การพัฒนานวัตกรรมการจัดการเรียนรู้เชิงสร้างสรรค์ในยุค Disruption ของโรงเรียนในจังหวัดขอนแก่น

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาสภาพปัจจุบัน สภาพที่เป็นไปได้ สภาพที่พึงประสงค์ และความต้องการจำเป็นของการพัฒนานวัตกรรมการจัดการเรียนรู้เชิงสร้างสรรค์ เป็นการวิจัยเชิงปริมาณ กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ ผู้บริหารสถานศึกษาและ ครูผู้สอน จำนวน 341 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แบบสอบถาม สถิติที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และ PNI_modified 
ผลการวิจัย พบว่า 
1) สภาพปัจจุบันของการพัฒนานวัตกรรมการจัดการเรียนรู้เชิงสร้างสรรค์ ในยุค Disruption ของโรงเรียนในจังหวัดขอนแก่น สภาพแวดล้อมภายใน โดยภาพรวมอยู่ในระดับปานกลาง สภาพที่เป็นไปได้ของการพัฒนานวัตกรรมการจัดการเรียนรู้เชิงสร้างสรรค์ โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก และสภาพที่พึงประสงค์ โดยภาพรวมอยู่ในระดับมากสภาพปัจจุบัน จากการวิเคราะห์สภาพแวดล้อมภายนอก โดยภาพรวม อยู่ในระดับปานกลาง สภาพที่เป็นไปได้ โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก  และสภาพที่พึงประสงค์โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก
2) ความต้องการจำเป็นของการพัฒนานวัตกรรมการจัดการเรียนรู้เชิงสร้างสรรค์จากการวิเคราะห์สภาพแวดล้อมภายใน โดยภาพรวม ค่าดัชนี PNI_modified (2) เฉลี่ยเท่ากับ 0.121 สภาพแวดล้อมภายนอก โดยภาพรวม ค่าดัชนี PNI_modified (2) เฉลี่ยเท่ากับ 0.467 จำแนกตามขนาดของโรงเรียน โรงเรียนขนาดเล็กและขนาดกลางมีค่าเฉลี่ยความต้องการจำเป็นที่เป็นไปได้และความต้องการจำเป็นที่พึ่งประสงค์แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 ส่วนโรงเรียนขนาดเล็กและใหญ่และโรงเรียนขนาดกลางและใหญ่ แตกต่างกันอย่างไม่มีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 สภาพแวดล้อมภายนอก โรงเรียนขนาดเล็กและขนาดกลางมีค่าเฉลี่ยความต้องการจำเป็นที่เป็นไปได้และความต้องการจำเป็นที่พึ่งประสงค์แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 ส่วนโรงเรียนขนาดเล็กและใหญ่ กับโรงเรียนขนาดกลางและใหญ่แตกต่างกันอย่างไม่มีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05