ศึกษาแนวทางการพัฒนาภาวะผู้นำเชิงพุทธของผู้บริหารโรงเรียนมัธยมศึกษา อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ คือ ๑) เพื่อศึกษาคุณลักษณะการบริหารงานตามหลักทุติย
ปาปณิกสูตรของผู้บริหารโรงเรียนมัธยมศึกษา อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ๒) เพื่อ
ศึกษาหลักและวิธีการพัฒนาคุณลักษณะการบริหารงานตามหลักทุติยปาปณิกสูตรของผู้บริหาร
โรงเรียนมัธยมศึกษา อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ๓) เพื่อเสนอแนวทางการพัฒนา
คุณลักษณะการบริหารงานตามหลักทุติยปาปณิกสูตรสำหรับผู้บริหารโรงเรียนมัธยมศึกษา อำเภอบาง
ปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นงานวิจัยแบบผสมผสานวิธี คือ การวิจัยเชิงปริมาณประกอบ
ด้วยการแจกแบบสอบถามผู้บริหารและครูผู้ทำการสอนในโรงเรียนมัธยมศึกษา อำเภอบางปะอิน
จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จำนวน ๑๑๒ คน วิเคราะห์ข้อมูลด้วยค่าสถิติพื้นฐาน ได้แก่ ค่าเฉลี่ย และ
ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน นำเสนอในรูปแบบตารางประกอบคำบรรยาย และการวิจัยเชิงคุณภาพ
ประกอบด้วย ๑) วิเคราะห์ข้อมูลด้วยการวิเคราะห์เนื้อหา และ ๒) การสัมภาษณ์ผู้ให้ข้อมูลสำคัญ
จำนวน ๖ ท่าน
ผลการวิจัยพบว่า
การศึกษาคุณลักษณะการบริหารงานตามหลักทุติยปาปณิกสูตรของผู้บริหารโรงเรียน
มัธยมศึกษา อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา พบว่าโดยภาพรวม มีความคิดเห็นอยู่ใน
ระดับมาก และเมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ทุกด้านมีความคิดเห็นอยู่ในระดับมาก เรียงลำดับ
จากมากไปหาน้อย ได้แก่ ด้านนิสสยสัมปันโน ด้านวิธูโร ด้านจักขุมา
การศึกษาหลักและวิธีการพัฒนาคุณลักษณะการบริหารงานตามหลักทุติยปาปณิกสูตรของ
ผู้บริหารโรงเรียนมัธยมศึกษา อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา พบว่า ผู้บริหารต้องเป็นผู้
มีวิสัยทัศน์กว้างไกล มีการวางแผน มีความรอบคอบ กล้าตัดสินใจ มีความคิดสร้างสรรค์ วิเคราะห์
และกำหนดทิศทาง มีทักษะด้านเทคโนโลยีใหม่ ๆ มีประสบการณ์ มีความขยันหมั่นเพียรในการฝึกฝน
ตั้งใจอดทน ให้ความช่วยเหลือ มองโลกในแง่บวก สร้างความสัมพันธ์ มีจิตอาสา ซื่อสัตย์ จริงใจ มี
สัจจะ คำมั่นสัญญา มีจิตใจเป็นกลาง กระจายอำนาจ ส่งเสริมการศึกษา นำหลักธรรมมาใช้ มีเหตุและ
ผล มีความรอบคอบ ใส่ใจประเมินผล สร้างศรัทธาและความเชื่อมั่น
แนวทางการพัฒนาคุณลักษณะการบริหารงานตามหลักทุติยปาปณิกสูตรสำหรับผู้บริหาร
โรงเรียนมัธยมศึกษา อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ประกอบด้วยองค์ประกอบที่
สำคัญ ๓ ด้าน ดังนี้ คือ ๑) ด้านจักขุมา คือ การมีวิสัยทัศน์กว้างไกล มองการไกล ประกอบด้วย สร้าง
วิสัยทัศน์ในองค์การมีความรู้ความสามารถ มีการวางแผน มีแนวความคิดใหม่ๆ ๒) ด้านวิธูโร คือ
จัดการธุระได้ดี มีความเชี่ยวชาญในงาน ประกอบด้วย ความหมั่นเพียรในการฝึกฝน มีเทคนิคและ
ความถนัด มีความเชี่ยวชาญ มีประสบการณ์การทำงาน มีทักษะความชำนาญในงานมีความตั้งใจ
อดทนต่อการทำงาน ๓) ด้านนิสสยสัมปันโน คือ การมีมนุษยสัมพันธ์ ประกอบด้วย ความสุภาพ
อ่อนโยน เอาใจใส่ กระตือรือร้น มีใจผูกพันอยู่กับงาน สร้างมิตรภาพ การให้ความช่วยเหลือผู้อื่น การ
ยกย่องให้เกียรติผู้อื่น
Article Details
ทัศนะและความคิดเห็นที่ปรากฏในบทความในวารสารฉบับนี้ถือเป็นความรับผิดชอบของผู้เขียนบทความนั้นเพียงผู้เดียว และไม่ถือเป็นทัศนะและความรับผิดชอบของกองบรรณาธิการ
กองบรรณาธิการขอสงวนสิทธิ์ในการคัดเลือกบทความลงตีพิมพ์และจะแจ้งให้เจ้าของบทความทราบหลังจากผู้ประเมินบทความตรวจอ่านบทความแล้ว
ต้นฉบับที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารครุศาสตร์ปริทรรศน์ คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ถือเป็นกรรมสิทธิ์ของคณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ห้ามนำข้อความทั้งหมดหรือบางส่วนไปพิมพ์ซ้ำ เว้นเสียแต่ว่าจะได้รับอนุญาตจากมหาวิทยาลัยฯ เป็นลายลักษณ์อักษร