การศึกษาการสอนโสตทักษะด้านทำนอง ในชั้นเรียนเปียโนขั้นต้นสำหรับผู้ใหญ่
คำสำคัญ:
เปียโนขั้นต้นสำหรับผู้ใหญ่, โสตทักษะด้านทำนองบทคัดย่อ
งานวิจัยนี้มีจุดประสงค์เพื่อศึกษาการสอนโสตทักษะด้านทำนองในชั้นเรียนเปียโนขั้นต้นสำหรับผู้ใหญ่ เป็นงานวิจัยเชิงคุณภาพที่ใช้วิธีการสัมภาษณ์คุณครูเปียโนจำนวน 5 คน และสังเกตการณ์สอนของคุณครูเปียโนในชั้นเรียนเปียโนแบบเดี่ยวของนักเรียนวัยผู้ใหญ่อายุระหว่าง 21 – 60 ปี ที่เป็นนักเรียนที่เรียนกับคุณครูที่เข้าร่วมงานวิจัย โดยผู้วิจัยนำข้อมูลผ่านการวิเคราะห์และนำเสนอผ่านการบรรยาย ผลการวิจัยพบว่า คุณครูเปียโนเห็นความสำคัญและมีการสอนโสตทักษะด้านทำนองผ่านการสอดแทรกการสอนในชั้นเรียนเปียโนปกติ โดยไม่ได้มีการจัดกิจกรรมการสอนและจัดการสอนอย่างชัดเจน การเตรียมการสอนและการการวางแผนการสอนจะยึดจุดประสงค์และเป้าหมายในการเรียนของนักเรียนเป็นหลัก ซึ่งเนื้อหาที่ใช้ในชั้นเรียนจะใช้เนื้อหาภายในเพลงและหนังสือแบบเรียนเป็นหลัก ด้านวิธีการสอนโสตทักษะด้านทำนอง คือ การสาธิตการเล่นทำนอง การปรบจังหวะ การร้องทำนองและการอธิบาย ควบคู่ไปกับการใช้เทคนิคการสอนเชิงจิตวิทยาและเทคนิคการสอนเพื่อพัฒนาโสตทักษะด้านทำนอง สื่อการสอนหลัก คือ หนังสือแบบเรียนเปียโนสำหรับผู้ใหญ่ โน้ตเพลงและเปียโน ปัญหาที่พบโดยมากเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นกับนักเรียนโดยเฉพาะปัญหาการลาเรียนและการซ้อมเปียโน จากงานวิจัยนี้ขอเสนอแนะว่า คุณครูควรมีการจัดการเรียนการสอนโสตทักษะให้มีรูปแบบชัดเจนมากขึ้นและควรส่งเสริมให้นักเรียนเห็นความสำคัญของฝึกโสตทักษะด้านทำนองทีเป็นปัจจัยสำคัญในการพัฒนาศักยภาพทางด้านดนตรีของนักเรียน
เอกสารอ้างอิง
จุฑารัตน์ มณีวัลย์. (2551). การสอนโสตทักษะด้านทำนองในหลักสูตรเปียโน ระดับชั้นต้นของสำนักพิมพ์อัลเฟรด. ปริญญาศิลปศาสตร์บัณฑิต (ดนตรี) มหาวิทยาลัยมหิดล.
ชมพูนุช ศิลวัฒนาวงศ์. (2558). ความต้องการในการเรียนเปียโนของผู้เรียนวัยผู้ใหญ่ กรณีศึกษา สถาบันดนตรี เคพีเอ็น. วิทยานิพนธ์ศิลปะศาสตร์มหาบัณฑิต(ดนตรี) สาขาดนตรีศึกษา วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล, กรุงเทพมหานคร.
ณัชชา พันธุ์เจริญ.(2551).ทฤษฎีดนตรี (พิมพ์ครั้งที่ 8). กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์เกศกะรัต.
ณัชชา พันธุ์เจริญ.(2551). สังคีตลักษณ์และการวิเคราะห์ (พิมพ์ครั้งที่ 4). กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์เกศกะรัต.
ปัทมา ว่าพัฒนวงศ์, และปราโมทย์ ประสาทกุล. (2548). ประชากรไทยในอนาคต. มหาวิทยาลัยมหิดล. เว็บไซต์http://www.ipsr.mahidol.ac.th/IPSR/AnnualConference/ConferenceII/Article/Download/Article02.pdf
มนสิการ พร้อมสุขกุล. (2556). การรับรู้ด้านระดับเสียง (Absolute Pitch) ของนิสิตสาขาวิชาดนตรีตะวันตก เครื่องดนตรีเอกเปียโน มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา. วารสารวิชาการ มนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์.
วิภาสินี เมาลานนท์. (2555). ศึกษาแนวทางการตลาดและการดำเนินธุรกิจโรงเรียนดนตรีสำหรับผู้สูงอายุ. วิทยานิพนธ์ดุริยางคศาสตรมหาบัณฑิต สาขาสังคีตวิจัยและพัฒนา คณะดุริยางค์ มหาวิทยาลัยศิลปากร, กรุงเทพมหานคร.
สมชาย อมะรักษ์. (2529). ทฤษฎีสากลเบื้องต้น. กาญจนบุรี: สหวิทยาลัยทวารวดี กาญจนบุรี.
Bowles, C. L. (2010). Teacher of Adult Music Learner: An Assessment of Characteristics and Instructional Practices, Preparation, and Needs. Applications of Research in Music Education, 87551233, May, Vol. 28, Issue 2.
Creswell, J. W. (2014). Qualtitative Inquiry and Research Design: Choosing Among Five Traditions. Thoudsand Oaks,
CA: Sage.
Dongbo, L. (2015). Research on Interpenetration between Solfeggio and Ear Training and Music Aesthetic Psychology Based on Aesthetics. International Conference on Education Technology and Economic Management (ICETEM 2015).Fujian Vocational College of Art, Fuzhou, 350100, China
Kodály, Z. (1974). The Selected Writings of Zoltán Kodály. London: Boosey & Hawkes.
Laidman, J. (2014). Music helps kids read. Scientific American Mind. May/Jun2014, Vol. 25 Issue 3, p16-16. 2/3p.
Mile, M. B., & Huberman , A. M. (1994). Qualitative Data Analysis. In An Expanded Sourcebook (2 ed.). Thousand Oaks, CA: Sage.
Waterhouse, C. (2002). Music Education in the Early Years. EYE Magazine. February 2002.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
สหศาสตร์: วารสารสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ ให้ความสำคัญกับการคุ้มครองลิขสิทธิ์และสิทธิของผู้นิพนธ์ในการเผยแพร่ผลงานวิชาการ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมความโปร่งใส ความถูกต้องตามหลักวิชาการ และสอดคล้องกับแนวปฏิบัติสากล ทั้งนี้ วารสารกำหนดนโยบายดังต่อไปนี้
|
1. การยอมรับเงื่อนไขการเผยแพร่ - ผู้นิพนธ์ที่ส่งบทความเพื่อตีพิมพ์ ต้องปฏิบัติตามนโยบายและเงื่อนไขการเผยแพร่ของวารสารโดยเคร่งครัด - การส่งบทความถือเป็นการยอมรับให้นำบทความเข้าสู่กระบวนการพิจารณาและการเผยแพร่ตามมาตรฐานของวารสาร |
|
2. การโอนลิขสิทธิ์ - เมื่อบทความได้รับการตอบรับเพื่อตีพิมพ์ ผู้เขียนโอนลิขสิทธิ์ของบทความให้แก่วารสาร - วารสารมีสิทธิ์เผยแพร่ ทำซ้ำ และเผยแพร่บทความในทุกรูปแบบ ทั้งสิ่งพิมพ์ เว็บไซต์ และสื่อออนไลน์อื่น ๆ |
|
3. สิทธิ์ของผู้นิพนธ์หลังการโอนลิขสิทธิ์ - ผู้นิพนธ์ยังคงมีสิทธิ์ใช้บทความเพื่อวัตถุประสงค์ทางวิชาการ เช่น การสอน การวิจัยส่วนบุคคล การใช้ประกอบวิทยานิพนธ์ หรือการเผยแพร่ในแพลตฟอร์มที่ไม่ใช่เชิงพาณิชย์ - การนำบทความไปใช้เพื่อวัตถุประสงค์เชิงพาณิชย์ ต้องได้รับอนุญาตจากวารสารก่อนเป็นลายลักษณ์อักษร |
|
4. การเผยแพร่ภายใต้สัญญาอนุญาตสาธารณะ (Creative Commons License) - บทความทั้งหมดในวารสารจะเผยแพร่ภายใต้สัญญาอนุญาต Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International (CC BY-NC-ND 4.0) - บุคคลอื่นสามารถเผยแพร่หรือแบ่งปันบทความได้โดยต้องให้เครดิตแก่ผู้นิพนธ์ต้นฉบับ แต่ห้ามแก้ไข ดัดแปลง หรือใช้ในเชิงพาณิชย์ |
|
5. ความถูกต้องของเนื้อหาและการใช้สื่อจากบุคคลที่สาม - ผู้เขียนต้องรับรองว่าบทความที่ส่งเพื่อตีพิมพ์เป็นผลงานต้นฉบับของตนเอง ไม่ได้ส่งซ้ำซ้อน (duplicate submission) และไม่ละเมิดลิขสิทธิ์หรือคัดลอกผลงานของผู้อื่น รวมถึงไม่มีการปลอมแปลงข้อมูล การตีพิมพ์ซ้ำ หรือการกระทำใด ๆ ที่ขัดต่อหลักจริยธรรมทางวิชาการ - ผู้เขียนต้องรับผิดชอบในการขออนุญาตใช้สื่อจากบุคคลที่สาม เช่น ภาพ ตาราง หรือกราฟิก และต้องอ้างอิงหรือให้เครดิตอย่างถูกต้องน |
|
6. ข้อจำกัดความรับผิดชอบ (Disclaimer) - บทความที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารสหศาสตร์: วารสารสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ถือเป็นลิขสิทธิ์ของวารสาร - ข้อความ ข้อมูล และข้อคิดเห็นที่ปรากฏในบทความเป็นความรับผิดชอบของผู้เขียนแต่ละท่านโดยตรง มิได้สะท้อนถึงทัศนะหรือจุดยืนของกองบรรณาธิการหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง - หากบทความมีข้อผิดพลาดหรือการละเมิดสิทธิ์ใด ๆ ความรับผิดชอบทั้งหมดเป็นของผู้เขียนแต่เพียงผู้เดียว - การนำบทความไปใช้ในเชิงพาณิชย์ ต้องได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจากบรรณาธิการวารสารก่อน ทั้งนี้ ผู้ขออนุญาตต้องจัดทำคำชี้แจงเกี่ยวกับวัตถุประสงค์และลักษณะการใช้งานอย่างชัดเจน การใช้บทความในเชิงพาณิชย์โดยไม่ได้รับอนุญาตถือเป็นความรับผิดชอบของผู้ใช้แต่เพียงผู้เดียว |

