การพัฒนารูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามแนวคดการเรยนรโดยใชสมองเปนฐานและ แนวคดการชวยเหลอเด็กในการเรียนรู้ เพื่อเสริมสร้างความสามารถในการอ่านและการเขียน ภาษาไทย สำหรับนักเรียนระดับประถมศึกษา

บทคัดย่อ

       การวิจัยคร้งน้มีวัตถุประสงค์เพ่อ 1) พัฒนารูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามแนวคิดการเรียนรู้โดยใช้สมองเป็นฐานและแนวคิดการช่วยเหลือเด็กในการเรียนรู้เพ่อเสริมสร้างความสามารถในการอ่านและการเขียนภาษาไทยสำหรับนักเรียนระดับประถมศึกษา 2) ศึกษาผลการใช้รูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่พัฒนาขึ้น กลุ่มตัวอย่างคือนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1, 2, 3 โรงเรียนอนุบาลนาแกผดุงราชกิจเจริญ อำเภอนาแก จังหวัดนครพนม สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครพนม เขต 1 ปีการศึกษา 2556 ระดับชั้นละ 1 ห้องเรียน รวม 3 ห้องเรียน จำนวน 32, 32, 33 คน ตามลำดับ รวมทั้งสิ้น 97 คน ได้มาโดยการสุ่มแบบแบ่งกลุ่ม (Cluster Random Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ แบบประเมินความสามารถในการอ่านภาษาไทยและแบบประเมินความสามารถในการเขียนภาษาไทย สถิติท่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉล่ย, ค่าเบ่ยงเบนมาตรฐาน ค่าร้อยละ ทดสอบความแตกต่างโดยใช้ t – test แบบ Dependent samples ผลการวิจัยสรุปได้ดังนี้ 1. รูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่พัฒนาขึ้นมีองค์ประกอบ 5 ประการ คือ 1) หลักการ 2) จุดมุ่งหมาย 3) เนื้อหา 4) กระบวนการจัดการเรียนรู้ 5 ขั้นคือ (1) ขั้นสร้างความสนใจและประสบการณ์ 2) ข้นปฏิบัติกิจกรรมการฟังการดูและการพูด (3) ข้นปฏิบัติกิจกรรมการอ่านและการเขียน(4) ขั้นเชื่อมโยงและประยุกต์ใช้ความรู้ (5) ขั้นสะท้อนผลการเรียนรู้ และ 5) การวัดผลและประเมินผล 2. ผลการใช้รูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่พัฒนาขึ้น มีดังนี้ 1) ประสิทธิภาพของรูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เมื่อศึกษาในชั้นประถมศึกษาปีที่ 1, 2, 3 มีประสิทธิภาพ เท่ากับ 84.90/82.44,81.74/81.63, 83.30/81.39 ตามลำดับ 2) นักเรียนมีความสามารถในการอ่านและการเขียนภาษาไทย หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 3)
นักเรียนมีความคงทนในการอ่านและการเขียนภาษาไทย