ความกตัญญูกตเวทีและการดูแลผู้สูงอายุในญี่ปุ่นและไทย : อิทธิพลทางวัฒนธรรมต่อการกำหนดนโยบายผู้สูงอายุที่เน้นครอบครัวเป็นศูนย์กลาง

ผู้แต่ง

  • ปิยากร หวังมหาพร หลักสูตรรัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต วิทยาลัยบัณฑิตศึกษาด้านการจัดการ มหาวิทยาลัยศรีปทุม
  • สัญญาศรณ์ สวัสดิ์ไธสง หลักสูตรรัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร

คำสำคัญ:

ความกตัญญู , วัฒนธรรม, การดูแลผู้สูงอายุ , การกำหนดนโยบายผู้สูงอายุ , ครอบครัวเป็นศูนย์กลาง

บทคัดย่อ

การวิจัยเชิงคุณภาพเรื่องความกตัญญูกตเวทีและการดูแลผู้สูงอายุในญี่ปุ่นและไทย : อิทธิพลทางวัฒนธรรม  ต่อการกำหนดนโยบายผู้สูงอายุที่เน้นครอบครัวเป็นศูนย์กลาง เป็นการวิจัยเอกสาร โดยศึกษาค้นคว้าจากเอกสาร ตำรา รายงานการวิจัยในประเทศและต่างประเทศ เว็บไซต์หน่วยงานราชการ กฎหมายที่เกี่ยวข้องของญี่ปุ่นและไทย โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสำรวจปัจจัยด้านวัฒนธรรม ได้แก่ ค่านิยมเรื่องความกตัญญูกตเวที ซึ่งเป็นปัจจัยหนึ่งในอีกหลายปัจจัยที่ส่งผลต่อการกำหนดนโยบายผู้สูงอายุ การศึกษาครั้งนี้มุ่งเน้นศึกษาเฉพาะโครงการระบบประกันการดูแลระยะยาวด้านสาธารณสุขของญี่ปุ่นและโครงการระบบการดูแลระยะยาวในครอบครัวและชุมชนของไทย โดยผลการศึกษาพบว่า ปัจจัยวัฒนธรรม คือ ความกตัญญู ซึ่งมีองค์ประกอบย่อย ได้แก่ 1) การดูแลผู้สูงอายุโดยให้ความสำคัญกับความเป็นอิสระ 2) การดูแลผู้สูงอายุโดยให้ความสำคัญกับบทบาทครอบครัว และ 3) การดูแลผู้สูงอายุที่บ้าน องค์ประกอบทั้งสามประการมีอิทธิพลต่อการกำหนดนโยบายผู้สูงอายุของญี่ปุ่นและไทย

References

กรมกิจการผู้สูงอายุ. (2565). สถิติผู้สูงอายุ.ค้นเมื่อ 1 กรกฎาคม 2566, จาก https://www.dop.go.th/th/know/side/1/1/1962.

กองทุนประชากรแห่งสหประชาชาติ. (2565). สูงวัยในศตวรรษที่ 21: การเฉลิมฉลองและความท้าทาย. กรุงเทพมหานคร : กองทุนประชากรแห่งสหประชาชาติ.

กรุงเทพธุรกิจ. (2566). ส่อง "ความกตัญญู" ในแง่มุม "จิตวิทยา" ที่อาจไม่ใช่การให้เงินพ่อแม่เสมอไป. ค้นเมื่อ 1กรกฎาคม 2566, จาก https://www.bangkokbiznews.com/lifestyle/995058

ดำรงศักดิ์ จันโททัย. (2563).บทเรียนการจัดการสังคมผู้สูงอายุจากประเทศญี่ปุ่น.วารสารนิติ รัฐกิจ และสังคมศาสตร์.4 (1), น.159-182.

พระครูพิพัฒน์ธรรมกิจ, สิทธิโชค ปาณะศรี, พระครูโฆสิตวัฒนานุกูล, พระครูวิจิตรรัตนวัตร.(2566).การประยุกต์ใช้หลักความกตัญญูกตเวทีในประเพณีวิถีชีวิตของชุมชนสุไหงปัตตานี อำเภอกัวลามูดา รัฐเคดาห์ ประเทศมาเลเซีย.วารสารวิชาการ มจร บุรีรัมย์.8 (1), น.181-189.

ราชบัณฑิตยสถาน. (2554). พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตนสถาน พ.ศ. 2554. ค้นเมื่อ 5 กรกฎาคม 2566, จาก https://dictionary.orst.go.th/

สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ. (2563). คู่มือระบบการดูแลระยะยาวด้านสาธารณสุขสำหรับผู้สูงอายุ. ค้นเมื่อ 5 กรกฎาคม 2566, จาก https://www.nhso.go.th/storage/downloads/main/37/%E0%B8%84%E0%B8%B9%E0%B9%88%E0%B8%A1%E0%B8%B7%E0%B8%AD_LTC_.pdf

สิรินทร์ยา พูนเกิดและณปภัช สัจนวกุล. (2563). ที่อยู่อาศัยที่เหมาะสมสำหรับผู้สูงอายุในสังคมไทย: แนวคิด พัฒนาการและมุมมองเชิงนโยบาย.กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพฺเดือนตุลา.

Akiyama, H. (2020). Aging Policy and Filial Piety in Japan. Journal of Aging and Social Policy. 32(4), pp.220-228.

Balthip, K., Suwanphahu, B., & McSherry, W. (2022). Achieving Fulfilment in Life: Cultivating the Mindset of Gratitude among Thai Adolescents. Sage Open. 12(1), pp.1-12.

Ministry of Health, Labour and Welfare. (2023). Long-term care insurance system of Japan. Retrieved July 23, 2023, fromhttps://www.mhlw.go.jp/english/policy/care-welfare/care-welfare-elderly/dl/ltcisj_e.pdf

Puraya, A., Piyakong, D., Wongwiggan, S., &Boonpracom, R. (2021). Exploring the elderly care system: A view from community in Thailand.Journal Ners. 16 (1), pp.89-95.

Scott, J. (1990). A matter of record: Documentary sources in social research. UK: Polity Press.

Tanaka, K. (2011). Culture of Respect: Sustaining Self, Dignity, and the Respect of Others. The Japan Foundation Newsletter. 39, pp.6-7.

UNFPA. (2023). World Population Dashboard. Retrieved July 3, 2023, from https://www.unfpa.org/data/world-population/JP

WHO. (2022). Long-term care.Retrieved July 2, 2023, from https://www.who.int/europe/news-room/questions-and-answers/item/long-term-care

Yumoto, Y. (2008). Intergenerational Relations in Japanese Families: An Exploratory Study of a Grandparent–Grandchild Relationship. Ageing & Society. 28(4), pp.585-603.

Downloads

เผยแพร่แล้ว

2023-12-26 — Updated on 2024-06-28

Versions