การพัฒนาครูเพื่อคุณภาพของผู้เรียนในศตวรรษที่ 21

Main Article Content

พระสมุห์นริศ นรินโท

บทคัดย่อ

การวิจัยเรื่อง การพัฒนาครูเพื่อคุณภาพของผู้เรียนในศตวรรษที่ 21 มีวัตถุประสงค์(1) เพื่อศึกษาสภาพการพัฒนาครูเพื่อคุณภาพผู้เรียนในศตวรรษที่ 21 (2) เพื่อศึกษากระบวนการพัฒนาครูเพื่อคุณภาพผู้เรียนในศตวรรษที่ 21 (3) เพื่อเสนอการพัฒนาครูเพื่อคุณภาพผู้เรียนในศตวรรษที่ 21    การวิจัยครั้งนี้ใช้ระเบียบวิธีวิจัยแบบผสานวิธี (Mixed Methods Research) ระหว่างการวิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative Research) ใช้การศึกษาวิจัยเชิงสำรวจ (Survey Research) จากแบบสอบถาม (Questionnaire)ผู้อำนวยการโรงเรียน ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาในโรงเรียนมัธยมศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 3 คือ จังหวัดนนทบุรี และจังหวัดพระนครศรีอยุธยา จำนวน 47 โรงเรียน จำนวนครูและบุคลากรทางการศึกษา จำนวน 3,500 คน โดยใช้สูตรคำนวณขนาดกลุ่มตัวอย่างโดยใช้ตารางของ Krejcie & Morgan[1] ได้ขนาดกลุ่มตัวอย่าง 346 คนและการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) โดยการสัมภาษณ์เชิงลึก(Interview)จากผู้บริหารโรงเรียน ครูและบุคลากรทางการศึกษาจำนวน 10 คน ด้วยการเลือกเจาะจง (Purpose Sampling) เป็นการสัมภาษณ์แบบตัวต่อตัว (Face- to-Face) โดยใช้แบบสัมภาษณ์แบบกึ่งโครงสร้าง (Semi-structured Selection Interview)จากนั้นนำมาสังเคราะห์เป็นรูปแบบเบื้องต้น ก่อนที่จะนำเสนอต่อเวทีสนทนากลุ่มเฉพาะ (Focus Group Discussion) เพื่อพัฒนารูปแบบให้มีความสมบูรณ์ขึ้นและนำเสนอต่อดุษฎีพิจารณ์ (Public Hearing)


 


          ผลการวิจัยพบว่า


  1. สภาพการพัฒนาครูเพื่อคุณภาพผู้เรียนในศตวรรษที่ 21พบว่าความเหมาะสมของการพัฒนาครูเพื่อคุณภาพของผู้เรียนในศตวรรษที่ 21โดยภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.53) เมื่อพิจารณาเป็นรายยุทธศาสตร์พบว่า ความเหมาะสมระดับมากที่สุด ได้แก่ ยุทธศาสตร์ที่ 5 การส่งเสริมและพัฒนาสิทธิครู(  = 4.63) ยุทธศาสตร์ที่ 2 การผลิตครูให้ได้มาตรฐานเพื่อรองรับการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21(  = 4.53)ยุทธศาสตร์ที่ 1 การสร้างมาตรฐานวิชาชีพครูให้เป็นที่ยอมรับ (  = 4.52) และความเหมาะสมระดับมาก คือ ยุทธศาสตร์ที่ 3 การพัฒนาครูให้เกิดทักษะการจัดการเรียนรู้เพื่อทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 (  = 4.50) และยุทธศาสตร์ที่ 4 การเสริมสร้างประสิทธิภาพการใช้ครู (  = 4.45)

  2. กระบวนการพัฒนาครูเพื่อคุณภาพผู้เรียนในศตวรรษที่ 21พบว่า ความเป็นไปได้ของการพัฒนาครูเพื่อคุณภาพของผู้เรียนในศตวรรษที่ 21โดยภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.51) เมื่อพิจารณาเป็นรายยุทธศาสตร์พบว่า ความเป็นไปได้ระดับมากที่สุด ได้แก่ยุทธศาสตร์ที่ 5 การส่งเสริมและพัฒนาสิทธิครู ( = 4.64) ยุทธศาสตร์ที่ 1 การสร้างมาตรฐานวิชาชีพครูให้เป็นที่ยอมรับ (  = 4.52) ยุทธศาสตร์ที่ 2 การผลิตครูให้ได้มาตรฐานเพื่อรองรับการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 (  = 4.51) และความเป็นไปได้ระดับมาก ได้แก่ ยุทธศาสตร์ที่ 3 การพัฒนาครูให้เกิดทักษะการจัดการเรียนรู้เพื่อทักษะแห่งศตวรรษที่ 21(  = 4.48) และยุทธศาสตร์ที่ 4 การเสริมสร้างประสิทธิภาพการใช้ครู (  = 4.41)

  3. การพัฒนาครูเพื่อคุณภาพผู้เรียนในศตวรรษที่ 21พบว่า มีการสอบเพื่อรับและต่อใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ กำหนดให้ครูทุกคนต้องพัฒนาตนเองทุกปี พัฒนาระบบเงินเดือน การตอบแทนครูที่เหมาะสม ประเมินผลการทำงานของครูด้วยวิธีการประเมินแบบค่าสัมพัทธ์ จัดสรรค่าตอบแทนและสวัสดิการให้สามารถดึงดูดคนเก่งและดีมาเป็นครู มีระบบประกันและรับรองคุณภาพมาตรฐานวิชาชีพครูและสถาบันผลิตครู วางแผนการผลิตครู การพัฒนาและการใช้อย่างเป็นระบบ จัดระบบเพื่อให้บัณฑิตสาขาอื่นได้เป็นครู มีพัฒนาระบบการผลิตครู อาจารย์ที่สอนในระดับสูงกว่าการศึกษาขั้นพื้นฐาน สนับสนุนให้เกิดการต่อยอด เพื่อให้เกิดความเจริญก้าวหน้า

Article Details

รูปแบบการอ้างอิง
นรินโท พ. . (2019). การพัฒนาครูเพื่อคุณภาพของผู้เรียนในศตวรรษที่ 21. วารสารบัณฑิตศึกษามหาจุฬาขอนแก่น, 6(3), 459–473. สืบค้น จาก https://so02.tci-thaijo.org/index.php/jg-mcukk/article/view/215589
ประเภทบทความ
บทความวิจัย

เอกสารอ้างอิง

ธีรวัฒน์ หอมสมบัติ, การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการบริหารจัดการสถานศึกษา สังกัดสำนักงาน
เขตพื้นที่การศึกษาหนองคาย เขต 3, วิทยานิพนธ์ปริญญาครุศาสตร์มหาบัณฑิต
(การบริหารการศึกษา), บัณฑิตวิทยาลัยมหาวิทยาลัยนครพนม, 2554.
นิสิตปริญญาเอก สาขาเทคโนโลยีและสื่อสารการศึกษา มหาวิทยาลัยนเรศวร
ไทยโพสต์, ยูเนสโกชำแหละการศึกษาไทยล้มเหลว, Friday, October 30, 2015http://www.thaipost.net/
ไพฑูรย์ มาวงค์, ศักยภาพและความต้องการในการทำวิจัยในชั้นเรียนของครูโรงเรียนบ้านสันติสุข
อำเภอปง จังหวัดพะเยา, วิทยานิพนธ์ปริญยาการศึกษาครุศาตร์มหาบัณฑิต (สาขาการ
บริหารการศึกษา), บัณฑิตวิทยาลัยมหาวิทยาลัยราชภัฎเชียงราย, 2552.
ภิญโญ ลองศรี, ปัจจัยที่ส่งผลต่อพฤติกรรมการทำวิจัยในชั้นเรียนของครูผู้สอนในโรงเรียนสังกัด
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาขอนแก่น เขต 1-5, วิทยานิพนธ์ปริญญาครุศาสตรมหาบัณฑิต
บัณฑิตวิทยาลัยมหาวิทยาลัยราชภัฎเลย, 2549.
ภาสกร เรืองรอง และ คณะ, เทคโนโลยีการศึกษากับครูไทยในศตวรรษที่ 21 (EDUCATIONAL
TECHNOLOGY VS THAI TEACHERS IN 21st CENTURY), Panyapiwat Journal, Vol.5
Special Issue May 2014, บทคัดย่อ, หน้า 195.
วณิช นิรันดรานนท์, รูปแบบการพัฒนาสมรรถนะครูผู้สอนกลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา
ที่มีประสิทธิผลสำหรับโรงเรียนขนาดเล็กในเขตบริการของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา
อุดรธานี เขต 1, วิทยานิพนธ์ปริญญาการศึกษาดุษฎีบัณฑิต บัณฑิตวิทยาลัยมหาวิทยาลัย
มหาสารคาม, 2552.
สมจิต บุตรทองทิม, การพัฒนาศักยภาพครูด้านการจัดการเรียนการสอนที่เน้นการใช้สื่อนวัตกรรมใน
โรงเรียนเดชอุดม, วิทยานิพนธ์ปริญญาครุศาสตรมหาบัณฑิต (สาขาการบริหารการศึกษา),
บัณฑิตวิทยาลัยมหาวิทยาลัยราชภัฎอุบลราชธานี, 2550.
อ้างใน ลัดดาวัลย์ เพชรไพโรจน์สุภมาศ อังศุโชต และอัจฉา ชำนิประศาสน์, สถิติสำหรับการวิจัยและ
เทคนิคการใช้ SPSS, ฉบับปรับปรุงครั้งที่ 2, (กรุงเทพมหานคร: เจริญดีมั่นคงการพิมพ์,
2555), หน้า 264.
อาจารย์ภาควิชา เทคโนโลยีและสื่อสารการศึกษา มหาวิทยาลัยนเรศวร
Montfort College Primary Section, เข้าถึงเมื่อ 23 ก.พ. 2560. เข้าถึงได้จาก
http://www.mcp.ac.th/print_text.php?mm=22&sm=49&ssm=41&id=164