รูปแบบการบริหารศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้อำเภอแม่ฟ้าหลวงจังหวัดเชียงราย
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนารูปแบบการบริหารศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้อำเภอแม่ฟ้าหลวงจังหวัดเชียงราย ดำเนินการ 3 ขั้นตอน ดังนี้ 1) ศึกษาสภาพปัจจุบัน สภาพที่พึงประสงค์ และความต้องการจำเป็นของการบริหารศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้อำเภอแม่ฟ้าหลวงจังหวัดเชียงราย โดยใช้แบบสอบถามกับครูของศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้อำเภอแม่ฟ้าหลวงจังหวัดเชียงราย จำนวน 60 คน วิเคราะห์ข้อมูลด้วยค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และดัชนีลำดับความสำคัญของความต้องการจำเป็น 2) สร้างรูปแบบการบริหารศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้ โดยใช้แบบสัมภาษณ์ชนิดมีโครงสร้าง ในการสัมมนาผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวน 7 คน และวิเคราะห์ข้อมูลเชิงเนื้อหา และ 3) ประเมินรูปแบบการบริหารศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้ โดยใช้แบบประเมินความถูกต้องและความเป็นไปได้โดยผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย จำนวน 15 คน วิเคราะห์ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการวิจัยพบว่า
รูปแบบการบริหารศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้อำเภอแม่ฟ้าหลวงจังหวัดเชียงราย มีชื่อรูปแบบคือ “รูปแบบการบริหารบูรณาการระหว่าง รูปแบบการบริหารแบบทางการ (Formal Models) และรูปแบบการบริหารแบบอัตวิสัย (Subjective Models) สำหรับการบริหารศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้อำเภอแม่ฟ้าหลวงจังหวัดเชียงราย โดยยึดศาสตร์พระราชาเป็นฐาน” ประกอบด้วย หลักการ 4 หลักการ วัตถุประสงค์ 3 ข้อ และองค์ประกอบของการบริหาร 8 องค์ประกอบ ประเมินรูปแบบมีความถูกต้องและความเป็นไปได้ อยู่ในระดับมาก
Article Details

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
References
กระทรวงศึกษาธิการ. (2545). พระราชบัญญัติการศึกษาแหงชาติ พุทธศักราช 2542 และแกไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2)พุทธศักราช 2545. กรุงเทพฯ: สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ.
_______. (2560). แนวทางการดำเนินงาน โครงการสถานศึกษาน้อมนำศาสตร์พระราชา สู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน กระทรวงศึกษาธิการ. กรุงเทพฯ: สำนักส่งเสริมกิจการการศึกษา สำนักงานปลัดกระทรวงกระทรวงศึกษาธิการ.
พระมหาธีรเพชร มาตพงษ์. (2561). การสังเคราะห์รูปแบบการบริหารงานวิชาการโรงเรียน พระปริยัติธรรมแผนกสามัญศึกษา. ดุษฎีนิพนธ์ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต (การบริหารการศึกษา). มหาวิทยาลัยสยาม.
วันฤดี ปุยะติ. (2564). การพัฒนารูปแบบการบริหารจัดการด้านการงานอาชีพสู่ความเป็นเลิศของโรงเรียนในโครงการพัฒนาเด็กและเยาวชนในถิ่นทุรกันดาร ตามพระราชดำริสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้ากรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี. วารสารวิชาการ สถาบันเทคโนโลยีแห่งสุวรรณภูมิ. 7(2): 86-98.
สอาดลักษณ์ จงคล้ายกลาง. (2556). การพัฒนารูปแบบการบริหารเพื่อเสริมสร้างพลังอานาจของครูในสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน. วิทยานิพนธ์ครุศาสตรดุษฎีบัณฑิต. จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
สุวิมล ว่องวาณิช. (2550). การวิจัยประเมินความต้องการจำเป็น. (พิมพ์ครั้งที่ 2). กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
อุดมพร อมรธรรม. (2549). ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงพระเจ้าอยู่หัว. กรุงเทพฯ: แสงดาว.
Bush, T. (2003). Theories of Educational Leadership and Management. (3rd ed.). London: SAGE Publications Ltd.
Joyce, B., & Weil, M. (1996). Model of Teaching. (5th ed.). Boston: Allyn and Bacon.
Phengsawat, W. (2010). Research on developing models. Rajabhat Sakon Nakhon University Journal. 2(4): 2-14. [In Thai]
Udomsree, T. (2015). The School Management Model to Enhance the Professional Learning Community in Classroom Action Research. (Ph.D. Independent study in Educational Administration Division. Faculty of Education, Chulalongkorn University). [In Thai]