รูปแบบการถ่ายทอดทักษะองค์ความรู้จากประสบการณ์ทำงานสำหรับเสริมสร้างความภาคภูมิใจในตนเองของผู้เกษียณอายุภาคอุตสาหกรรมในอำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ
คำสำคัญ:
ถ่ายทอดทักษะองค์ความรู้ประสบการณ์ทำงาน, ความภาคภูมิใจในตนเอง, เกษียณอายุภาคอุตสาหกรรมบทคัดย่อ
การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ (1) เพื่อศึกษาข้อมูลทักษะ องค์ความรู้ ประสบการณ์ของผู้เกษียณอายุภาคอุตสาหกรรม อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ (2) เพื่อศึกษาแนวทางการถ่ายทอดทักษะองค์ความรู้จากประสบการณ์ทำงานสำหรับเสริมสร้างความภาคภูมิใจในตนเองของผู้เกษียณอายุ (3) เพื่อศึกษาการนำเสนอรูปแบบการถ่ายทอดทักษะองค์ความรู้จากประสบการณ์ทำงานสำหรับเสริมสร้างความภาคภูมิใจในตนเองของผู้เกษียณอายุ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยคือผู้เกษียณอายุและผู้เกษียณอายุที่ได้รับการจ้างต่อ จำนวน 327 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยเป็นแบบสอบถามและแบบสัมภาษณ์ วิเคราะห์ข้อมูลโดยการใช้ ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน โดยวิเคราะห์โดยการใช้เทคนิควิธีสังเคราะห์ (Content Aanlaysis) ผลการศึกษา พบว่า 1) ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่ เป็นคนงานหญิง การศึกษามัธยมศึกษา ระยะเวลาในการทำงาน 16-20 ปี มีรายได้กองทุนประกันสังคม กิจกรรมที่ทำหลังเกษียณงาน คือ จิตอาสาช่วยเหลือสังคมเคยนำทักษะองค์ความรู้จากประสบการณ์ทำงานมาถ่ายทอดเพื่อสร้างความภาคภูมิใจให้กับตนเอง และมีระดับความคิดเห็นด้านทักษะ อยู่ในระดับ ปานกลาง ( =3.43)) ด้านความภาคภูมิใจ อยู่ในระดับมาก ( =3.52) ด้านกระบวนการสร้างความภาคภูมิใจ อยู่ในระดับมาก ( =3.56) และด้านช่องทางสร้างความภาคภูมิใจอยู่ในระดับมาก ( =3.77) 2) ส่วนแนวทางการถ่ายทอดทักษะองค์ความรู้จากประสบการณ์ทำงาน ได้แก่ การมีทักษะ องค์ความรู้ และประสบการณ์เชิงประจักษ์และมีช่องทางถ่ายทอดทักษะ องค์ความรู้และประสบการณ์ที่เหมาะสม และ 3) รูปแบบการถ่ายทอดทำงานสำหรับเสริมสร้างความภาคภูมิใจ ได้แก่ รูปแบบการใช้เทคนิควิธีถ่ายทอดจากประสบการณ์โดยตรง
References
ประภาส ณ พิกุล. (2551). ความภาคภูมิใจในตนเองและการสร้างโมเดลการให้คำปรึกษากลุ่มเพื่อพัฒนาความภาคภูมิใจในตนเองของนักเรียนวัยรุ่น. วิทยานิพนธ์ปริญญาดุษฎีบัณฑิต สาขาจิตวิทยาการให้คำปรึกษา). บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยนเรศวร.
พลอยพัชร์ กิจเจริญเกษม. (2561). การเตรียมความพร้อมเพื่อการเกษียณอายุของพนักงาน ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน). วิทยานิพนธ์ปริญญารัฐศาสนศาสตรมหาบัณฑิต สาขานโยบายสาธารณะ บัณฑิตวิทยาลัยมหาวิทยาลัยมหิดล.
วนิดา ธนากรกุล และคณะ. (2561). รูปแบบการถ่ายทอดความรู้สำคัญยิ่งยวดภายในและภายนอกศูนย์การแพทย์กาญจนาภิเษกผ่านนิทรรศการ. วารสาร R2R มหาวิทยาลัยรมหิดล. 5 (1), 19-25.
ศศนันท์ วิวัฒนชาต และคณะ. (2558). รายงานวิจัยเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างคุณภาพชีวิตในการทำงานกับความสุขในการทำงานของพนักงานก่อนวัยเกษียณอายุ ในโรงงานอุตสาหกรรม จังหวัดนนทบุรี. กรุงเทพมหานคร: มหาวิทยาลัยราชพฤกษ์.
ศูนย์สารสนเทศ กรมโรงงานอุตสาหกรรม. (2560). ข้อมูลโรงงานตามรายภาค. กรุงเทพมหานคร: ศูนย์สารสนเทศ กรมโรงงานอุตสาหกรรม.
สราวุธ ไพฑูรย์พงษ์. (2561, 12 ตุลาคม). การเกษียณอายุภาคอุตสาหกรรมภาคเอกชน. หนังสือพิมพ์มติชน. ค้นเมื่อ 20 พฤษภาคม 2562,จาก https://www.matichon.co.th/columnists/news_823471.
สำนักงานสถิติแห่งชาติ. (2557). สรุปผลที่สำคัญการทำงานของผู้สูงอายุในประเทศไทย พ.ศ. 2556. กรุงเทพมหานคร: สำนักสถิติพยากรณ์สำนักงานสถิติแห่งชาติ.
Best, W. John. (1997). Research in Education. ed. Englewood Cliffs. New Jersey: Prentice-Hell, Inc.
Krejcie, R. V. & Morgan, D. W. (1970). Determining Sample Size for Research Activities. Educational and Psychological Measurement, 30(3), pp. 607-610.
Takeuchi. (1995). โมเดลการจัดการความรู้ (SECI Model). ค้นเมื่อ 11 กรกฎาคม 2562 จากhttp://welcome2km.blogspot.com/p/seci-model-nonaka-takeuchi/1995-tacit.html
Downloads
เผยแพร่แล้ว
How to Cite
ฉบับ
บท
License
Copyright (c) 2021 มหาวิทยาลัยราชภัฏธนบุรี
This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของมหาวิทยาลัยราชภัฏธนบุรี
ข้อความที่ปรากฏในบทความแต่ละเรื่องในวารสารวิชาการเล่มนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแต่ละท่านไม่เกี่ยวข้องกับมหาวิทยาลัยราชภัฏธนบุรีและบุคลากรท่านอื่น ๆ ในมหาวิทยาลัยฯ แต่อย่างใด ความรับผิดชอบองค์ประกอบทั้งหมดของบทความแต่ละเรื่องเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน หากมีความผิดพลาดใด ๆ ผู้เขียนแต่ละท่านจะรับผิดชอบบทความของตนเองแต่ผู้เดียว