คุณค่าของประเพณีบุญข้าวจี่ บ้านโพนต้องสะหวาด เมืองจันทะบูลี นครหลวงเวียงจันทน์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว

Main Article Content

Boun Ouane Vongmaly
Sawangjit Khantee

บทคัดย่อ

บทความนี้เป็นส่วนหนึ่งของงานวิจัย “คุณค่าของประเพณีบุญข้าวจี่บ้านโพนต้องสะหวาด เมืองจันทะบูลี นครหลวงเวียงจันทน์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว” เพื่อศึกษาประวัติ อัตลักษณ์ และวิเคราะห์คุณค่าของประเพณีบุญข้าวจี่ บ้านโพนต้องสะหวาด เมืองจันทะบูลี นครหลวงเวียงจันทน์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ระเบียบวิธีวิจัยได้แก่ การวิจัยเชิงคุณภาพ ผู้ให้ข้อมูลสำคัญจำนวน ๒๐ รูป/คน ประกอบด้วยพระสังฆาธิการ ผู้นำชุมชนและปราชญ์ชาวบ้าน ผลการวิจัยพบว่า ประเพณีบุญข้าวจี่ เป็นงานบุญประเพณีของสปป.ลาว ที่กระทำกันในเดือนสามจนเรียกว่า บุญเดือนสาม มีการปฏิบัติกันมาตั้งแต่สมัยโบราณ  ด้านอัตลักษณ์ประกอบด้วย ๓ ช่วงเวลาที่สำคัญคือ ๑) ก่อนถึงวันงานเป็นวันเพ็ญ ๑๔ ค่ำเดือน ๓ เป็นวันเตรียมการสิ่งที่จะนำมาทำข้าวจี่ได้แก่ ข้าวสารเหนียว น้ำตาล เกลือ ไม้เสียบข้าวจี่และเตา มารวมตัวกันที่วัดโพนต้องสะหวาด ๒) วันงานพิธีได้แก่วันเพ็ญ ๑๕ ค่ำเดือน ๓ ชาวบ้านโพนต้องสะหวาดก่อจะจี่ข้าวจี่ในช่วง ๓-๕ โมงเช้าแล้วนำมาถวายแก่พระสงฆ์ภายในวัดบ้านโพนต้องสะหวาด และ๓) ตอนเย็นของวันงานชาวบ้านก็มารวมกัน เพื่อไหว้พระตอนเย็นร่วมกับพระสงฆ์ หลังจากเสร็จพิธีดังกล่าวจะทำการเวียนเทียนรอบพระอุโบสถ ๓ รอบ จะถือว่าเสร็จพิธีอย่างสมบูรณ์ คุณค่าของประเพณีบุญข้าวจี่ ประกอบด้วย คุณค่าด้านหลักธรรมทางพระพุทธศาสนา  ประเพณีบุญข้าวจี่เป็นรากฐานแห่งอุปนิสัยใจคอของคนลาว บ่อเกิดของวัฒนธรรม ขนบธรรมเนียม ประเพณีอันดีงามของชาวบ้านโพนต้องสะหวาด, คุณค่าทางด้านสังคมงานประเพณีบุญข้าวจี่ได้สร้างความสามัคคีภายในชุมชน เป็นโอกาสในการสร้างความดี และ ถวายทานไปยังผู้ที่เสียชีวิต, คุณค่าทางด้านศิลปวัฒนธรรมประเพณีบุญข้าวจี่ เป็นการบ่งบอกถึงความเป็นลาว ดั่งคำกล่าวที่ว่า “ฮีดครองลาว เก้าผม เบี่ยงแพ”, คุณค่าทางด้านการศึกษาของงานประเพณีบุญข้าวจี่ ก่อให้เกิดการเรียนรู้ ที่มาของประเพณี และความเป็นลาว แล้วนำหลักคำสอนดังกล่าวไปปฏิบัติให้ครอบครัวมีความสุข และ คุณค่าด้านโภชนาการได้แก่ การแปรูปอาหารได้แก่จากข้าวจี่ที่ทาเกลืออย่างเดียวก็แปรรูปเป็นทาด้วยไข่ ทาด้วยของหวาน ซึ่งทำให้ข้าวจี่มีคุณค่าทางโภชนาการ มีสารอาหาร สวยงาม และน่ารับประทานมากขึ้น.

Article Details

บท
บทความวิจัย

References

กาญจนา จันทร์สิงห์. ประเพณีท้องถิ่นบุญข้าวจี่. [ออนไลน์]. แหล่งที่มา: http://www.9bkk.com/article/custom/custom15.html [๒๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๖].

กระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคม. รายงานการพยากรณ์ตลาดแรงงาน ปี ๒๐๑๙-๒๐๒๒. กรุงเทพมหานคร: กรมพัฒนาฝีมือแรงงานและจัดหางาน, ๒๕๕๑.

กรมประชาสัมพันธ์. เรื่องราวความเป็นมาของวันมาฆบูชาวันเพ็ญเดือนสาม. [ออนไลน์]. แหล่งที่มา: https://www.prd.go.th/th/content/category/detail/id/ 31/iid/163437 [๒๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๖].

ดำรง ธัมมิกมุนี. “พระพุทธศาสนาลาวตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน”. ศิลปนิพนธ์ปริญญา สาขาวิชาวิจัยศิลปะและวัฒนธรรม. คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์: มหาวิทยาลัยขอนแก่น, ๒๕๖๒.

มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. พระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย, ๒๕๓๙.

________. อรรถกถาภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย, ๒๕๕๖.

ฐิติพร สะสม. “ศึกษาวิเคราะห์เครื่องสักการะเพื่อเป็นพุทธบูชาของล้านนา”. วารสารบัณฑิตศึกษาปริทรรศน์มจร วิทยาเขตแพร่. ปีที่ ๕ ฉบับที่ ๑ (มกราคม–มิถุนายน ๒๕๖๒): ๑.

สัมภาษณ์ พระอาจารย์สิงคำ สุวันนะสาน. เจ้าอาวาสวัดป่องแก้ว คะณะ ประจำ อ.พ.ส เมืองจันทะบูลี นครหลวงเวียงจันทน์, ๒๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๖.

สีนุก สิงลิด. ลาวสึกสา. นครหลวงเวียงจัน: สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยแห่งชาติลาว, ๒๕๖๔. หน้า ๓-๔.

บัววอน พรมบุตร. “พิธีกรรมของบุญห่อข้าวประดับดิน ในนครหลวงเวียงจันทน์ สปป ลาว”. วารสารศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น.ปีที่ ๑๐ ฉบับที่ ๑ (มกราคม-มิถุนายน ๒๕๖๑): ๒๕-๔๓.

________. “ธาตุพื้นบ้าน พัฒนาการทางรูปแบบ และ พิธีกรรม ในนครหลวงเวียงจันทน์ สปป ลาว”, ดุษฎีนิพนธ์ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาวิจัยศิลปะและวัฒนธรรม. บัณฑิตวิทยาลัย: มหาวิทยาลัยมหาวิทยาลัยขอนแก่น, ๒๕๕๙.

พระครูอาทรวชิรกิจ. “มองประเพณีของลาวแล้วมองเข้ามาที่ประเพณีของไทย”. วารสารวิจัยพุทธศาสตร์. ปีที่ ๓ ฉบับที่ ๑ (มกราคม-มิถุนายน ๒๕๖๐): ๙๔.

อิศราภรณ์ ประเสริฐศรี. “การศึกษาประเพณีฮีตสิบสอง เพื่อออกแบบภาพประกอบกรณีศึกษาบุญเดือนห้า (ประเพณีสงกรานต์)”. ศิลปนิพนธ์ปริญญาศิลปะประยุกต์บัณฑิต สาขาวิชาออกแบบนิเทศศิลป์. คณะศิลปประยุกต์และสถาปัตยกรรมศาสตร์: มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี, ๒๕๖๐.