แนวทางการพัฒนาคุณลักษณะการเป็นกัลยาณมิตรสำหรับเยาวชน ตามหลักพุทธธรรม

Main Article Content

Suchada Wongsuebchati
Wutthinant Kantatian

บทคัดย่อ

การวิจัยเรื่อง  “แนวทางการพัฒนาคุณลักษณะการเป็นกัลยาณมิตรสำหรับเยาวชนตามหลักพุทธธรรม” มีวัตถุประสงค์เพื่อเสนอเสนอองค์ความรู้คุณลักษณะการเป็นกัลยาณมิตรสำหรับเยาวชนตามหลักพุทธธรรม  ได้ผลการวิจัย ดังนี้  ด้านสภาพคุณลักษณะความเป็นกัลยาณมิตรในพระพุทธศาสนา  พบว่า การปฏิบัติตามหลักกัลยาณมิตรของเยาวชนโดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก (=๓.๘)   เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ด้านการเป็นคนรู้จักพูด หรือพูดจาดี   (วัตตา)  (=๓.๙ )  และมีความคิดเห็นอันดับต่ำที่สุดคือ ด้านการเป็นคนกล่าวเรื่องที่ลึกซึ้งได้  (คัมภีรัญจะ กะถัง กัตตา) (= ๓.๗)  ผลการสัมภาษณ์เชิงลึกพบว่า ในปัจจุบันนี้เยาวชนไทย มีความอ่อนน้อมถ่อมตนน้อยลงไปมาก  มีความกระด้าง มีความเป็นกัลยาณมิตรที่น้อยลง  สนใจแต่เรื่องของตนเอง  และอยู่กับเพื่อนเป็นส่วนใหญ่ ไม่มีความอดทน เบื่อง่าย ไม่ชอบฟังการอบรมสั่งสอนจากบุคคล เวลาส่วนใหญ่จะอยู่กับสมาร์ทโฟน ความน่ารักระหว่างเด็กและผู้ใหญ่ลดลง ไม่มีสัมมาคารวะ  ใช้อารมณ์มากกว่าเหตุผล อารมณ์รุนแรง เชื่อเพื่อน ไม่เชื่อผู้ปกครอง ไม่คิดถึงอนาคต  ไม่เรียนหนังสือ ติดเกมส์ ติดพนัน  ปัญหาเรื่องการปรับตัว ปัญหาทางเพศ การใช้ยาเสพติด มีโรคซึมเศร้า เป็นต้น ด้านองค์ความรู้คุณลักษณะการเป็นกัลยาณมิตรสำหรับเยาวชนตามหลักพุทธธรรม  สรุปได้เป็นผลการวิจัยที่เรียกว่า  SBMW MODEL FOR GOOD FRIEND QUALITY อันเป็นแนวคิดในการบูรณาการคุณลักษณะของความเป็นกัลยาณมิตร ๗ ประการ คือ ด้านปิโย  (น่ารัก หรือเป็นที่รัก) ด้านครุ  (น่าเคารพ) ด้านภาวนีโย  (น่าเจริญใจ หรือน่ายกย่องในฐานทรงคุณ) ด้านวัตตา  (รู้จักพูดให้ได้ผล รู้จักชี้แจงให้เข้าใจ) ด้านวจนักขโม (อดทนต่อถ้อยคำ) ด้านคัมภีรัญจะ กะถัง กัตตา  (กล่าวเรื่องล้ำลึกได้) ด้านโน จัฎฐาเน นิโยชเย (ไม่ชักนำในสิ่งที่ไม่ดี)อันประกอบ มาบูรณาการกับหลักพุทธธรรม โดยสรุปเป็น ๔ มิติ  คือ  S = Social  ปรับตัวเข้ากับสังคมB = Behavior  พฤติกรรมดี เด่น M = Mentalจิตใจสงบเย็น  W = Wisdom มีปัญญาพิจารณาความเป็นเหตุเป็นผลอยู่เสมอ

Article Details

บท
บทความวิจัย