กระบวนการพัฒนาคุณลักษณะครูปฐมวัยที่เกื้อหนุนต่อการเติบโตเต็มตามศักยภาพของเด็กโดยใช้แนวทางจิตตปัญญาศึกษา
Main Article Content
บทคัดย่อ
บทความวิจัยนี้เป็นการวิจัยเชิงปฏิบัติการมีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) พัฒนากระบวนการพัฒนาคุณลักษณะครูปฐมวัยที่เกื้อหนุนต่อการเติบโตเต็มตามศักยภาพของเด็กโดยใช้แนวทางจิตตปัญญาศึกษา และ 2) เพื่อศึกษาผลของการจัดกระบวนการดังกล่าวที่มีต่อการพัฒนาคุณลักษณะของครูปฐมวัย โดยใช้การเก็บข้อมูลเชิงคุณภาพผ่านเครื่องมือวิจัย ได้แก่ แบบสังเกตการณ์อย่างมีส่วนร่วมระหว่างกระบวนการ แบบบันทึกการสัมภาษณ์ก่อนและหลังกระบวนการ แบบบันทึกระหว่างการสนทนากลุ่ม และแนวทางการจดบันทึกสำหรับผู้เข้าร่วมกระบวนการ เพื่อวิเคราะห์การเปลี่ยนแปลงของครูในด้านความรู้ ทัศนคติ และมิติภายใน และนำข้อมูลมาวิเคราะห์ โดยใช้วิธีวิเคราะห์เชิงคุณภาพ การวิเคราะห์เน้นการสรุปอุปนัยเพื่อเชื่อมโยงข้อมูลจากหลากหลายแหล่งให้เกิดความเข้าใจในเชิงลึกเกี่ยวกับผลลัพธ์ของกระบวนการวิจัย โดยมีกลุ่มผู้ให้ข้อมูล ประกอบด้วยครูปฐมวัยของโรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานคร ซึ่งสมัครใจเข้าร่วมกิจกรรม โดยมีทั้งหมด 12 คน ประกอบไปด้วยครูประจำชั้นระดับอนุบาล 1-3 จำนวน 7 คน และครูผู้ช่วยจำนวน 5 คน โดยมีการรับสมัครผู้เข้าร่วมโดยสมัครใจ โดยพิจารณาครูที่มีความตั้งใจและความพร้อมในการเข้าร่วมกิจกรรมครบทุกครั้ง
ผลการวิจัยพบว่า 1) กระบวนการพัฒนาครูที่ออกแบบขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์ในการพัฒนาคุณลักษณะของครู 6 ประการได้แก่ (1) สร้างความผูกพันแบบปลอดภัยกับเด็กได้ (2) มีความเชื่อมั่นและศรัทธาในความเป็นมนุษย์ (3) มีความเชื่อในเอกลักษณ์และความเป็นปัจเจกของมนุษย์ (4) มีการตระหนักรู้ในตนเอง (5) เห็นความเชื่อมโยงระหว่างตนเองกับสรรพสิ่ง (6) มีเมตตา เป็นกัลยาณมิตรต่อเด็ก มีการจัดกิจกรรม 4 ครั้ง รวม 9 วัน ประกอบด้วยวัตถุประสงค์ของกระบวนการ หลักการของกระบวนการ การเตรียมการก่อนการจัดกระบวนการ รูปแบบกระบวนการ และการประเมินผลของการจัดกระบวนการ โดยกระบวนการให้ความสำคัญกับการสร้างความตระหนักรู้ในมิติด้านในและสร้างความเข้าใจในองค์ความรู้ เช่น ทักษะสมอง EF ทฤษฎีพหุปัญญา และการศึกษาที่แท้ และ 2) ครูผู้เข้าร่วมกระบวนการได้ เกิดการเรียนรู้ตามวัตถุประสงค์ของกระบวนการโดยเฉพาะคุณลักษณะด้านการตระหนักรู้ในตนเองและการสร้างความผูกพันแบบปลอดภัยซึ่งมีการพัฒนาชัดเจนที่สุด ข้อเสนอแนะในการนำกระบวนการไปใช้ควรมุ่งเน้นการรักษาแกนหลัก ได้แก่ การตระหนักรู้ในตนเอง โดยปรับให้เหมาะสมกับบริบทของโรงเรียนแต่ละแห่ง โดยต้องสร้างพื้นที่เรียนรู้ที่ปลอดภัย สนับสนุนการพัฒนามิติด้านในของครูอย่างต่อเนื่อง และมีระบบติดตามผลที่ครอบคลุมพฤติกรรมและความเปลี่ยนแปลงจริงเพื่อให้เกิดการพัฒนาอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน
Article Details

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
ทัศนะและความคิดเห็นที่ปรากฏในบทความในวารสารฉบับนี้ถือเป็นความรับผิดชอบของผู้เขียนบทความนั้นเพียงผู้เดียว และไม่ถือเป็นทัศนะและความรับผิดชอบของกองบรรณาธิการ
กองบรรณาธิการขอสงวนสิทธิ์ในการคัดเลือกบทความลงตีพิมพ์และจะแจ้งให้เจ้าของบทความทราบหลังจากผู้ประเมินบทความตรวจอ่านบทความแล้ว
ต้นฉบับที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารครุศาสตร์ปริทรรศน์ คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ถือเป็นกรรมสิทธิ์ของคณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ห้ามนำข้อความทั้งหมดหรือบางส่วนไปพิมพ์ซ้ำ เว้นเสียแต่ว่าจะได้รับอนุญาตจากมหาวิทยาลัยฯ เป็นลายลักษณ์อักษร
เอกสารอ้างอิง
กระทรวงศึกษาธิการ. (2560). หลักสูตรการศึกษาปฐมวัย พุทธศักราช 2560. กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย.
กลุ่มจิตวิวัฒน์. (2551). ใจแจ่มปัญญา. กรุงเทพมหานคร: มติชน.
ธนา นิลชัยโกวิทย์ และอดิศร จันทรสุข. (2552). ศิลปะการจัดกระบวนการเรียนรู้เพื่อการเปลี่ยนแปลง : คู่มือกระบวนกรจิตตปัญญา. กรุงเทพมหานคร: ศูนย์จิตตปัญญาศึกษา มหาวิทยาลัยมหิดล.
ธิดา พิทักษ์สินสุข. (2562). วิกฤตปฐมวัยกระทบอนาคตชาติ. วารสารการจัดการทางการศึกษาปฐมวัย, 1(1), 77–89.
นวลจันทร์ จุฑาภักดีกุล, นุชนาฏ รักษี, ปนัดดา ธนเศรษฐกร และอรพินท์ เลิศอวัสดาตระกูล. (2560). การพัฒนาและหาค่าเกณฑ์มาตรฐานเครื่องมือประเมินการคิดเชิงบริหารในเด็กปฐมวัย. กรุงเทพมหานคร: มหาวิทยาลัยมหิดล.
รัตติกรณ์ จงวิศาล, สมสิทธิ์ อัสดรนิธี, ไพรินทร์ โชติสกุลรัตน์ และวิชัย โภคทวี. (2567). สู่ศักยภาพแห่งความเป็นมนุษย์: คู่มือการจัดกระบวนการพัฒนาจิตวิญญาณ. พิมพ์ครั้งที่ 4. กรุงเทพมหานคร: เอเชีย ดิจิตอลการพิมพ์.
Alvarez, J. A. and Emory, E. (2006). Executive function and the frontal lobes: a meta-analytic review. Neuropsychology Review, 16, 17-42.
Boris, V. (2017). What makes storytelling so effective for learning. Harvard Business Learning.
Brotherson, S. E. (2005). Understanding brain development in young children. North Dakota State University.
Diamond, A. (2013). Executive Functions. Annual Review of Psychology, 64(1), 135-168.
Gardner, H. (1995). Reflections on Multiple Intelligences: Myths and Messages. The Phi Delta Kappan, 77(3), 200--209.
Habrat, A. (2013). The effect of affect on learning: Self-esteem and self-concept. In Language in cognition and affect. Springer.
Jolly, E., Tamir, D. I., Burum, B. and Mitchell, J. P. (2019). Wanting without enjoying: The social value of sharing experiences. PLOS ONE, 14(4), Article e0215318. https://doi.org/10.1371/journal.pone.0215318
Kolb, A. Y. and Kolb, D. A. (2005). Learning styles and learning spaces: Enhancing experiential learning in higher education. Academy of management learning & education, 4(2), 193-212.
Taylor, E. W. (2001). Transformative learning theory: A neurobiological perspective of the role of emotions and unconscious ways of knowing. International Journal of Lifelong Education, 20(3), 218-236.
Zuber-Skerritt, O. (2001). Action learning and action research: paradigm, praxis and programs. Effective change management through action research and action learning: Concepts, perspectives. Processes and Applications, 1(20), 1-27.