การพัฒนา Mobile Micro-learning ด้วย TikTok เพื่อเสริมสร้างการรู้เท่าทันสื่อ สำหรับนิสิตระดับปริญญาตรี
Main Article Content
บทคัดย่อ
บทความวิจัยนี้ มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อพัฒนา Mobile Micro-learning ด้วย TikTok เพื่อเสริมสร้างการรู้เท่าทันสื่อ สำหรับนิสิตระดับปริญญาตรี 2) เพื่อเปรียบเทียบความรู้ในเรื่อง การรู้เท่าทันสื่อของนิสิตระดับปริญญาตรี หลังได้เรียนโดยการจัดการเรียนรู้รูปแบบ Mobile Micro-learning ด้วย TikTok ระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียน 3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจในการเรียนเรื่อง การรู้เท่าทันสื่อของนิสิตระดับปริญญาตรี หลังได้เรียนโดยการจัดการเรียนรู้รูปแบบ Mobile Micro-learning ด้วย TikTok กลุ่มตัวอย่าง คือ นิสิตระดับปริญญาตรี สาขาพลศึกษา จํานวน 1 ห้องเรียน รวมทั้งสิ้น 29 คน เป็นการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Sampling) โดยเครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ 1) แผนการจัดการเรียนรู้จำนวน 5 แผน 2) สื่อมัลติมีเดียผ่าน TikTok โดยการจัดการเรียนรู้รูปแบบ Mobile Micro-learning เพื่อเสริมสร้างการรู้เท่าทันสื่อ สำหรับนิสิตระดับปริญญาตรี 3) แบบวัดความรู้การรู้เท่าทันสื่อ ใช้ในการทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน 4) แบบสอบถามความพึงพอใจ สื่อมัลติมีเดียผ่าน TikTok โดยจัดการเรียนรู้รูปแบบ Mobile Micro-learning เพื่อเสริมสร้างการรู้เท่าทันสื่อ สำหรับนิสิตระดับปริญญาตรี สรุปผลการวิจัยพบว่า 1) ผลการประเมินคุณภาพสื่อ Mobile Micro-learning ด้วย TikTok เพื่อเสริมสร้างการรู้เท่าทันสื่อ สำหรับนิสิตระดับปริญญาตรี โดยภาพรวมมีคุณภาพอยู่ในระดับมาก 2) คะแนนสอบหลังเรียนของนิสิตระดับปริญญาตรี สูงกว่าก่อนการเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 3) ผลการประเมินความพึงพอใจของนิสิตระดับปริญญาตรี ที่มีต่อรูปแบบการจัดการเรียนรู้รูปแบบ Mobile Micro-learning ด้วย TikTok เพื่อเสริมสร้างการรู้เท่าทันสื่อ พบว่า ความพึงพอใจต่อการจัดการเรียนรู้รูปแบบ Mobile Micro-learning ด้วย TikTok เพื่อเสริมสร้างการรู้เท่าทันสื่อโดยภาพรวมมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก.
Article Details

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
ทัศนะและความคิดเห็นที่ปรากฏในบทความในวารสารฉบับนี้ถือเป็นความรับผิดชอบของผู้เขียนบทความนั้นเพียงผู้เดียว และไม่ถือเป็นทัศนะและความรับผิดชอบของกองบรรณาธิการ
กองบรรณาธิการขอสงวนสิทธิ์ในการคัดเลือกบทความลงตีพิมพ์และจะแจ้งให้เจ้าของบทความทราบหลังจากผู้ประเมินบทความตรวจอ่านบทความแล้ว
ต้นฉบับที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารครุศาสตร์ปริทรรศน์ คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ถือเป็นกรรมสิทธิ์ของคณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ห้ามนำข้อความทั้งหมดหรือบางส่วนไปพิมพ์ซ้ำ เว้นเสียแต่ว่าจะได้รับอนุญาตจากมหาวิทยาลัยฯ เป็นลายลักษณ์อักษร
References
ณัฏฐกาญจน์ ศุกลรัตนเมธี และนุชประภา โมกข์ศาสตร์. (2562). การรู้เท่าทันสื่อสังคมออนไลน์ของเยาวชนเพื่อการเป็นพลเมืองในสังคมประชาธิปไตย. รายงานวิจัย. สำนักวิจัยและพัฒนา สถาบันพระปกเกล้า.
นิษฐา หรุ่นเกษม และคณะ. (2566). การศึกษาผลการใช้หลักสูตรเพื่อพัฒนาทักษะการเรียนรู้เท่าทันสื่อของนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร. วารสารสหวิทยาการเพื่อการพัฒนา มหาวิทยาลัยราชภัฏอุตรดิตถ์. 13(1). 1-14.
สุไม บิลไบ. (2557). การออกแบบและพัฒนาบทเรียนมัลติมีเดีย โดยใช้ ADDIE Model. แหล่งที่มา https://drsumaibinbai.files.wordpress.com/2014/12/addie_design_sumai.pdf สืบค้นเมื่อ 12 ธ.ค. 2562.
Mayer R. E. (2001). Multimedia Learning. Cambridge University Press.
Koole M. and Ally M. (2006). Framework for the Rational Analysis of Mobile Education (FRAME) Model: Revising the ABCs of Educational Practices. From https://ieeexplore.ieee.org Retrieved November 8, 2023.
Purmadi, A., Muzakkir, M. & Astuti, E. R. P. (2022). Developing M-Learning Applications to Support Digital Literacy of Vocational High School Students. Jurnal Inovasi dan Teknologi Pembelajaran (JINOTEP): Kajian dan Riset dalam Teknologi Pembelajaran. 9(3). 291-301.
Pandey A. (2018). 12 Examples That Prove Mobile Learning and Microlearning is an Essential Combination to Meet Your Learning Mandate. EI Design.