การส่งเสริมการจัดการเรียนรู้แบบนำตนเองของนักเรียนโรงเรียนพระปริยัติธรรม จังหวัดนครราชสีมา
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยเรื่อง การจัดการเรียนรู้แบบนำตนเองของนักเรียนโรงเรียนพระปริยัติธรรม จังหวัด
นครราชสีมา มีวัตถุประสงค์ในการวิจัย ๓ ข้อ คือ เพื่อศึกษา เพื่อเปรียบเทียบ และเพื่อเสนอแนะ
แนวทาง การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงปริมาณ กลุ่มตัวอย่างจำนวน ๒๗๐ รูป เครื่องมือที่ใช้เก็บรวบรวม
ข้อมูลเป็นแบบสอบถาม การวิเคราะห์ข้อมูลคือ การหาค่าความถี่และค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบน
มาตรฐาน สถิติการวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว และทดสอบความแตกต่างรายคู่ด้วยวิธีของเชฟเฟ่
ผลการวิจัยพบว่า
การจัดการเรียนรู้แบบนำตนเองของนักเรียนโรงเรียนพระปริยัติธรรม จังหวัดนครราชสีมา ด้าน
หลักสูตร ด้านการจัดการเรียนการสอน ด้านสื่อการเรียนรู้และด้านการวัดการประเมินผล โดย
ภาพรวม อยู่ในระดับมากทุกด้าน
การเปรียบเทียบการจัดการเรียนรู้แบบนำตนเองของนักเรียนประปริยัติธรรม จังหวัด
นครราชสีมา จำแนกตาม อายุ ระดับชั้น คะแนนเฉลี่ยสะสม และภูมิลำเนา โดยภาพรวม พบว่า
นักเรียนมีความคิดเห็นต่อการจัดการเรียนรู้แบบนำตนเอง ไม่แตกต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ ๐.๐๕
แนวทางการจัดการเรียนรู้แบบนำตนเองของนักเรียนโรงเรียนพระปริยัติธรรม จังหวัดนครราชสีมา
ครูผู้สอนควรจัดการเรียนการสอนตามหลักสูตรที่มีการส่งเสริมการเรียนรู้แบบนำตนเอง รวมไปถึงการนำ
หลักสูตรท้องถิ่นมาสอนเพื่อให้นักเรียนได้เกิดการเรียนรู้ค้นคว้าหาความรู้จากแหล่งสถานที่ต่างๆ ให้มีการ
จัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามแผนที่ได้เตรียมไว้โดยอาจมีการปรับแผนให้เหมาะกับผู้เรียนและสถานการณ์ที่
เป็นจริง สอนอย่างเป็นกันเองกับนักเรียนจะได้การเรียนรู้อย่างเต็มที่ ใช้สื่อการสอนเพื่อใช้ในการเรียนการ
สอนที่ทำให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้มากที่สุด ผลิตสื่อการเรียนการสอนให้มีความทันสมัยและมีความ
หลากหลาย สามารถช่วยกระตุ้นและสร้างความสนใจให้กับนักเรียน ทำให้เกิดความสนุกและไม่เบื่อหน่าย
การเรียน การวัดและการประเมินผลมีความยุติธรรมเที่ยงตรง โดยการประเมินผลตามสภาพความเป็นจริง
มีความสอดคล้องกับพฤติกรรมนักเรียนแต่ละคน
Article Details
ทัศนะและความคิดเห็นที่ปรากฏในบทความในวารสารฉบับนี้ถือเป็นความรับผิดชอบของผู้เขียนบทความนั้นเพียงผู้เดียว และไม่ถือเป็นทัศนะและความรับผิดชอบของกองบรรณาธิการ
กองบรรณาธิการขอสงวนสิทธิ์ในการคัดเลือกบทความลงตีพิมพ์และจะแจ้งให้เจ้าของบทความทราบหลังจากผู้ประเมินบทความตรวจอ่านบทความแล้ว
ต้นฉบับที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารครุศาสตร์ปริทรรศน์ คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ถือเป็นกรรมสิทธิ์ของคณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ห้ามนำข้อความทั้งหมดหรือบางส่วนไปพิมพ์ซ้ำ เว้นเสียแต่ว่าจะได้รับอนุญาตจากมหาวิทยาลัยฯ เป็นลายลักษณ์อักษร