ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับการปฏิบัติตนตามมาตรฐานจรรยาบรรณครู ของข้าราชการครู ในจังหวัดหนองบัวลําภู
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีความมุ่งหมายเพื่อ ศึกษาปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับการปฏิบัติตนตาม
มาตรฐานจรรยาบรรณครู ของข้าราชการครูในจังหวัดหนองบัวลําภู และ เพื่อสร้างสมการพยากรณ์
การปฏิบัติตนตามมาตรฐานจรรยาบรรณครู ของข้าราชการครูในจังหวัดหนองบัวลําภู กลุ่มตัวอย่างเป็น
ข้าราชการครูในจังหวัดหนองบัวลําภู จํานวน 351 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยมี 2 ชนิด ได้แก่ 1) แบบ
วัดการปฏิบัติตนตามมาตรฐานจรรยาบรรณครู 2) แบบสอบถามเกี่ยวกับปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับการ
ปฏิบัติตนตามมาตรฐานจรรยาบรรณครู การวิเคราะห์ข้อมูลใช้การวิเคราะห์การถดถอยพหุคูณเป็น
ขั้นตอน (Stepwise Multiple Regression Analysis)
ผลการวิจัยพบว่า
1. ตัวแปรพยากรณ์ทุกตัวมีความสัมพันธ์กันทางบวก อย่างมีนัยสําคัญทางสถิติที่ระดับ .01
มีค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ตั้งแต่ .232 ถึง .674 ตัวแปรพยากรณ์ที่มีความสัมพันธ์กันสูงสุด คือ
บุคลิกภาพของความเป็นครู (X5) กับมนุษยสัมพันธ์ (X6) มีค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ เท่ากับ .674 และ
ตัวแปรพยากรณ์ที่มีความสัมพันธ์กันต่ําสุด คือ แรงจูงใจในการทํางาน (X1) กับเจตคติต่อวิชาชีพครู (X2)
มีค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ เท่ากับ .232
2. ตัวแปรที่สามารถพยากรณ์การปฏิบัติตนตามมาตรฐานจรรยาบรรณครูของข้าราชการ
ครู ในจังหวัดหนองบัวลําภู ได้แก่ ความผูกพันต่อโรงเรียน (X3) มนุษยสัมพันธ์ (X6) บุคลิกภาพของความ
เป็นครู (X5) แรงจูงใจในการทํางาน (X1) การพัฒนาตนเอง (X4) เจตคติต่อวิชาชีพครู (X2) สามารถสร้าง
สมการพยากรณ์ในรูปคะแนนดิบ และในรูปคะแนนมาตรฐานได้ ดังนี้
สมการพยากรณ์ในรูปคะแนนดิบ คือ
= .940 + .229X3 + .161X6 + .150X5 + .097X1 + .072X4+ .078X2
สมการพยากรณ์ในรูปคะแนนมาตรฐาน คือ
/y
Ζ = .281Zx3+ .199Zx6+.184Zx5+.155Zx1+.104Zx4 +.087Zx2
Article Details
เนื้อหาและข้อมูลในบทความที่ลงตีพิมพ์ในวารสารการวัดผลการศึกษา มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ถือเป็นข้อคิดเห็นและความรับผิดชอบของผู้เขียนบทความโดยตรง ซึ่งกองบรรณาธิการวารสาร ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย หรือร่วมรับผิดชอบใดๆ
บทความ ข้อมูล เนื้อหา รูปภาพ ฯลฯ ที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารการวัดผลการศึกษา มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ถือเป็นลิขสิทธิ์ของวารสารการวัดผลการศึกษา มหาวิทยาลัยมหาสารคาม หากบุคคลหรือหน่วยงานใดต้องการนำทั้งหมดหรือส่วนใดส่วนหนึ่งไปเผยแพร่ต่อหรือกระทำการใดๆ จะต้องได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจากวารสารการวัดผลการศึกษา มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ก่อนเท่านั้น