รูปแบบการบริหารเชิงกลยุทธ์เพื่อยกระดับการประกันคุณภาพการศึกษาภายใน โรงเรียนบางชวดอนุสรณ์ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาปทุมธานี เขต 1

Main Article Content

คุรุรัตน์ วรวณิชชา

บทคัดย่อ

บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างรูปแบบการบริหารเชิงกลยุทธ์เพื่อยกระดับการประกันคุณภาพการศึกษาภายในโรงเรียนบางชวดอนุสรณ์ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาปทุมธานี เขต 1 ดำเนินการวิจัย 3 ขั้นตอน ดังนี้ ขั้นตอนที่ 1 การสร้างรูปแบบ ขั้นตอนที่ 2 ทดลองใช้รูปแบบ และขั้นตอนที่ 3 ประเมินรูปแบบ มีกลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ ผู้บริหารสถานศึกษา ครูและบุคลากรทางการศึกษาที่ทำหน้าที่ครูผู้สอนในโรงเรียนบางชวดอนุสรณ์ 28 คน ได้มาโดยการสุ่มกลุ่มตัวอย่างแบบชั้นภูมิ กำหนดขนาดกลุ่มตัวอย่างโดยใช้ตารางกำหนดขนาดของกลุ่มตัวอย่างของ Krejcie; & Morgan และผู้ให้ข้อมูล ได้แก่ ผู้ทรงคุณวุฒิและผู้เชี่ยวชาญ มีเครื่องมือที่ใช้ในวิจัย คือ แบบสอบถาม ประเด็นการสนทนากลุ่ม และแบบประเมินความเป็นไปได้ ความเป็นประโยชน์ และความพึงพอใจ และมีสถิติที่ใช้ คือ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการวิเคราะห์เนื้อหา ผลการวิจัยพบว่า 1) รูปแบบการบริหารเชิงกลยุทธ์เพื่อยกระดับการประกันคุณภาพการศึกษาภายในโรงเรียนบางชวดอนุสรณ์ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาปทุมธานี เขต 1 ประกอบด้วย 7 ด้าน คือ (1) การกำหนดมาตรฐานการศึกษา (2) การจัดทำแผนพัฒนาการจัดการศึกษา (3) การดำเนินการตามแผนพัฒนาการจัดการศึกษา (4) การประเมินผลและตรวจสอบคุณภาพการศึกษา (5) การติดตามผลการประเมินคุณภาพการศึกษา (6) การรายงานคุณภาพการศึกษาประจำปี (7) การนำผลการประเมินคุณภาพไปใช้ ด้วยกระบวนการบริหารเชิงกลยุทธ์ 4 ขั้นตอน และเงื่อนไขความสำเร็จ 2) ผลการทดลองใช้รูปแบบการบริหารเชิงกลยุทธ์เพื่อยกระดับการประกันคุณภาพการศึกษาภายในโรงเรียนบางชวดอนุสรณ์ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาปทุมธานี เขต 1 พบว่า (1) ผลสัมฤทธิ์ทางวิชาการของผู้เรียนตามหลักสูตรสถานศึกษา ปีการศึกษา 2564 นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนตามหลักสูตรสถานศึกษา 8 กลุ่มสาระการเรียนรู้และวิชาประวัติศาสตร์ คะแนนเฉลี่ยเท่ากับ 93.01 ซึ่งสูงกว่าคะแนนเฉลี่ยตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ ร้อยละ 90 ส่วนผลสัมฤทธิ์ด้านการอ่าน คิด วิเคราะห์และเขียนคะแนนเฉลี่ยเท่ากับ 93.04 ซึ่งสูงกว่าคะแนนเฉลี่ยตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ คือ ร้อยละ 80 (2) คุณลักษณะอันพึงประสงค์ของผู้เรียนตามหลักสูตรสถานศึกษา พบว่า ในภาพรวมคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของผู้เรียน มีคะแนนเฉลี่ยเท่ากับ 98.91 ด้านสมรรถนะคะแนนเฉลี่ยเท่ากับ 97.88 ซึ่งสูงกว่าคะแนนเฉลี่ยตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ คือ ร้อยละ 80 และนักเรียนโรงเรียนบางชวดอนุสรณ์ ปีการศึกษา 2564 มีน้ำหนักและส่วนสูงต่ำกว่าเกณฑ์มีน้ำหนักและส่วนสูงสูงกว่าเกณฑ์ และมีน้ำหนักและส่วนสูงอยู่ในเกณฑ์ (3) ผลการประเมินระดับคุณภาพผู้เรียนตามมาตรฐานที่ 1 คุณภาพของผู้เรียน ปีการศึกษา 2564 ในภาพรวมอยู่ในระดับยอดเยี่ยม 3) ผลการประเมินรูปแบบการบริหารเชิงกลยุทธ์เพื่อยกระดับการประกันคุณภาพการศึกษาภายในโรงเรียนบางชวดอนุสรณ์ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาปทุมธานี เขต 1 พบว่า ในภาพรวมของรูปแบบฯ มีความเป็นไปได้ ความความเป็นประโยชน์ และความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด

Article Details

รูปแบบการอ้างอิง
วรวณิชชา ค. (2023). รูปแบบการบริหารเชิงกลยุทธ์เพื่อยกระดับการประกันคุณภาพการศึกษาภายใน โรงเรียนบางชวดอนุสรณ์ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาปทุมธานี เขต 1. วารสารครุศาสตร์ปริทรรศน์ คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย, 10(1), 497–514. สืบค้น จาก https://so02.tci-thaijo.org/index.php/EDMCU/article/view/262131
ประเภทบทความ
บทความวิจัย

เอกสารอ้างอิง

กิตติ์ดนัย แจ้งแสงทอง. (2564). รูปแบบการบริหารการประกันคุณภาพการศึกษาภายในสถานศึกษาระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน. ดุษฎีนิพนธ์ปรัชญาดุษฏีบัณฑิต. มหาวิทยาลัยนอร์ทกรุงเทพ.

จิตต์วิมล คล้ายสุบรรณ. (2556). รูปแบบการประกันคุณภาพภายในที่มีประสิทธิภาพสำหรับสถานศึกษาขนาดเล็กจังหวัดสุพรรณบุรี. วารสารทางการศึกษา คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ. 7(2). 61-79.

ณัฐพัชร์ วงศ์พัฒนาธนเดช. (2559). การพัฒนารูปแบบการประกันคุณภาพการศึกษาภายใน สถ านศึกษาขั้นพื้นฐานโดยใช้กระบวนการจัดการความรู้. ดุษฎีนิพนธ์ครุศาสตรดุษฎีบัณฑิต. มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม.

ดำรงค์ บุญกลาง. (2560). การพัฒนารูปแบบการบริหารคุณภาพการศึกษาของสถานศึกษา สังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในเขตภาคเหนือ. Journal of Nakhonratchasima College. 11(2). 163-175.

นเรศ สถิตยพงศ์. (2561). การประกันคุณภาพโรงเรียนยุคการศึกษาประเทศไทย 4.0 และศตวรรษที่ 21. วารสารครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. 46(3). 345-364.

ไมตรี บุญทศ. (2554). การพัฒนารูปแบบบริหารเพื่อการประกันคุณภาพภายในที่ส่งผลต่อคุณภาพโรงเรียน สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน. ดุษฎีนิพนธ์ครุศาสตรมหาบัณฑิต. มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี.

เยาวทิวา นามคุณ และฤตินันท์ สมุทร์ทัย. (2559). การสังเคราะห์งานวิจัยเกี่ยวกับการประกันคุณภาพการศึกษาภายใน. วารสารวิชาการมหาวิทยาลัยฟาร์อีสเทอร์น. 10(3). 55-67.

โรงเรียนบางชวดอนุสรณ์. (2560). แผนปฏิบัติการ ประจำปี 2560. ปทุมธานี: โรงเรียนบางชวดอนุสรณ์.

โรงเรียนบางชวดอนุสรณ์. (2564). แผนปฏิบัติการ ประจำปี 2564. ปทุมธานี: โรงเรียนบางชวดอนุสรณ์.

ศศิธร บัวทอง. (2556). การพัฒนารูปแบบการประกันคุณภาพภายในสถานศึกษาระดับกลุ่มสาระการเรียนรู้ของโรงเรียนระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน. ดุษฎีนิพนธ์การศึกษาดุษฎีบัณฑิต. มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ.

สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน. (2561). ประกาศสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เรื่อง แนวปฏิบัติการดำเนินงานประกันคุณภาพการศึกษา ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ. 2561. กรุงเทพมหานคร: สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน.

สำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา. (2547). หลักเกณฑ์และวิธีการประเมินคุณภาพภายนอกของสถานศึกษาระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน. กรุงเทพมหานคร: พิมพ์ดี.

สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา. (2546). แนวทางการประกันคุณภายในสถานศึกษา: เพื่อพร้อมรับการประเมินภายนอก. กรุงเทพมหานคร: พิมพ์ดี.

สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา. (2562). รายงานผลการศึกษาแนวทางการจัดทาระบบการประกันคุณภาพการศึกษา ภายในสถานศึกษาทีเชื่อมโยงกับมาตรฐานการศึกษาของชาติโดยใช้แนวคิดระบบการวัดผลแบบ OKRs : Objective and Keys Results. กรุงเทพมหานคร: 21 เซ็นจูรี่.

Arribas Díaz, J. A.; & Martínez-Mediano, C. (2018). The impact of ISO quality management systems on primary and secondary schools in Spain. Quality Assurance in Education. 26(1). 2-24.

Krejcie, R. V.; & Morgan, D. W. (1970). Determining Sample Size for Research Activities. Educational and Psychological Measurement. 30(3). 607–610.