จริยธรรมและจรรยาบรรณที่ควรคำนึงสำหรับผู้แต่ง ผู้ประเมิน และบรรณาธิการ

วารสารบัณฑิตศึกษาปริทรรศน์

บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย

ข้อควรคำนึงของผู้แต่งบทความ (Authors)

  • 1. ผู้แต่งควรคำนึงว่าบทความของตนที่เขียนส่งมาระหว่างการพิจารณาตีพิมพ์นั้นจะต้องไม่เคยตีพิมพ์ซ้ำซ้อนในวารสารอื่น
  • 2. ผู้แต่งควรคำนึงถึงจริยธรรมการวิจัย ไม่คัดลอกผลงานของผู้อื่น หรือแต่งบทความที่มีค่าระดับความซ้ำซ้อนของเนื้อหาที่ตรวจพบด้วยโปรแกรม CopyCat เว็บ Thaijo ไม่เกิน 25% วารสารบัณฑิตศึกษาปริทรรศน์กำหนดให้มีผลตั้งแต่เดือนกันยายน ๒๕๖๒ เป็นต้นไป
  • 3. ผู้แต่งควรคำนึงและมีความรับผิดชอบในการอ้างอิงผลงานอันเป็นส่วนหนึ่งของเนื้อหาบทความ เช่นรูปภาพ หรือตาราง หากมีการนำมาใช้ในบทความของตนเอง ควรระบุ “แหล่งที่มา” เพื่อป้องกันการละเมิดลิขสิทธิ์ (หากมีกรณีการฟ้องร้องจะต้องเป็นความรับผิดชอบของผู้แต่งแต่เพียงผู้เดียว วารสารไม่มีส่วนเกี่ยวข้องแต่อย่างใด)
  • 4. ผู้แต่งควรคำนึงถึงการอ้างอิงเนื้อหาที่ปรากฏในบทความวารสารต่างๆ ให้มีความถูกต้องสมเหตุสมผล โดยไม่ควรอ้างอิงเพื่อให้เกิดค่า IF โดยไม่มีเหตุอันสมควร
  • 5. ผู้แต่งควรคำนึงและปฏิบัติตามเงื่อนไขและยอมรับเงื่อนไขที่วารสารกำหนด เช่นการขอให้ปรับแก้ไขบทความตามที่ผู้ประเมินบทความหรือกองบรรณาธิการแจ้งให้ทราบ และดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในเวลาที่กำหนด การยอมรับการเลื่อนการตีพิมพ์เผยแพร่ออกไปหรือการที่บทความถูกถอดถอนออกจากการตีพิมพ์ในวารสารเพราะเหตุแห่งการไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขของวารสาร เป็นต้น
  • 6. ผู้แต่งต้องคำนึงถึงข้อเขียนที่ต้องอ้างอิงแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้ ข้อเขียนควรเป็นไปเพื่อให้ความจริง การส่งเสริมและพัฒนาองค์ความรู้ให้แก่บุคคลและสังคม และข้อเขียนจะต้องไม่ตกอยู่ภายใต้วจีทุจริตร ๔ คือ คำหยาบ ส่อเสียด เพ้อเจ้อและเท็จ

 

ข้อควรคำนึงของผู้ประเมินบทความ (Reviewers)

  • 1. ผู้ประเมินบทความควรคำนึงถึงจรรยาบรรณของผู้ประเมิน โดยรักษาความลับและไม่เปิดเผยข้อมูลของบทความที่ผู้แต่งส่งมาพิจารณาให้แก่บุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องในช่วงระยะเวลาของการประเมินบทความ รวมถึงหลังจากที่พิจารณาประเมินบทความเสร็จแล้ว
  • 2. ผู้ประเมินบทความควรคำนึงถึงบทความที่ตนเองอาจมีผลประโยชน์ทับซ้อนกับผู้แต่งที่อาจทำให้ไม่สามารถแสดงความคิดเห็นหรือให้ข้อเสนอแนะอย่างเป็นอิสระได้ ควรแจ้งให้บรรณาธิการวารสารทราบและปฏิเสธการประเมินบทความนั้นๆ
  • 3. ผู้ประเมินบทความควรคำนึงถึงความรู้ความสามารถที่ตอนเองมีอยู่ โดยประเมินบทความในสาขาวิชาที่ตนมีความเชี่ยวชาญ และรับพิจารณาประเมินบทความนั้นๆให้มีคุณภาพและมีความเข้มข้นตามหลักวิชาการ
  • 4. ผู้ประเมินบทความควรคำนึงถึงการพิจารณาบทความทั้งในส่วนที่เป็นหัวข้อ เนื้อหา และรูปแบบที่เกี่ยวข้อง โดยให้ความเห็นที่เป็นหลักการและอยู่ภายใต้พรหมวิหารธรรมต่อเจ้าของผู้แต่งบทความนั้นๆ
  • 5. ผู้ประเมินบทความควรคำนึงถึงการไม่ทำงานภายใต้อคติ ๔ อันจะทำให้การพัฒนาองค์ความรู้ขาดการสร้างสรรค์ที่ดีงาม
              

ข้อควรคำนึงของบรรณาธิการ (Journal Editors)

  • 1. บรรณาธิการมีหน้าที่พิจารณา กำกับ และควบคุมการตีพิมพ์บทความวิชาการ บทความวิจัย และบทวิจารณ์หนังสือเพื่อเผยแพร่ผลงานที่ถูกต้องตามหลักวิชาการ โดยคัดเลือกบทความที่ผ่านกระบวนการจากผู้ประเมินบทความแล้ว และบทความนั้นๆ มีเนื้อหาความสอดคล้องกับนโยบายหรือวัตถุประสงค์ของวารสาร และใช้ความรู้ความสามารถวิเคราะห์ และสังเคราะห์ผลงานวิชาการที่ผ่านการเขียนของผู้แต่งมาตีพิมพ์เพื่อเผยแพร่องค์ความรู้ในวารสารผ่านระบบออนไลน์
  • 2. บรรณาธิการควรคำนึงถึงความยุติธรรมแก่ผู้แต่งโดยไม่เปิดเผยผลการประเมินบทความของผู้แต่งต่อสาธารณะ และควรคำนึงถึงข้อปฏิบัติการประเมินบทความแบบปกปิดรายชื่อ (Double-bline)
  • 3. บรรณาธิการควรคำนึงถึงผลกระทบต่อวารสารในทางเสื่อมเสียและไร้คุณภาพ โดยจะต้องไม่ตีพิมพ์เผยแพร่บทความที่มีเนื้อหาซ้ำซ้อนกับบทความที่เคยตีพิมพ์ที่อื่นมาแล้ว หรือบทความที่มีการคัดลอกผลงานของผู้อื่นเกินค่า CopyCat ตามที่ปรากฎในเว็บ Thaijo ไม่เกิน 25%
  • 4. บรรณาธิการควรคำนึงถึงผลกระทบในทางเสื่อมเสียในแง่ของผลประโยชน์ทับซ้อนระหว่างผู้แต่ง และหรือผู้ประเมิน โดยการหลีกเลี่ยงการตีพิมพ์บทความที่อาจจะเข้าข่ายดังกล่าวข้างต้น ด้วยการตอบรับหรือปฏิเสธการตีพิมพ์บทความอย่างมีเหตุมีผล
  • 5. บรรณาธิการควรคำนึงและปฏิบัติตามประกาศศูนย์ดัชนีการอ้างอิงวารสารไทย (TCI) ว่าด้วยเรื่องการประเมินด้านจริยธรรม/จรรยาบรรณวารสารวิชาการไทยในฐานข้อมูล TCI อย่างเคร่งครัด