การปฏิบัติตามหลักศีล 5 ตามแนวคิดจิตศึกษาของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6
Main Article Content
บทคัดย่อ
บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาระดับการปฏิบัติตามหลักศีล 5 ตามแนวคิดจิตศึกษา 2) เพื่อเปรียบเทียบการปฏิบัติตามหลักศีล 5 ตามแนวคิดจิตศึกษา และ 3) เพื่อเสนอแนะแนวทางในการส่งเสริมการปฏิบัติตามหลักศีล 5 ตามแนวคิดจิตศึกษา การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยแบบผสมวิธีระหว่างวิจัยเชิงคุณภาพและเชิงปริมาณ โดยมีกลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ ผู้อำนวยการ หัวหน้าระดับสายชั้น ครูผู้สอน ครูพระสอนศีลธรรมครูแนะแนว และนักเรียน เก็บรวบรวมข้อมูลด้วยแบบสอบถาม และแบบสัมภาษณ์ วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติการวิจัย ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน และสถิติอนุมาน คือ F-test, t-test ผลการวิจัยพบว่า 1) ระดับการปฏิบัติตามหลักศีล 5 ตามแนวคิดจิตศึกษาของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ในภาพรวม มีค่าเฉลี่ยโดยภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด ระดับความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับศีล 5 อยู่ในระดับมาก และระดับอารมณ์ความรู้สึกของนักเรียนต่อหลักศีล 5 อยู่ในระดับมากที่สุด ตามลำดับ 2) ผลการเปรียบเทียบระหว่างปัจจัยส่วนบุคคลกลุ่มตัวอย่างกับระดับการปฏิบัติตามหลักศีล 5 ตามแนวคิดจิตศึกษา พบว่า กลุ่มตัวอย่างที่มีเพศต่างกัน มีด้านการสนับสนุนกิจกรรมทางศาสนาของครอบครัวต่างกัน มีระดับความคิดเห็นต่อการปฏิบัติตามหลักศีล 5 ตามแนวคิดจิตศึกษาของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 แตกต่างกัน ส่วนกลุ่มตัวอย่างที่มีที่พักอาศัยต่างกัน มีสถานภาพของครอบครัวต่างกัน มีระดับความคิดเห็นต่อการปฏิบัติตามหลักศีล 5 ตามแนวคิดจิตศึกษาของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ไม่แตกต่างกัน และ 3) แนวทางในการส่งเสริมการปฏิบัติตนตามหลักศีล 5 ตามแนวคิดจิตศึกษา ประกอบด้วยการจัดกิจกรรมตามแนวจิตศึกษาและโครงการในการปลูกฝังในเรื่องศีล 5 ส่งเสริมให้ความรู้กับผู้เรียนด้านปฏิบัติการรักษาศีล 5 สอดแทรกสอนในชั่วโมงเรียน การจัดกิจกรรมการเรียนรู้บูรณาการกับหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงให้นักเรียนนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน การสอดแทรกคำสอนที่ทำให้นักเรียนรู้จักรักนวลสงวนตัว การจัดกิจกรรมการเข้าค่ายคุณธรรมจริยธรรม การปลูกฝังให้นักเรียนเห็นประโยชน์ของการมีสัมมาวาจา การจัดให้มีครูพระในการสอนวิชาพระพุทธศาสนาอย่างทั่วถึง
Article Details

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
ทัศนะและความคิดเห็นที่ปรากฏในบทความในวารสารฉบับนี้ถือเป็นความรับผิดชอบของผู้เขียนบทความนั้นเพียงผู้เดียว และไม่ถือเป็นทัศนะและความรับผิดชอบของกองบรรณาธิการ
กองบรรณาธิการขอสงวนสิทธิ์ในการคัดเลือกบทความลงตีพิมพ์และจะแจ้งให้เจ้าของบทความทราบหลังจากผู้ประเมินบทความตรวจอ่านบทความแล้ว
ต้นฉบับที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารครุศาสตร์ปริทรรศน์ คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ถือเป็นกรรมสิทธิ์ของคณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ห้ามนำข้อความทั้งหมดหรือบางส่วนไปพิมพ์ซ้ำ เว้นเสียแต่ว่าจะได้รับอนุญาตจากมหาวิทยาลัยฯ เป็นลายลักษณ์อักษร
เอกสารอ้างอิง
คณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ. (2561). ยุทธศาสตร์ชาติ (พ.ศ. 2561 - 2580 ฉบับประกาศราชกจิจานุเบกษา). กรุงเทพมหานคร: คณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ.
คณาจารย์มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. (2552). พระไตรปิฎกศึกษา. กรุงเทพมหานคร: สำนักพิมพ์รายวัน.
ธีรวุฒิ เอกะกุล. (2543). ระเบียบวิธีวิจัยทางพฤติกรรมศาสตร์และสังคมศาสตร์. อุบลราชธานี: สถาบันราชภัฎอุบลราชธานี.
ประเวศ วะสี. (2551). หนังสือรวบรวมบทความการประชุมวิชาการประจำปี 2551 เรื่องจิตตปัญญาศึกษา การศึกษาเพื่อพัฒนาความเป็นมนุษย์. กรุงเทพมหานคร: โครงการศูนย์จิตตปัญญาศึกษามหาวิทยาลัยมหิดล.
พระประพันธ์ศักดิ์ ธีรธมฺโม. (2564). การพัฒนาศีลธรรมในสังคมไทย. กรุงเทพมหานคร: สำนักพิมพ์ธรรมะศึกษา.
พระสมุหชัยรัตน สีลวฑฺฒโน (ภูมาลี). (2565). แนวทางการพัฒนาการเรียนรู้ตามหลักพุทธศาสนาในบริบทการศึกษาไทย. วารสารพุทธศาสน์ศึกษา. 22(2). 89.
พระสุข สุขสำราญ. (2555). การศึกษาเจตคติด้านหลักศีล 5 ในชีวิตประจำวันของนักเรียนวัยรุ่น. สารนิพนธ์การศึกษามหาบัณฑิต. มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ.
พวงรัตน์ ทวีรัตน์. (2553). วิธีการวิจัยพฤติกรรมศาสตร์และสังคมศาสตร์. กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ.
มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. (2539). พระไตรปฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. กรุงเทพมหานคร: มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.
รังสรรค์ แสงสุข และคณะ. (2544). ความรู้คู่คุณธรรม. พิมพ์ครั้งที่ 2. กรุงเทพมหานคร: มหาวิทยาลัยรามคำแหง.
วิเชียร ไชยบัง. (2555). จิตศึกษากับการบ่มเพาะปัญญาภายใน. บุรีรัมย์: โรงเรียนลำปลายมาศพัฒนา.
สมเด็จพระญาณวโรดม. (2550). แผนชีวิต. กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์มหามกุฎราชวิทยาลัย.
เสกสันต์ ศิริวรรณ. (2553). การวิเคราะห์การเรียนการสอนแบบผสมผสานของมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. วารสารการศึกษาปริทรรศน์. 3(2). 47-48.
เสารีย์ ตะโพนทอง และคณะ. (2562). แนวทางการจัดการเรียนการสอนแบบบูรณาการในสถาบันอุดมศึกษา. วารสารการศึกษา. 15(1). 65.
Cronbach L. J. (1974). Essentials of Psychological Testing. 3 rd ed. New York: Harper and Row.
Krejcie, R.V. & D.W. Morgan. (1970). Determining Sample Size for Research Activities. Educational and Psychological Measurement. 30(3). 607-610.