ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อความพึงพอใจในการใช้บริการธุรกิจเรียนพิเศษออนไลน์ของผู้เรียนระดับมัธยมศึกษาในภาคกลาง
Article Sidebar
Main Article Content
บทคัดย่อ
บทคัดย่อ
งานวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อความพึงพอใจในการใช้บริการธุรกิจเรียนพิเศษออนไลน์ของผู้เรียนระดับมัธยมศึกษาในภาคกลาง โดยเก็บข้อมูลจากแบบสอบถาม จำนวน 400 คน จากผู้เรียนระดับมัธยมศึกษาปีที่ 1 – 6 ที่เคยเรียนพิเศษออนไลน์ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ การแจกแจงความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และสมการถดถอยเชิงพหุคูณ ซึ่งผลการวิจัยพบว่าส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง อายุมากกว่า 15 ปี ศึกษาในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 แผนการเรียนวิทยาศาสตร์-คณิตศาสตร์ และศึกษาในโรงเรียนรัฐบาล ส่วนใหญ่ตัดสินใจใช้บริการเพื่อเตรียมตัวสอบเข้ามหาวิทยาลัย เรียนวิชาคณิตศาสตร์ 3-4 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ช่วงเวลา 11.00 - 15.59 น. ในวันเสาร์-อาทิตย์ ค่าใช้จ่ายโดยเฉลี่ย 201-300 บาทต่อชั่วโมง เรียนแบบตัวต่อตัว โดยนิยมเรียนผ่านแอปพลิเคชัน Zoom ผ่านอุปกรณ์ประเภทแท็บเล็ต และชำระค่าใช้บริการผ่านทางแอปพลิเคชันของธนาคาร ตนเองมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจใช้บริการมากที่สุด ผลการทดสอบสมมติฐาน พบว่า ปัจจัยการรับรู้ถึงความง่ายในการใช้งาน ปัจจัยการรับรู้ถึงประโยชน์ และปัจจัยการยืนยัน สามารถทำนายอิทธิพลต่อความพึงพอใจในการใช้บริการธุรกิจเรียนพิเศษออนไลน์ของผู้เรียนระดับมัธยมศึกษาในภาคกลาง ได้ร้อยละ 67.3 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 และ 0.01
Article Details
วารสารบริหารธุรกิจมีทั้งเเบบวารสารออนไลน์เเละวารสารเล่มฉบับ
** บทความหรือข้อคิดเห็นใดๆ ที่ปรากฏในวารสารบริหารธุรกิจ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้า
เจ้าคุณทหารลาดกระบัง ฉบับนี้ เป็นความคิดเห็นเฉพาะผู้เขียนบทความแต่ละท่าน กองบรรณาธิการวารสารบริหารธุรกิจ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง เปิดเสรีด้านความคิดและไม่ถือเป็นความรับผิดชอบของ
กองบรรณาธิการ **
** บทความที่ได้ลงตีพิมพ์ในวารสารฉบับนี้ เป็นลิขสิทธิ์ของคณะบริหารธุรกิจ สถาบันเทคโนโลยี พระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง กองบรรณาธิการไม่สงวนสิทธิ์ในการคัดลอกบทความแต่ต้องอ้างอิงแสดงที่มาของวารสารที่นำไปคัดลอกให้ชัดเจน**
เอกสารอ้างอิง
[2] โพสต์ทูเดย์. (2556, สิงหาคม). ธุรกิจกวดวิชามูลค่ารวมเกือบ8พันล้าน. สืบค้นเมื่อ 8 มิถุนายน 2563, จาก https://www.bangkokbiznews.com/blog/detail/648668
[3] ศูนย์วิจัยกสิกรไทย. (2556, ธันวาคม). บทวิเคราะห์แนวโน้มธุรกิจ. สืบค้นเมื่อ 8 มิถุนายน 2563, จาก https://kasikornresearch.com/th/analysis/k-econ/business/Pages/32118.aspx
[4] นิตยสารโพซิชั่นนิ่ง. (2556, สิงหาคม). ตลาดกวดวิชายังคงเติบโต : จับตา ทางเลือกกว้างขึ้นของนักเรียน และสินค้าติวเข้ามหาวิทยาลัย เป็นปัจจัยท้าทาย. สืบค้นเมื่อ 9 มิถุนายน 2563, จาก https://positioningmag.com/57097
[5] ไทยพับลิก้า. (2558, กุมภาพันธ์). จำนวนโรงเรียนกวดวิชา จำนวนนักเรียนที่เรียนกวดวิชา และจำนวนครูของโรงเรียนกวดวิชา. สืบค้นเมื่อ 9 มิถุนายน 2563, จาก https://thaipublica.org/2015/02/tutor-1/print-22/
[6] ฐานเศรษฐกิจ. (2562, พฤษภาคม). ร.ร.กวดวิชาดิ้นสู้ พลิกหลักสูตรรับภาคอินเตอร์-ออนไลน์. สืบค้นเมื่อ 9 มิถุนายน 2563, จาก https://www.thansettakij.com/content/business/400912
[7] สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ. (2560, กุมภาพันธ์). แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12. สืบค้นเมื่อ 9 มิถุนายน 2563, จาก https://www.nesdc.go.th/ewt_w3 c/ewtdl_link.php?nid=6422
[8] คมชัดลึก. (2561, มีนาคม). กวดวิชาขาลง. สืบค้นเมื่อ 9 มิถุนายน 2563, จาก https://www.komchadlu
ek.net/news/edu-health/315208
[9] สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน. (2558 - 2562). สถิติโรงเรียนเอกชน. สืบค้นเมื่อ 10 มิถุนายน 2563, จาก https://opec.go.th/ข้อมูลสารสนเทศ/
[10] ผู้จัดการออนไลน์. (2563, มกราคม). AT HOME กวดวิชาออนไลน์ สตาร์ทอัปพลิกโฉมการศึกษาไทย. สืบค้นเมื่อ 10 มิถุนายน 2563, จาก https://mgronline.com/smes/detail/9630000006960
[11] ไลน์ทูเดย์. (2561, กันยายน). ติวเตอร์ออนไลน์ เขย่าธุรกิจโรงเรียนกวดวิชา. สืบค้นเมื่อ 10 มิถุนายน 2563, จาก https://today.line.me/th/v2/article/ติวเตอร์ออนไลน์+เขย่าธุรกิจโรงเรียนกวดวิชา-JQ8alK
[12] วงกต วิจักขณ์สังสิทธิ์. (2563, พฤษภาคม). กสทฯ ส่งแพลตฟอร์มชิงตลาดการศึกษาออนไลน์. สืบค้นเมื่อ 10 มิถุนายน 2563, จาก https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/882782
[13] จักรกฤษณ์ โพดาพล. (2563, มิถุนายน). การจัดการเรียนรู้ออนไลน์: วิถีที่เป็นไปทางการศึกษา. สืบค้นเมื่อ 10 มิถุนายน 2563, จาก http://slc.mbu.ac.th/article/28181
[14] ศูนย์วิจัยกสิกรไทย. (2558 - 2563). บทวิเคราะห์แนวโน้มธุรกิจ. สืบค้นเมื่อ 11 มิถุนายน 2563, จาก https://kasikornresearch.com/th/analysis/k-econ/business
[15] นวรัตน์ ป้องจิตใส และวศิณ ชูประยูร. (2562). การยอมรับและนำคลาวด์คอมพิวติงไปใช้ในกระบวนการทางธุรกิจของSMEs. วิทยานิพนธ์วิทยาศาสตร์มหาบัณฑิต. ปทุมธานี: มหาวิทยาลัยรังสิต.
[16] Adams, D. A., Nelson, R. R., & Todd, P. A. (1992). Perceived usefulness, ease of use, and usage of information technology: A replication. MIS Quarterly, 16(2), 227-247.
[17] Parasuraman and Grewal. (2000). The Impact of Technology on the Quality-Value-Loyalty Chain: A Research Agenda. Journal of the Academy of Marketing Science 28(1): 168-174
[18] Fred Davis. (1989). Perceived Usefulness, Perceived Ease of Use, and User Acceptance of Information Technology. MIS Quarterly, September.
[19] Oliver, R. L., (1980). A Cognitive Model for the Antecedents and Consequences of Satisfaction, Journal of Marketing Research (17): 460-469.
[20] Anol Bhattacherjee. (2001). Understanding Information Systems Continuance: An Expectation-Confirmation Model. MIS Quarterly 25(3): 351-370
[21] Kolter, Phillip. (2000). Marketing Management. The Millennium Edition. New Jersey: Prentice Hall, Inc.
[22] Cochran, William G. (1977). Sampling Techniques. 3d ed. New York: John Wiley and Sons Inc.
[23] Cronbach, L. J. (1990). Essentials of psychological testing (5th ed.). New York: Harper Collins
Publishers. ( pp.202-204)
[24] Ming-Chi Lee. (2009). Explaining and predicting users’ continuance intention toward e-learning: An extension of the expectation–confirmation model. Computers & Education 54(2): 506-516
[25] Venkatesh, V, and Davis, F. D. (1996). A Model of The Antecedents of Perceived Ease of Use:
Development dan Test. Decision Science. 27 (3): 451-481.
[26] Venkatesh, V., & Davis, F. D. (2000). A theoretical extension of the technology acceptance model: Four longitudinal field studies. Management Science, 46(2), 186-204.
[27] Venkatesh, V., Morris, M. G., et al. (2003). User acceptance of information technology: Toward a unified view. MIS Quarterly, 27(3), 425–478.
