กลยุทธ์การตลาดเชิงพุทธสำหรับสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา
Main Article Content
บทคัดย่อ
บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาสภาพปัญหาสถานศึกษาสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา 2) เพื่อพัฒนากลยุทธ์การตลาดเชิงพุทธ และ 3) เพื่อนำเสนอกลยุทธ์การตลาดเชิงพุทธสำหรับสถานศึกษาสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา เป็นการวิจัยแบบผสานวิธี โดยมีขั้นตอนการวิจัย คือ 1) ศึกษาสภาพปัญหาสถานศึกษา ใช้แบบสอบถามกลุ่มตัวอย่างที่เป็นครู 394 คน วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติ คือ ค่าร้อยละ ค่าความถี่ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าเฉลี่ยของความต้องการจำเป็น (PNImodified) และสัมภาษณ์ผู้ให้ข้อมูลสำคัญ 5 คน 2) พัฒนากลยุทธ์การตลาดเชิงพุทธ ด้วยการสนทนากลุ่มผู้ทรงคุณวุฒิ 9 คน 3) ประเมินกลยุทธ์ ใช้แบบประเมินกับกลุ่มตัวอย่างที่เป็นผู้บริหารสถานศึกษา 379 คน วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติ คือ ค่าร้อยละ ค่าความถี่ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และ 4) เสนอกลยุทธ์ ผลการวิจัยพบว่า 1) สภาพปัญหาสถานศึกษาสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา สภาพปัญหาที่มีความต้องการจำเป็น มีความสำคัญลำดับที่ 1 คือ นักเรียนและหลักสูตร ลำดับที่ 2 กระบวนการ ลำดับที่ 3 การสร้างและการนำเสนอลักษณะทางกายภาพ ลำดับที่ 4 ราคา 2) การพัฒนากลยุทธ์การตลาดเชิงพุทธสำหรับสถานศึกษา ประกอบด้วยวิสัยทัศน์ พันธกิจ เป้าประสงค์ และกลยุทธ์ โดยผลการประเมินกลยุทธ์ พบว่า องค์ประกอบที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุดในระดับมากที่สุด คือ ด้านความถูกต้อง ด้านความเป็นประโยชน์ และในระดับมาก คือ ด้านความเหมาะสมและด้านความเป็นไปได้ 3) กลยุทธ์การตลาดเชิงพุทธสำหรับสถานศึกษา 4 องค์ประกอบ คือ องค์ประกอบที่ 1 วิสัยทัศน์ องค์ประกอบที่ 2 พันธกิจ องค์ประกอบที่ 3 เป้าประสงค์ และองค์ประกอบที่ 4 กลยุทธ์ 1) กลยุทธ์การสร้างความสมบูรณ์แบบของผู้เรียน 2) กลยุทธ์การส่งเสริมการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ 3) กลยุทธ์การพัฒนาช่องทางการส่งเสริมการศึกษา 4) กลยุทธ์การส่งเสริมประชาสัมพันธ์เพื่อสร้างภาพลักษณ์ของโรงเรียน 5) กลยุทธ์การพัฒนาสรรหาผู้นำทางวิชาการ และ 6) กลยุทธ์การสร้างความมั่นใจในคุณภาพสถานศึกษา
Article Details
ทัศนะและความคิดเห็นที่ปรากฏในบทความในวารสารฉบับนี้ถือเป็นความรับผิดชอบของผู้เขียนบทความนั้นเพียงผู้เดียว และไม่ถือเป็นทัศนะและความรับผิดชอบของกองบรรณาธิการ
กองบรรณาธิการขอสงวนสิทธิ์ในการคัดเลือกบทความลงตีพิมพ์และจะแจ้งให้เจ้าของบทความทราบหลังจากผู้ประเมินบทความตรวจอ่านบทความแล้ว
ต้นฉบับที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารครุศาสตร์ปริทรรศน์ คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ถือเป็นกรรมสิทธิ์ของคณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ห้ามนำข้อความทั้งหมดหรือบางส่วนไปพิมพ์ซ้ำ เว้นเสียแต่ว่าจะได้รับอนุญาตจากมหาวิทยาลัยฯ เป็นลายลักษณ์อักษร
เอกสารอ้างอิง
ธงชัย ช่อพฤกษา, (2554). การพัฒนากลยุทธ์การบริหารสถานศึกษาระดับประถมศึกษาเพื่อส่งเสริมการมีส่วนร่วมของชุมชนในระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน. ดุษฎีนิพนธ์ครุศาสตรดุษฎีบัณฑิต. จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย,
พิรญาณ์ รณภาพ. (2564). ลดความเหลื่อมล้ำ นำไทยสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน. แหล่งที่มา https://www.pier.or.th/abridged/2021/06/ สืบค้นเมื่อ 30 ส.ค. 2564.
สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ). (2557). ข้อเสนอว่าด้วยการปฏิรูประบบการศึกษาไทย. แหล่งที่มา http://pokpong.org/wp-content/uploads/education-reform-proposal.pdf สืบค้นเมื่อ 30 ส.ค. 2564.
สมปอง จันทคง. (2552). การจัดการศึกษาโดยใช้ชุมชนเป็นฐาน สู่การพัฒนาที่ยั่งยืน. แหล่งที่มา https://www.kroobannok.com/24541 สืบค้นเมื่อ 30 ส.ค. 2564.
สิรกานต์ สุจิรา. (2550). ความคิดเห็นต่อการดำเนินงานด้านกลยุทธ์การตลาดของผู้บริหารโรงเรียนอนุบาลเอกชน จังหวัดปทุมธานี. วิทยานิพนธ์การศึกษามหาบัณฑิต. มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์.
สุกัญญา จัตุรงค์ และอภิชาต เลนะนันท์. (2559). การบริหารหลักสูตรที่ส่งผลต่อคุณภาพของผู้เรียน โรงเรียนสังกัดสำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษภาคใต้ กลุ่ม 7, วารสารวิชาการ Veridian E – Journal, Silpakorn University ฉบับภาษาไทย สาขามนุษยศาสตร์สังคมศาสตร์และศิลปะ. 9(1). 1473-1487.
True ปลูกปัญญา. (2562). กลยุทธ์ทางการตลาดสำหรับสถานศึกษา (Strategic Marketing For School). แหล่งที่มา https://www.trueplookpanya.com/knowledge/content/52234/-edu-teaartedu-teaart-teaartdir--. สืบค้นเมื่อ 21 พ.ย. 2562.
True ปลูกปัญญา. (2562). โรงเรียนขนาดเล็ก ภาระหรือโอกาส และรูปแบบการพัฒนาโรงเรียนขนาดเล็ก. แหล่งที่มา https://www.trueplookpanya.com/blog/content/71918/-blog-teaartedu-teaart-. สืบค้นเมื่อ 21 พ.ย. 2562.