พลธรรม : พลังอำนำจเชิงสร้ำงสรรค์ของผู้บริหำรสถำนศึกษำยุคใหม่
Main Article Content
บทคัดย่อ
ผู้บริหารการศึกษาเป็นผู้มีส่วนสาคัญในการที่จะทาให้การจัดการศึกษาในสถานศึกษาได้ดาเนินไปอย่างมีประสิทธิภาพจาเป็นต้องรู้จักบูรณาการพลังอานาจทั้งตามแนวพุทธศาสตร์และศาสตร์สมัยใหม่ เพื่อเป็นพลังอานาจเชิงสร้างสรรค์ในการบริหารสถานศึกษายุคใหม่
การบูรณาการพลธรรมที่เป็นแนวพุทธศาสตร์กับพลังอานาจตามศาสตร์สมัยใหม่เพื่อสร้างพลังอานาจเชิงสร้างสรรค์ในการบริหารสถานศึกษานั้น นับได้ว่าเป็นการบริหารสถานศึกษายุคใหม่ที่เหมาะสม เพราะภาระหน้าที่ของผู้บริหารสถานศึกษานั้น การบริหารบางด้านสมควรบริหารตามศาสตร์สมัยใหม่ เช่น พลังอานาจตามกฎหมาย อานาจการบังคับหรือลงโทษ เป็นต้น ส่วนการบริหารบางด้านสมควรบริหารตามพุทธศาสตร์ คือ พลธรรม เช่น กาลังการทางานที่สุจริต กาลังการสงเคราะห์ช่วยเหลือทั้งผู้ร่วมงานและนักเรียน เป็นต้น เหตุนั้น ผู้บริหารสถานศึกษาควรใช้หลักพลธรรมในการบริหารทั่วไปทั้ง ๓ ด้าน และในการบริหารสถานศึกษาทั้ง ๔ ด้าน เป็นเบื้องต้น จากนั้นจึงควรเสริมพลังอานาจทั้ง ๘ ประการในการบริหารทั่วไป ๓ ด้านและในการบริหารสถานศึกษา ๔ ด้าน เพื่อเป็นการเสริมพลังอานาจให้การบริหารด้านต่างๆ เป็นไปได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพให้มากที่สุด
Article Details
ทัศนะและความคิดเห็นที่ปรากฏในบทความในวารสารฉบับนี้ถือเป็นความรับผิดชอบของผู้เขียนบทความนั้นเพียงผู้เดียว และไม่ถือเป็นทัศนะและความรับผิดชอบของกองบรรณาธิการ
กองบรรณาธิการขอสงวนสิทธิ์ในการคัดเลือกบทความลงตีพิมพ์และจะแจ้งให้เจ้าของบทความทราบหลังจากผู้ประเมินบทความตรวจอ่านบทความแล้ว
ต้นฉบับที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารครุศาสตร์ปริทรรศน์ คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ถือเป็นกรรมสิทธิ์ของคณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ห้ามนำข้อความทั้งหมดหรือบางส่วนไปพิมพ์ซ้ำ เว้นเสียแต่ว่าจะได้รับอนุญาตจากมหาวิทยาลัยฯ เป็นลายลักษณ์อักษร