การพัฒนาผู้เรียนด้วยกระบวนการจัดการเรียนการสอนแบบโครงงานเป็นฐาน (Project-based Learning): กรณีศึกษาการจัดการแสดง ละครพูดชวนหัวเรื่องล่ามดี
คำสำคัญ:
กลวิธีการสร้างอารมณ์ขัน , แนวคิด, การจัดการเรียนการสอนแบบโครงงานเป็นฐานบทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาผลการเรียนรู้ด้านกลวิธีการสร้างอารมณ์ขันและแนวคิดของบทละครพูดชวนหัวเรื่องล่ามดีผ่านการสร้างสรรค์ผลงานการจัดแสดงละครเวที วิธีดำเนินงานวิจัยแบ่งเป็น 3 ขั้นตอน ได้แก่ 1) ขั้นก่อนดำเนินโครงงาน ซึ่งเป็นการศึกษาบทละคร บริบทของสังคมไทย และการวิเคราะห์สภาพปัญหาจากการเรียนการสอนแบบบรรยาย 2) ขั้นดำเนินโครงงาน ประกอบด้วยการแนะนำขั้นตอนการจัดการเรียนการสอนแบบโครงงานเป็นฐาน การเปิดโอกาสให้ผู้เรียนเลือกทำหน้าที่ที่สนใจในการสร้างสรรค์ผลงานการแสดงละคร และการดำเนินกระบวนการสร้างสรรค์การแสดงละคร ที่แบ่งเป็น ฝ่าย ได้แก่ ฝ่ายการแสดง ฝ่ายกำกับเวที ฝ่ายฉาก ฝ่ายแต่งหน้าและเครื่องแต่งกาย ฝ่ายเทคนิคแสงและเสียง และฝ่ายประชาสัมพันธ์ 3) ขั้นถอดบทเรียน ประกอบด้วย การจัดการทดสอบและการสนทนากลุ่ม ผลการวิจัยพบว่าการศึกษาบทละครพูดชวนหัวด้วยกระบวนการจัดการเรียนการสอนแบบโครงงานเป็นฐาน ส่งผลให้ผู้เรียนเกิดความเข้าใจในกลวิธีการสร้างอารมณ์ขันและแนวคิดของเรื่อง มากกว่าการจัดการเรียนการสอนแบบบรรยาย โดยผู้เรียนสามารถตอบคำถามและอธิบายได้อย่างถูกอย่าง ซึ่งสอดคล้องกับการถอดบทเรียนด้วยกระบวนการสนทนากลุ่ม ที่ผู้เรียนสะท้อนว่าการเรียนรู้ผ่านการสร้างสรรค์ผลงานการแสดงละครช่วยให้เข้าใจในกลวิธีการสร้างอารมณ์ขันและแนวคิดของบทละครได้อย่างชัดเจน
Downloads
เอกสารอ้างอิง
ปรัชญนันท์ นิลสุข. (2558). การจัดการเรียนรู้แบบโครงการเป็นฐาน (Project-based Learning). กรุงเทพมหานคร : MAC Education.
ปิ่น มาลากุล, ม.ล. (2521). อธิบายพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว หมวด ข. โขน ละคร. กรุงเทพมหานคร : โรงพิมพ์คุรุสภาลาดพร้าว.
ยรรยง สินธุ์งาม. (2556). การเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน (Problem-based Learning: PBL). ค้นเมื่อ 18 มิถุนายน 2567, จาก http://www.vcharkarn.com.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 มหาวิทยาลัยราชภัฏธนบุรี

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของมหาวิทยาลัยราชภัฏธนบุรี
ข้อความที่ปรากฏในบทความแต่ละเรื่องในวารสารวิชาการเล่มนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแต่ละท่านไม่เกี่ยวข้องกับมหาวิทยาลัยราชภัฏธนบุรีและบุคลากรท่านอื่น ๆ ในมหาวิทยาลัยฯ แต่อย่างใด ความรับผิดชอบองค์ประกอบทั้งหมดของบทความแต่ละเรื่องเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน หากมีความผิดพลาดใด ๆ ผู้เขียนแต่ละท่านจะรับผิดชอบบทความของตนเองแต่ผู้เดียว
