THE GUIDELINES FOR SCHOOL ADMINISTRATOR COMPETENCY DEVELOPMENT BASED ON PAPANIKADHAMMA OF PRIMARY SCHOOL UNDER NAKHONSAWAN EDUCATION SERVICE AREA OFFICE 1
Main Article Content
Abstract
This research article aimed to 1) study the competence of school administrators in schools under the Office of the Primary Educational Service Area 1, Nakhon Sawan, and 2) create guidelines for developing school administrators’ competence based on the principle of Dutiyapapanikadhamma in schools under the Office of the Primary Educational Service Area 1, Nakhon Sawan. A mixed-method research method was used. The quantitative research collected data from a sample group of 187 school administrators and teachers. The research instrument was a questionnaire with a reliability of 0.92. Data were analyzed by finding frequency, percentage, mean, and standard deviation. The qualitative research collected data from 9 key informants. The instrument used was a semi-structured interview. Data were analyzed using content analysis. The results of the research found that 1) the overall competence of school administrators’ administration based on the principle of Dutiyapapanikadhamma in schools under the Office of the Primary Educational Service Area 1, Nakhon Sawan, was at a high level. When considering each aspect, it was found that teamwork was at the highest level. Performance orientation, good service, and self-development were at a high level. 2) Guidelines for developing school administrators’ competence Educational institutions based on the Dutiyapapanikadhamma of schools under the Office of the Primary Educational Service Area, Nakhon Sawan Area 1 included: (1) Achievement orientation: Administrators should have a broad vision, have knowledge and understanding in planning, bring in innovations or alternative technologies, have creativity to develop works and work processes in line with the goals. (2) Good service: Educational institution administrators should be far-sighted and forward-thinking, and have related ideas. They were leaders in service provision, dare to make decisions, dare to take responsibility, and were knowledgeable. (3) Self-development: Administrators should plan the use of technology in searching for information and be leaders in exchanging academic knowledge for the development of themselves and personnel in the educational institution. (4) Teamwork: Administrators should jointly plan decisions, work as a team, listen to opinions, and accept the team’s agreements with morality and ethics.
Article Details
This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
ทัศนะและความคิดเห็นที่ปรากฏในบทความในวารสารฉบับนี้ถือเป็นความรับผิดชอบของผู้เขียนบทความนั้นเพียงผู้เดียว และไม่ถือเป็นทัศนะและความรับผิดชอบของกองบรรณาธิการ
กองบรรณาธิการขอสงวนสิทธิ์ในการคัดเลือกบทความลงตีพิมพ์และจะแจ้งให้เจ้าของบทความทราบหลังจากผู้ประเมินบทความตรวจอ่านบทความแล้ว
ต้นฉบับที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารครุศาสตร์ปริทรรศน์ คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ถือเป็นกรรมสิทธิ์ของคณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ห้ามนำข้อความทั้งหมดหรือบางส่วนไปพิมพ์ซ้ำ เว้นเสียแต่ว่าจะได้รับอนุญาตจากมหาวิทยาลัยฯ เป็นลายลักษณ์อักษร
References
ก่อศักดิ์ ไชยรัศมีศักดิ์. (2547). CEO โลกตะวันออก ฉบับลีลาบริหารสามมิติ. กรุงเทพมหานคร: สยามอินเตอร์บุคส์.
ฐิฏรฐาว์ ศรีจันทร์เวียง. (2553). สมรรถนะผู้บริหารโรงเรียนมัธยมศึกษาในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาอุดรธานี. วิทยานิพนธ์ครุศาสตรมหาบัณฑิต. มหาวิทยลัยราชภัฎอุดรธานี.
ธีรภัทร แสนอามาตย์. (2552). สมรรถนะทางการบริหารของผู้บริหารสถานศึกษาตามการรับรู้ของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาหนองบัวลำภู เขต 1 และ เขต 2. วิทยานิพนธ์ครุศาสตรมหาบัณฑิต. มหาวิทยาลัยราชภัฏเลย.
ธีระ รุญเจริญ. (2550). ความเป็นมืออาชีพในการจัดการและบริหารการศึกษายุคปฏิรูปการศึกษา. กรุงเทพมหานคร: แอล. ที. เพรส.
ธีระ รุญเจริญ. (2550). ความเป็นมืออาชีพในการจัดและบริหารการศึกษายุคปฏิรูปการศึกษา. กรุงเทพมหานคร: ข้าวฟ่าง.
บุญชม ศรีสะอาด. (2554). หลักการวิจัยเบื้องต้น. พิมพ์ครั้งที่ 9. กรุงเทพมหานคร: สุวิริยาสาส์น.
พเยาว์ สุดรัก. (2553). ศึกษาสมรรถนะหลักของผู้บริหารสถานศึกษาที่ส่งผลต่อการเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ของโรงเรียน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาปทุมธานีเขต 1. วิทยานิพนธ์ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต. มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี.
พรพนา พาโคกทม. (2553). สมรรถนะทางการบริหารของผู้บริหารสถานศึกษาในสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาขอนแก่น เขต 3. วิทยานิพนธ์ครุศาสตรมหาบัณฑิต. มหาวิทยาลัยราภัฏเลย.
พรพิศ อินทะสุระ. (2551). สมรรถนะของผู้บริหารสถานศึกษาตามความคิดเห็นของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาในโรงเรียนสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาขอนแก่น. การค้นคว้าอิสระครุศาสตรมหาบัณฑิต. มหาวิทยาลัยราภัฏเลย.
พิชิต เทพวรรณ์. (2554). การจัดการทรัพยากรมนุษย์เชิงกลยุทธ์:แนวคิดและกลยุทธ์เพื่อความได้เปรียบทางการแข่งขัน. กรุงเทพมหานคร: วี.พรินท์ (1991).
มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. (2539). พระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.
สุวิมล ติรกานันท์. (2551). การสร้างเครื่องมือวัดตัวแปรในการวิจัยทางสังคมศาสตร์. กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.