การศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารของนักเรียนระดับ ชั้นมัธยมศึกษา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษานครสวรรค์ ด้วยสื่อการเรียนรู้ภาษาอังกฤษออนไลน์
Main Article Content
บทคัดย่อ
บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร ของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษา ด้วยสื่อการเรียนรู้ภาษาอังกฤษออนไลน์ก่อนและหลังการเรียน 2) เพื่อศึกษาความคิดเห็นของนักเรียนที่มีต่อการเรียนภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร ด้วยสื่อการเรียนรู้ภาษาอังกฤษออนไลน์ โดยใช้การวิจัยแบบแบบกึ่งทดลอง (Quasi-Experimental Research) ดำเนินการทดลองตามแบบแผนการวิจัย One Group Pretest-Posttest Design เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยเป็นแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร ก่อนและหลัง และแบบสอบถามความคิดเห็นของนักเรียนที่มีต่อการเรียนภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารด้วยสื่อการเรียนรู้ภาษาอังกฤษออนไลน์ โดยมีกลุ่มตัวอย่างเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3/1 จำนวน 30 คน สถิติในการวิเคราะห์โดยหาค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการวิจัยพบว่า 1) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษานครสวรรค์ ด้วยสื่อการเรียนรู้ภาษาอังกฤษออนไลน์ หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน ซึ่งมีความต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01 2) ผลการศึกษาความคิดเห็นของนักเรียนที่มีต่อการเรียนภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารด้วยสื่อการเรียนรู้ภาษาอังกฤษออนไลน์ ในภาพรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายด้านพบว่า ด้านบรรยากาศในการเรียนอยู่ในระดับมากที่สุด ทุกข้อเรียงจากมากไปหาน้อย ได้แก่ ด้านความรู้ความสามารถของครูผู้สอน ด้านความเหมาะสมของสื่อการเรียนรู้ภาษาอังกฤษออนไลน์ และด้านความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษของนักเรียน
Article Details

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
ทัศนะและความคิดเห็นที่ปรากฏในบทความในวารสารฉบับนี้ถือเป็นความรับผิดชอบของผู้เขียนบทความนั้นเพียงผู้เดียว และไม่ถือเป็นทัศนะและความรับผิดชอบของกองบรรณาธิการ
กองบรรณาธิการขอสงวนสิทธิ์ในการคัดเลือกบทความลงตีพิมพ์และจะแจ้งให้เจ้าของบทความทราบหลังจากผู้ประเมินบทความตรวจอ่านบทความแล้ว
ต้นฉบับที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารครุศาสตร์ปริทรรศน์ คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ถือเป็นกรรมสิทธิ์ของคณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ห้ามนำข้อความทั้งหมดหรือบางส่วนไปพิมพ์ซ้ำ เว้นเสียแต่ว่าจะได้รับอนุญาตจากมหาวิทยาลัยฯ เป็นลายลักษณ์อักษร
เอกสารอ้างอิง
กุลวรรณ สุดใจชื้น. (2558). ผลการใช้สื่อเสริมการอ่านภาษาอังกฤษที่เน้นการเรียนศัพท์และการวิเคราะห์โครงสร้างบทอ่านที่มีต่อความสามารถในการเรียนรู้คำศัพท์และการอ่านเพื่อความเข้าใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนบางเลนวิทยา อำเภอบางเลน จังหวัดนครปฐม. วิทยานิพนธ์ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต. มหาวิทยาลัยศิลปากร.
ณัฏฐพล ทีปสุวรรณ. (2564). กระทรวงศึกษาธิการใช้แนวทางการพัฒนาการเรียนการสอนภาษาอังกฤษทั้งระบบ. แหล่งที่มา https://teroasia.com/news/170655 สืบค้นเมื่อ 1 ส.ค. 2564.
รุ่งฟ้า กิติญาณุสันต์. (2552). ศึกษาการส่งเสริมการเรียนรู้ด้วยตนเอง การสะท้อนจากกระบวนการวิจัยปฏิบัติการ. รายงานวิจัย. มหาวิทยาลัยบูรพา.
วรวรรธน์ ศรียาภัย และคณะ. (2553). ความต้องการคุณลักษณะบัณฑิตทางภาษาและการสื่อสารของสถานประกอบการ. วารสารช่อพะยอม. 21(1). 36–50.
วาริณี ไกรศรี และคณะ. (2562). การศึกษาผลการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ เรื่อง Number โดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบ 2W3P ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุบลราชธานี เขต 2. รายงานวิจัย. มหาวิทยาลัยราชธานี.
สำนักคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน. (2551). ตัวชี้วัดและหลักสูตรแกนกลาง กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ. กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์ชุมชนสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย.
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน. (2563). รายงานการประเมินคุณภาพผู้เรียนด้านทักษะสื่อสารภาษาอังกฤษเพื่อเตรียมความพร้อมความสามารถทางภาษาตามกรอบมาตรฐาน CEFR ระดับ A1, A2. กรุงเทพมหานคร: สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน.
สุมิตรา อังวัฒนกุล. (2540). วิธีการสอนภาษาอังกฤษ. พิมพ์ครั้งที่ 4. กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
Richad, C. and Rogers, S. (1982). Approached and Method in Language teaching. Cambridge: Cambridge University.