กระบวนการเขียนรายงานทางวิชาการของนักศึกษาหลักสูตร ครุศาสตรบัณฑิต แบบบูรณาการแนวคิดการจัดการเรียนรู้แบบเชิงรุก และสแกฟโฟล์ดิง

ผู้แต่ง

  • สาวิตรี จิตบรรจง สาขาวิชาภาษาไทย คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา

คำสำคัญ:

การฝึกการเขียนรายงานทางวิชาการ , แนวคิดการจัดการเรียนรู้แบบเชิงรุก, วิธีการสแกฟโฟล์ดิง

บทคัดย่อ

บทความนี้มุ่งศึกษาและแสวงหากระบวนการฝึกการเขียนรายงานทางวิชาการที่มีประสิทธิภาพให้กับนักศึกษาหลักสูตรครุศาสตรบัณฑิตตามบริบทการเปลี่ยนแปลงทางการศึกษาในศตวรรษที่ 21 โดยนำแนวคิดพื้นฐานที่สำคัญ 2 ประการมาบูรณาการกันคือ แนวคิดการจัดการเรียนรู้แบบเชิงรุก และแนวคิดวิธีการสแกฟโฟล์ดิง ซึ่งเป็นแนวคิดที่มุ่งเน้นให้ผู้เรียนคิดและลงมือกระทำ เพื่อสร้างประสบการณ์ตรงผ่านทักษะการฟัง การพูด การอ่าน และการเขียน  สร้างเสริมการปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้สอนกับผู้เรียน และผู้เรียนกับผู้เรียนด้วยกัน โดยผู้สอนช่วยอำนวยความสะดวกและจัดสภาพแวดล้อมให้เอื้อต่อการเรียนรู้ในการสร้างความรู้ด้วยตนเองของผู้เรียน รวมทั้งช่วยเหลือ แนะนำให้ผู้เรียนประสบความสำเร็จในการทำกิจกรรม ซึ่งการช่วยเหลือสนับสนุนนั้นจะค่อย ๆ ลดลงจนกระทั่งผู้เรียนสามารถทำงานได้ด้วยตนเอง การช่วยเหลือจึงจะยุติลง ผลการสังเคราะห์ พบว่ากระบวนการฝึกทักษะการเขียนรายงานทางวิชาการของนักศึกษาหลักสูตรครุศาสตรบัณฑิต  ตามแนวคิดการจัดการเรียนรู้แบบเชิงรุก ร่วมกับแนวคิดวิธีการสแกฟโฟล์ดิง มีกระบวนการ 6 ขั้นตอนคือ 1) ขั้นกระตุ้นความสนใจ 2) ขั้นออกแบบกิจกรรมอย่างหลากหลาย 3) ขั้นแลกเปลี่ยนประสบการณ์ 4) ขั้นลงมือปฏิบัติ 5) ขั้นนำเสนอผลลัพธ์การเรียนรู้ 6) ขั้นประเมินผลร่วมกัน

Downloads

Download data is not yet available.

เอกสารอ้างอิง

กมล โพธิเย็น. (2547). รูปแบบการพัฒนาความคิดอย่างเป็นระบบเพื่อสร้างเสริมความสามารถด้วยทักษะการเขียนภาษาไทยของนักศึกษาระดับปริญญาตรี โดยใช้แนวคิดทฤษฎีไตรอาร์ขิกและวิธีการแบบสแกฟโฟลด์. วิทยานิพนธ์ปริญญาครุศาสตรดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาจิตวิทยาการศึกษา คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

กองเทพ เคลือบพณิชกุล. (2542). การใช้ภาษาไทย. กรุงเทพมหานคร : โอเดียนสโตร์.

กาญจนา นาคสกุล. (2524). “การเขียนบทความ” ใน การใช้ภาษา. กรุงเทพมหานคร : เคล็ดไทย.

คณะกรรมการวิชาภาษาไทยเพื่อการสื่อสาร ศูนย์วิชาบูรณาการ หมวดวิชาศึกษาทั่วไป. (2554). ภาษาไทยเพื่อการสื่อสาร. (พิมพ์ครั้งที่ 7). กรุงเทพมหานคร : สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์.

จิรวัฒน์ เพชรรัตน์. (2556). การอ่านและการเขียนทางวิชาการ. กรุงเทพมหานคร : โอเดียนสโตร์.

ชัยวัฒน์ สุทธิรัตน์. (2558). ศิลปะการสอนเพื่อผู้เรียนในศตวรรษที่ 21. พิมพ์ครั้งที่ 3. กรุงเทพมหานคร : วีพริ้นท์.

ถวัลย์ มาศจรัส. (2545). การเขียนเชิงสร้างสรรค์เพื่อการศึกษาและอาชีพ. กรุงเทพมหานคร : ธารอักษร.

ทิศนา แขมมณี. (2556). ศาสตร์การสอน : องค์ความรู้เพื่อการจัดกระบวนการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพ. (พิมพ์ ครั้งที่ 17). กรุงเทพมหานคร : สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

นภาลัย สุวรรณธาดา. (2548). “การเขียนรายงานวิชาการ” ใน การเขียนผลงานวิชาการและบทความ. กรุงเทพมหานคร : ภาพพิมพ์.

ผะอบ โปษะกฤษณะ. (2544). ลักษณะเฉพาะของภาษาไทย : การเขียน การอ่าน การพูด การฟังและราชาศัพท์. กรุงเทพมหานคร : รวมสาส์น.

พิมพันธ์ เดชะคุปต์ และพเยาว์ ยินดีสุข. (2561). การเรียนรู้เชิงรุกแบบรวมพลังกับ PLC เพื่อการพัฒนา. กรุงเทพมหานคร : โรงพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

ไพฑูรย์ สินลารัตน์ ประภาศรี สีหอำไพ กวิสรา รัตนากร อรทัย วิมลโนธ มาลินี ชาญศิลป์ ดวงใจ ไทยอุบุญ มลิวัลย์ ลับไพรี จิตต์นิภา ศรีไสย์ และสอางค์ ดำเนินสวัสดิ์. (2540). ภาษาไทย 2 . (พิมพ์ครั้งที่ 5). กรุงเทพมหานคร : สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

ภริมา วินิธาสถิตกุล และชนินันท์ แย้มขวัญยืน. (2565). การเรียนรู้เชิงรุก: แนวทางการเรียนการสอนที่เป็นเลิศในศตวรรษที่ 21. วารสารนวัตกรรมการศึกษาและการวิจัย. 6(3), น. 921 – 933.

ภาควิชาบรรณารักษศาสตร์ คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. (2552). การค้นคว้าและการเขียนรายงาน. (พิมพ์ครั้งที่ 10). กรุงเทพมหานคร : โครงการเผยแพร่ผลงานวิชาการ คณะอักษรศาสตร์.

วราภรณ์ แก้วสีขาว. (2560). การพัฒนาทักษะการสอนสำหรับครูภาษาไทยโดยใช้วิธีการสแกฟโฟล์ดิงกรณีศึกษา : โรงเรียนวัดโบราณสถิตย์. วิทยานิพนธ์ปริญญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาหลักสูตรและการสอนบัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์.

วิพุธ โสภวงศ์. (2551). ประมวลสาระชุดวิชา ภาษาไทยเพื่อการสื่อสาร หน่วยที่ 8 – 15. นนทบุรี : มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช.

สุจริต เพียรชอบ. (2539). หนังสือชุดความรู้ภาษาไทย สอนให้สนุกเป็นสุขกับการเรียน. กรุงเทพมหานคร : คุรุสภาลาดพร้าว.

สุธิวงศ์ พงศ์ไพบูลย์. (2522). การเขียน. กรุงเทพมหานคร : ไทยวัฒนาพานิช.

อรวรรณ วรรณฤทัย. (2564). การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้เชิงรุก เพื่อพัฒนาสมรรถนะการจัดการเรียนรู้เชิงรุกสำหรับนักศึกษาสอนศาสนา. วิทยานิพนธ์ปริญญาปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาวิทยาการศึกษาและการจัดการเรียนรู้ คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ.

เอกฉัท จารุเมธีชน. (2539). การใช้ภาษาไทย. กรุงเทพมหานคร : โอเดียนสโตร์.

Baldwin, J. and William, H. (1998). Active Learning : A Teacher’s Guide. Great Britain : T.J. Press.

C.C. Bonwell and J.A.Eison (1991). Active Learning : Creating Excitement in the Classroom. ERIC Digest. 9(1), pp 29 – 64.

Gifkins, J. (2015). What is Active Learning and Why is it Important?. E – international relations. Retrieved November 5, 2024, from http://www.eir.info/2015/10/08/what-is-active learning- and- why-is-it-important.

Larkin, M.J. (2001). Providing Support for Student Independence through Scaffolded Instruction. Council for Exceptional Children. 34(1) pp. 30 – 34.

Raymond, E.B. (2000). Cognitive Characteristics: Learners with Mild Disabilities. Allyn and Bacon, Boston.

Rosenshine, B., Meister, C. (1992). The use of scaffolds for teaching high – level cognitive strategies. Educational Leadership, 49(7) pp. 26 - 33.

Vygotsky, L.S. (1997). Education Psychology. Boca Raton : St.Lucie.

Wood D. J., Bruner, J. S., and Ross, G. (1976). The Role of Tutoring in Problem Solving. Journal of Child Psychology and Psychiatry. 17(2) pp. 89 – 100.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2025-07-03

รูปแบบการอ้างอิง

จิตบรรจง ส. . . (2025). กระบวนการเขียนรายงานทางวิชาการของนักศึกษาหลักสูตร ครุศาสตรบัณฑิต แบบบูรณาการแนวคิดการจัดการเรียนรู้แบบเชิงรุก และสแกฟโฟล์ดิง. วารสารมหาวิทยาลัยราชภัฏธนบุรี, 19(1), 258–274. สืบค้น จาก https://so02.tci-thaijo.org/index.php/journaldru/article/view/274960

ฉบับ

ประเภทบทความ

บทความปริทัศน์