สมรรถนะเพื่อความความสำเร็จของผู้อำนวยการโรงเรียนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ : กรณีศึกษาสถานศึกษา ในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษากรุงเทพมหานคร เขต 1 กลุ่มที่ 4
คำสำคัญ:
สมรรถนะ, กรอบสมรรถนะผู้บริหารสถานศึกษาสถานศึกษาภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้, ระดับสมรรถนะแห่งความสำเร็จบทคัดย่อ
การวิจัยนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อศึกษาระดับสมรรถนะแห่งความสำเร็จสำหรับผู้อำนวยการโรงเรียนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของครูที่ต้องการเป็นผู้บริหารสถานศึกษาและผู้บริหารสถานศึกษา 2) เพื่อเปรียบเทียบระดับสมรรถนะแห่งความสำเร็จสำหรับผู้อำนวยการโรงเรียนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ระหว่างกลุ่มครูที่ต้องการเป็นผู้บริหารสถานศึกษาและผู้บริหารสถานศึกษา 3) เพื่อศึกษาแนวทางการพัฒนากรอบสมรรถนะแห่งความสำเร็จสำหรับผู้อำนวยการโรงเรียนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ให้สอดคล้องกับบริบทปัจจุบันและอนาคต กลุ่มตัวอย่างคือผู้บริหารและครูจาก 11 โรงเรียน จากการใช้ตารางของเครจซี่และมอร์แกนและการสุ่มแบบกลุ่ม โดยการเลือกผู้บริหารหลังรับตำแหน่งได้ไม่เกิน 3 ปี จำนวน 18 คนและครูที่ต้องการเข้าสู่ตำแหน่งผู้บริหารสถานศึกษา จำนวน 116 คน รวม 134 คน สำหรับการตอบแบบสอบถาม และผู้บริหาร (ตามความสมัครใจ) 14 คน ตอบแบบสัมภาษณ์ วิเคราะห์ข้อมูลด้วยค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการวิเคราะห์แก่นสาระ
ผลการวิจัยพบว่า ระดับสมรรถนะของครูที่ต้องการเป็นผู้บริหารสถานศึกษาสูงสุดในด้านความเป็นเลิศส่วนบุคคล ( = 3.30, S.D. = 0.62) และภาวะผู้นำทางการเรียนการสอน (
= 3.24, S.D. = 0.67) ขณะที่ผู้บริหารสถานศึกษาหลังรับตำแหน่งไม่เกิน 3 ปี มีระดับสมรรถนะสูงกว่า โดยเฉพาะด้านความเป็นเลิศส่วนบุคคล (
= 3.53, S.D. = 0.50) และภาวะผู้นำทางการเรียนการสอน (
= 3.51, S.D. = 0.49) การเปรียบเทียบสมรรถนะ ด้วย t-test พบว่าผู้บริหารสถานศึกษามีค่าเฉลี่ยสมรรถนะ (
= 3.510) สูงกว่าครู (
= 3.031) อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p < 0.05)แนวทางพัฒนากรอบสมรรถนะแห่งความสำเร็จสำหรับผู้อำนวยการโรงเรียนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ให้สอดคล้องกับบริบทปัจจุบันและอนาคตควรครอบคลุมสมรรถนะการบริหารการเปลี่ยนแปลง การใช้เทคโนโลยี การสร้างเครือข่ายความร่วมมือ และการเสริมภาวะผู้นำเชิงกลยุทธ์เพื่อยกระดับคุณภาพการศึกษา
เอกสารอ้างอิง
บุญชม ศรีสะอาด. (2561). การวิจัยเบื้องต้น (พิมพ์ครั้งที่ 9). กรุงเทพฯ: สุวีริยาสาส์น.
วิโรจน์ สารรัตนะ. (2564). การเปลี่ยนแปลงทางการศึกษาในยุคดิจิทัล. กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์. (2565). สมรรถนะของผู้บริหารสถานศึกษาสถานศึกษาในยุคดิจิทัล. กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์
มหาวิทยาลัย.
สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา. (2565). รายงานสภาวะการศึกษาไทย ปี 2564-2565. กรุงเทพฯ: กระทรวงศึกษาธิการ.
สุกัญญา แช่มช้อย. (2565). การบริหารสถานศึกษาในยุคดิจิทัล. กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ.
สำนักเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษากรุงเทพมหานคร เขต 1. (2567). รายชื่อสถานศึกษาและโรงเรียน
Krejcie, R. V., & Morgan, D. W. (1970). Determining sample size for research activities. Educational and Psychological Measurement, 30(3), 607-610. https://doi.org/10.1177/001316447003000308
OECD. (2023). PISA 2022 results: What students know and can do. Paris: OECD Publishing. https://doi.org/10.1787/5f07c754-en
SEAMEO INNOTECH. (2023). Leadership competencies for digital-age school leaders in Southeast Asia. Manila: SEAMEO INNOTECH.
UNESCO. (2023). Framework for school leadership development in the digital era. Paris: UNESCO Publishing.
World Bank. (2023). Education in Southeast Asia: Challenges and opportunities for school leadership. Washington, DC: World Bank Group.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
หมวดหมู่
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสารการบริหารการศึกษา มหาวิทยาลัยศิลปากร

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
