การสื่อสารอัตลักษณ์สินค้าเกษตรและชุมชนผ่านเวทีประกวด : กรณีศึกษานางสาวน้ำหนึ่ง แวน เดอ เวน ในการประกวดนางสาวสารภี 2566 นางสาวไทยอุตรดิตถ์ 2567 และนางสาวไทย 2567
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยนี้เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาการสื่อสารอัตลักษณ์สินค้าเกษตรและชุมชนผ่านกรณีศึกษานางสาวน้ำหนึ่ง แวนเดอ เวน ในฐานะตัวบทนางงามของการประกวดนางสาวสารภี 2566 นางสาวไทยอุตรดิตถ์ 2567 และนางสาวไทย 2567 ใช้ระเบียบวิธีวิจัยเแบบการวิเคราะห์เนื้อหา โดยทำการวิเคราะห์นางสาวน้ำหนึ่ง แวน เดอ เวน ในฐานะตัวบท ผ่านการสร้างเกณฑ์ในการวิเคราะห์ข้อมูลและตารางบันทึกข้อมูล นำเสนอผ่านการพรรณนาและค่าร้อยละของประเภทเนื้อหาที่พบในงานวิจัย
ผลการวิจัยพบว่าการสื่อสารอัตลักษณ์สินค้าเกษตรและชุมชน ในแต่ละระดับนั้นใช้การสื่อสารอัตลักษณ์สินค้าเกษตรและชุมชนผ่านสื่อหลัก ได้แก่ ร่างกายของสื่อบุคคลผู้เป็นนางงามด้วยการให้สถานภาพคนดัง พื้นที่เวที การใช้อำนาจผ่านภาษา สื่อโทรทัศน์ และขยายผลไปยังสื่อออนไลน์ทั้งเว็บไซต์และแฟนเพจเฟซบุ๊ก
ส่วนเนื้อหาการสื่อสารอัตลักษณ์สินค้าเกษตรและชุมชน ทั้งในฐานะนางงามตัวแทนระดับอำเภอ ระดับจังหวัด และระดับชาติ มีการสื่อสารอัตลักษณ์สินค้าเกษตรและชุมชนด้วยการผสมผสานทางวัฒนธรรมที่เป็นทุนเดิมของท้องถิ่น ทั้งวัฒนธรรมทางการเกษตร สินค้าเกษตร สินค้าชุมชน และอัตลักษณ์ชุมชน โดยใช้วัฒนธรรมราษฎร์และวัฒนธรรมหลวงมาประยุกต์เพื่อนำเสนอใหม่ สะท้อนให้เห็นว่าพื้นที่กิจกรรมการประกวดนางงามทั้งในระดับอำเภอ ระดับจังหวัด และระดับชาติเป็นพื้นที่ผสมผสานทางวัฒนธรรมที่มีอำนาจการต่อรองของรัฐชาติสมัยใหม่ นายทุน และตัวนางงามเข้าไปกำกับ ก่อให้เกิดอัตลักษณ์สินค้าเกษตรและชุมชนที่สนับสนุนซึ่งกันและกันกับอัตลักษณ์ของเขตการปกครอง และเป็นวัฒนธรรมแบบผสมผสานที่แยกไม่ขาดระหว่างวัฒนธรรมชั้นสูง วัฒนธรรมมวลชน และวัฒนธรรมพื้นบ้าน
Article Details

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เอกสารอ้างอิง
กาญจนา แก้วเทพ และ สมสุข หินวิมาน. (2551). สายธารแห่งนักคิดทฤษฎีเศรษฐศาสตร์การเมือง กับสื่อสารศึกษา. กรุงเทพฯ: ภาพพิมพ์.
กาญจนา แก้วเทพ. (2557). ศาสตร์แห่งสื่อและวัฒนธรรมศึกษา (พิมพ์ครั้งที่ 3). กรุงเทพฯ: ภาพพิมพ์
ทวินันท์ คงคราญ. (2534). บทบาทของสื่อมวลชนในการสร้างภาพนางสาวไทย พ.ศ. 2507-2531. (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต). กรุงเทพฯ: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
ชลธิชา พันธ์ุพานิช. (2537). สิทธิคุณค่าของความเป็นมนุษย์กับการประกวดนางงาม : ทัศนะของ ผู้บริหารมหาวิทยาลัยในกรุงเทพมหานคร. (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต). กรุงเทพฯ : มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.
สุจิรา อรุณพิพัฒน์. (2550). เศรษฐศาสตร์การเมืองว่าด้วยการผลิตนางงาม : กรณีศึกษาการ
ประกวดนางสาวไทย. (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต). กรุงเทพฯ: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
อภิญญา เฟื่องฟูสกุล (2543). อัตลักษณ์ Identity การทบทวนทฤษฎีและกรอบแนวคิด. กรุงเทพ:คณะกรรมการสภาวิจัยแห่งชาติ สาขาสังคมวิทยา สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ.
เอกจิตรา คำมีศรีสุข. (2550). ความสัมพันธ์ของทุนวัฒนธรรมกับทุนนิยม: กรณีศึกษาการประกวดนางสาวไทย (พ.ศ. 2477-2549). (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต). กรุงเทพฯ:จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
Bloul, R. A. D. (2012). Ain't I a woman? Female landmine survivors' beauty pageants and the ethics of staring, Social Identities Journal for the Study of Race, Nation and Culture. 18(1), 3-18.
Crawford, M., et al. (2008). Globalizing beauty: Attitudes toward beauty pageants among Nepali women, Feminism & Psychology. 18(1), 61-86.
Kathryn Woodward (2000). Identity and difference. London: Sage in association with the Open University.
Ozdemir, B. P. (2016). Building a “Modern” and “Western” image: Miss Turkey beauty contests from 1929 to 1933, Public Relations Review. 42 (5), 759-765.
Stuart Hall (1993). Cultural identity and diaspora. London: Taylor & Francis.