ด้วยวิธีของ Scheffe
จากการวิจัยเรื่องการศึกษาสภาพการใช้ไอซีทีเพื่องานประกันคุณภาพการศึกษา: กรณีศึกษา
มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ มีประเด็นที่น่าสนใจ ซึ่งผู้วิจัยได้ข้อค้นพบจากการวิจัยที่สามารถนำมา
อภิปรายผลได้ดังต่อไปนี้
1. จากการวิเคราะห์ความคิดเห็นของบุคคลากรมหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์เกี่ยวกับสภาพ
การใช้ไอชีทีเพื่องานประกันคุณภาพการศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ โดยรวมอยู่ในระดับมาก
เนื่องจาก ปัจจุบันไอชีทีได้เข้ามามีบทบาทในการดำรงชีวิตของมนุษย์ในยุคปัจจุบันแทบทุกด้าน ไม่
ว่าจะเป็นในเรื่องของการติดต่อสื่อสาร การคมนาคม การแพทย์ การศึกษา เป็นต้น เมื่อพิจารณาเป็น
รายด้านพบว่าทุกด้านอยู่ในระดับมาก
2. จากผลการวิเคราะห์เปรียบเทียบความคิดเห็นของบุคคลากรมหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์
เกี่ยวกับสภาพการใช้ไอชีทีเพื่องานประกันคุณภาพการศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์
จำแนกตาม เพศ อายุ พบว่า มีสภาพการใช้ไอชีทีเพื่องานประกันคุณภาพการศึกษาโดยภาพ
รวมและรายด้านไม่แตกต่างกัน เนื่องจากมหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ มีการจัดอบรมเกี่ยวกับการใช้
ไอชีทีให้กับบุคลากร ทั้งเพศชายและหญิง จำแนกตามประเภทของบุคลากร พบว่า สภาพการใช้ไอชี
ทีเพื่องานประกันคุณภาพการศึกษาโดยภาพรวมแตกต่างกัน แต่เมื่อมีการวิเคราะห์ผลหาความแตก
ต่างแบบรายคู่แล้วไม่พบความแตกต่างกัน และเมื่อเปรียบเทียบเป็นรายด้าน พบว่า สภาพการใช้ไอชี
ทีเพื่องานประกันคุณภาพการศึกษามีความแตกต่างกันด้านข้อมูลสารสนเทศ (IT) คือ ข้าราชการสาย
วิชา+สายสนับสนุน มีการใช้ไอชีทีเพื่องานประกันคุณภาพการศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ สูง
กว่าพนักงานราชการ เนื่องจากข้าราชการสายวิชา+สายสนับสนุนมีความพร้อมในเรื่องวัสดุอุปกรณ์
ที่เอื้ออำนวยต่อการใช้ไอชีทีเพื่องานประกันคุณภาพการศึกษา มากกว่าพนักงานราชการ
จำแนกตามระยะเวลาในการใช้คอมพิวเตอร์ต่อวัน พบว่า สภาพการใช้ไอชีทีเพื่องานประกัน
คุณภาพการศึกษาโดยภาพรวมและรายด้านแตกต่างกัน โดยบุคลากรที่มีระยะเวลาในการใช้คอมพิวเตอร์
มากต่อวัน มีการใช้ไอชีทีเพื่องานประกันคุณภาพการศึกษา มากกว่า บุคลากรที่มีระยะเวลาในการใช้
คอมพิวเตอร์ต่อวันน้อย ตามลำดับ เนื่องจาก บุคลากรที่มีระยะเวลาในการใช้คอมพิวเตอร์มากต่อวัน
เป็นบุคลากรที่มีความสนใจในการนำเอาไอชีทีมาใช้กับการพัฒนางาน

Article Details

บท
บทความวิจัย (Research Paper)