รูปแบบการบริหารสถานศึกษาแบบมีส่วนร่วมของโรงเรียนราษฏร์สงเคราะห์วิทยา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาปทุมธานี เขต 2

Main Article Content

เพชรธนินทร์ การะวิโก

บทคัดย่อ

บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อสร้างรูปแบบการบริหารสถานศึกษาแบบมีส่วนร่วม 2) เพื่อนำรูปแบบการบริหารสถานศึกษาแบบมีส่วนร่วมไปทดลองใช้ และ 3) เพื่อประเมินผลการทดลองใช้รูปแบบการบริหารสถานศึกษาแบบมีส่วนร่วมของโรงเรียนราษฏร์สงเคราะห์วิทยา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาปทุมธานี เขต 2 ใช้ระเบียบวิธีวิจัยแบบผสานวิธี ด้วยการวิจัยเชิงปริมาณ โดยใช้ตัวอย่างการวิจัยที่เป็น 1) ผู้บริหารสถานศึกษา จำนวน 54 คน 2) ครู ผู้บริหาร และบุคลากรทางการศึกษา คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานและชุมชน ผู้ปกครองนักเรียน และนักเรียน จำนวน 163 คน 3) ครู และบุคลากรทางการศึกษา จำนวน 16 คน วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติ ได้แก่ ค่าความถี่ ค่าร้อยละ และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการวิจัยเชิงคุณภาพโดยการสัมภาษณ์ผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวน 13 คน และสนทนากลุ่มผู้ทรงคุณวุฒิจำนวน 8 คน วิเคราะห์ข้อมูลด้วยการวิเคราะห์เนื้อหา ผลการวิจัยพบว่า 1) รูปแบบการบริหารแบบมีส่วนร่วมของโรงเรียนราษฏร์สงเคราะห์วิทยา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาปทุมธานี เขต 2 มี 2 ส่วน คือ ส่วนที่ 1 รูปแบบการบริหารแบบมีส่วนร่วม ประกอบด้วย ด้านการตั้งเป้าหมายและวัตถุประสงค์ร่วมกัน ด้านความยึดมั่นผูกพัน ด้านความอิสระต่อความรับผิดชอบในงาน ด้านการไว้วางใจกัน และส่วนที่ 2 ผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษา ประกอบด้วย ด้านความสามารถในการผลิตนักเรียนให้มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูง ด้านความสามารถในการพัฒนานักเรียนให้มีทัศนะคติทางบวก ด้านความสามารถในการแก้ปัญหาภายในโรงเรียน ด้านความสามารถในการปรับเปลี่ยนและพัฒนาโรงเรียนให้เข้ากับสิ่งแวดล้อม 2) การทดลองใช้รูปแบบการบริหารสถานศึกษาแบบมีส่วนร่วม พบว่าผลการประเมินตนเองตามองค์ประกอบการบริหารแบบมีส่วนร่วม ในภาพรวมอยู่ในระดับดี ผลการเรียน 8 กลุ่มสาระการเรียนรู้ของนักเรียนโรงเรียนราษฎร์สงเคราะห์วิทยา ปีการศึกษา 2563 มีค่าเฉลี่ยเพิ่มขึ้น ครู ผู้บริหาร และบุคลากรทางการศึกษา คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานและชุมชน ผู้ปกครองนักเรียน และนักเรียน มีความพึงพอใจในรูปแบบการบริหารสถานศึกษาแบบมีส่วนร่วม อยู่ในระดับมาก 3) ประเมินผลการทดลองใช้รูปแบบการบริหารแบบมีส่วนร่วมของโรงเรียนราษฎร์สงเคราะห์วิทยา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาปทุมธานี เขต 2 ด้านความเหมาะสม ด้านความเป็นประโยชน์ และด้านความเป็นไปได้ อยู่ในระดับมากทุกด้าน

Article Details

รูปแบบการอ้างอิง
การะวิโก เ. (2023). รูปแบบการบริหารสถานศึกษาแบบมีส่วนร่วมของโรงเรียนราษฏร์สงเคราะห์วิทยา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาปทุมธานี เขต 2 . วารสารครุศาสตร์ปริทรรศน์ คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย, 10(3), 25–36. สืบค้น จาก https://so02.tci-thaijo.org/index.php/EDMCU/article/view/262358
ประเภทบทความ
บทความวิจัย

เอกสารอ้างอิง

จันทรานี สงวนนาม. (2545). ทฤษฎีและแนวปฏิบัติในการบริหารสถานศึกษา. กรุงเทพมหานคร: บุ๊คพอยท์.

ประภัสสร บุญบำเรอ และคณะ. (2560). การพัฒนารูปแบบการบริหารแบบมีส่วนร่วมของคณะกรรมการบริหาร โรงเรียนเอกชนในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ. วารสารมหาวิทยาลัยนครพนม. 7(2). 27-35.

พระปลัดสุรเชษฐ์ สุรเชฏฺโฐ. (2561). การศึกษากับการพัฒนาความเป็นมนุษย์. วารสารวารสารวิชาการ สถาบันพัฒนาพระวิทยากร. 1(2). 82.

ไพลิน ทิพย์กรรณ. (2558). ความสัมพันธ์ระหว่างการบริหารแบบมีส่วนร่วมของผู้บริหารสถานศึกษากับคุณภาพผู้เรียน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชุมพร เขต 1. วิทยานิพนธ์ครุศาสตรมหาบัณฑิต. มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี.

โรงเรียนราษฎร์สงเคราะห์วิทยา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาปทุมธานี เขต 2. (2562). ข้อมูลพื้นฐาน. แหล่งที่มา https://data.bopp-obec.info/web/home.php?School_ID=10132 70158. สืบค้นเมื่อ 25 ก.ย. 2562.

อมรภัค ปิ่นกำลัง. (2562). การบริหารแบบมีส่วนร่วมของโรงเรียนเรียนรวม สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสมุทรสงคราม. วิทยานิพนธ์ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต. มหาวิทยาลัยศิลปากร.

อุทัย บุญประเสริฐ. (2557). รายงานการวิจัยและพัฒนา เรื่อง รูปแบบการบริหารจัดการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน. กรุงเทพมหานคร: พริกหวานกราฟฟิค.

Boyle, Clifton John. (1999). Factors Influencing the Implementation of School site Management: The Rhode Island Experience. Policy Analysis. 52(1). 51.

Mott, P. E. (1972). The Characteristics of Effective Organizations. New York: Harper & Row.

Swansburg, Russell C. (1996). Management and Leadership for Nurse Managers. 2nd ed. Boston: Jones and Barlett Publishers.