การจัดการเรียนรู้ตามวิธีการทางประวัติศาสตร์ร่วมกับการเรียนรู้จากพิพิธภัณฑ์ออนไลน์ เพื่อพัฒนาทักษะการคิดเชิงประวัติศาสตร์ของนักเรียนมัธยมศึกษาตอนต้น

Main Article Content

จิราภรณ์ อัศวเสนา
รุจน์ ฦาชา
วันเพ็ญ ประทุมทอง

บทคัดย่อ

บทความวิจัยนี้เป็นการวิจัยก่อนการทดลอง ซึ่งมีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อพัฒนากิจกรรมการจัดการเรียนรู้ที่พัฒนาทักษะการคิดเชิงประวัติศาสตร์ด้วยการจัดการเรียนรู้ตามวิธีการทางประวัติศาสตร์ร่วมกับการเรียนรู้จากพิพิธภัณฑ์ออนไลน์ และ 2) เพื่อศึกษาประสิทธิผลของกิจกรรมการจัดการเรียนรู้ที่พัฒนาทักษะการคิดเชิงประวัติศาสตร์ด้วยการจัดการเรียนรู้ตามวิธีการทางประวัติศาสตร์ร่วมกับการเรียนรู้จากพิพิธภัณฑ์ออนไลน์สำหรับนักเรียนมัธยมศึกษาตอนต้น โดยกลุ่มตัวอย่างการวิจัยคือนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนทวีธาภิเศก 35 คน มีเครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ แผนการจัดการเรียนรู้ตามวิธีการทางประวัติศาสตร์ร่วมกับการเรียนรู้จากพิพิธภัณฑ์ออนไลน์ที่พัฒนาทักษะการคิดเชิงประวัติศาสตร์ แบบวัดทักษะการคิดเชิงประวัติศาสตร์ แบบปรนัย และแบบอัตนัย ทำการวิเคราะห์ข้อมูลด้วยการหาค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์แบบเพียร์สัน และค่าความแปรปรวนของตัวแปรพหุนามแบบวัดซ้ำ ผลการวิจัยพบว่า 1) กิจกรรมการจัดการเรียนรู้ตามวิธีการทางประวัติศาสตร์ร่วมกับการเรียนรู้จากพิพิธภัณฑ์ออนไลน์ที่พัฒนาทักษะการคิดเชิงประวัติศาสตร์สำหรับนักเรียนมัธยมศึกษาตอนต้นมี 5 ขั้นตอน คือ (1) การกำหนดปัญหา (2) การรวบรวมหลักฐาน (3) การประเมินค่าหลักฐาน (4) การตีความ (5) การนำเสนอข้อมูล และ 2) นักเรียนมัธยมศึกษาตอนต้นที่ได้รับการจัดการเรียนรู้กิจกรรมการจัดการเรียนรู้ตามวิธีการทางประวัติศาสตร์ร่วมกับการเรียนรู้จากพิพิธภัณฑ์ออนไลน์ที่พัฒนาทักษะการคิดเชิงประวัติศาสตร์สำหรับนักเรียนมัธยมศึกษาตอนต้นมีทักษะการคิดเชิงประวัติศาสตร์สูงกว่าก่อนได้รับการจัดการเรียนรู้อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 จากนั้นเมื่อวิเคราะห์ความแปรปรวนของตัวแปรพหุนามแบบวัดซ้ำ พบว่า ทักษะการคิดเชิงประวัติศาสตร์ของนักเรียนมัธยมศึกษาตอนต้นที่ได้รับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามวิธีการทางประวัติศาสตร์ร่วมกับพิพิธภัณฑ์ออนไลน์มีทักษะการคิดเชิงประวัติศาสตร์เพิ่มขึ้นทุกครั้งอย่างมีนัยสำคัญทางสถิตที่ระดับ .05

Article Details

รูปแบบการอ้างอิง
อัศวเสนา จ., ฦาชา ร., & ประทุมทอง ว. (2023). การจัดการเรียนรู้ตามวิธีการทางประวัติศาสตร์ร่วมกับการเรียนรู้จากพิพิธภัณฑ์ออนไลน์ เพื่อพัฒนาทักษะการคิดเชิงประวัติศาสตร์ของนักเรียนมัธยมศึกษาตอนต้น. วารสารครุศาสตร์ปริทรรศน์ คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย, 10(3), 285–297. สืบค้น จาก https://so02.tci-thaijo.org/index.php/EDMCU/article/view/262192
ประเภทบทความ
บทความวิจัย

เอกสารอ้างอิง

เฉลิม มลิลา นิติเขตต์ปรีชา. (2559). เทคนิควิธีการสอนประวัติศาสตร์. พิมพ์ครั้งที่ 6. กรุงเทพมหานคร: สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

ชรินทร์ มั่งคั่ง. (2561). องค์ความรู้หลักสูตรและการสอนสังคมศึกษา. พิมพ์ครั้งที่ 2. กรุงเทพมหานคร: สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

ชัชพล ศิริกุล. (2559). การศึกษาผลของการจัดการเรียนรู้สาระประวัติศาสตร์โดยวิธีการทางประวัติศาสตร์ที่มีต่อทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณและทักษะชีวิตของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3. วารสารวิจัยและพัฒนา วไลยอลงกรณ์ ในพระราชูปถัมภ์. 11(2). 289-295.

ชัยรัตน์ โตศิลา. (2555). การพัฒนากระบวนการเรียนการสอนโดยใช้วิธีการทางประวัติศาสตร์เพื่อส่งเสริมทักษะการคิดทางประวัติศาสตร์ของนักเรียนมัธยมศึกษาปีที่ 2. ดุษฎีนิพนธ์ครุศาสตร์ดุษฎีบัณฑิต. จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

เทพปรานี ศิริวิทยารักษ์. (2532). การศึกษาปัญหาและทัศนคติต่อการเรียนการสอนวิชาประวัติศาสตร์ ส.605 ตามหลักสูตรมัธยมศึกษาตอนปลาย พุทธศักราช 2524 ของครูและนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6ของโรงเรียนในกรุงเทพมหานคร. วิทยานิพนธ์การศึกษามหาบัณฑิต.มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ.

ธีระ นุชเปี่ยม. (2551). หลักฐานและวิธีการทางประวัติศาสตร์. สุทธิปริทัศน์. 22(67). 75-90.

ลัดดา ชัยหาทัพ. (2558). การศึกษาทักษะการคิดวิเคราะห์โดยการใช้วิธีการทางประวัติศาสตร์ร่วมกับผังกราฟิกรายวิชา ส 22102 ประวัติศาสตร์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2. วิทยานิพนธ์ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต. มหาวิทยาลัยขอนแก่น.

วินัย พงศ์ศรีเพียร. (2543). ประวัติศาสตร์ไทย: จะเรียนจะสอนกันอย่างไร. กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์การศาสนา.

สำนักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา. (2554). เพื่อนคู่คิดมิตรคู่ครู: แนวทางการจัดการเรียนรู้ประวัติศาสตร์. กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์ชุมนุมสหกรณ์แห่งประเทศไทย.

สุบรร พรหนองแสน, และสาคร อัฒจักร. (2563). การเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและการคิดวิเคราะห์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ระหว่างการจัดการเรียนรู้แบบโยนิโสมนสิการและการจัดการเรียนรู้วิธีการทางประวัติศาสตร์. วารสารมหาวิทยาลัยราชภัฏร้อยเอ็ด. 15(2). 113-123.

สุภัทรดิศ ดิศกุล. (2553). ประวัติศาสตร์ศิลปะประเทศใกล้เคียง: อินเดีย, ลังกา, ชวา, จาม, ขอม, พม่า, ลาว. พิมพ์ครั้งที่ 6. กรุงเทพมหานคร: มติชน.

Andrews, J. E., and Schweibenz, Werner. (1998). New Media for Old Masters: The Kress Study Collection. Art Documentation. 7(1). 19-27.

Barton, K. C., and Levstik, L. S. (2010). Why don’t More History Teacher Engage Students in Interpretation. Social Studies Today Research and Practice. 22(2). 35-42.

Burenheide, B. (2007). I can do this: Revelations on Teaching with Historical Thinking. The History Teacher. 41(1). 55-61.

Clabough, C. J. (2012). Educator’s Perceptions about the Uses of Primary Sources in Social Studies Classroom. Dissertation Ph.D. Knoxville: University of Tennessee.

Lévesque, S. (2009). Thinking Historically: Educating Students for the Twenty-First Century. Toronto: University of Toronto Press.

National Center for History in the Schools. (1996). National Standards for History: Basic Edition. Los Angeles: National Center for History in the Schools.

Nelson, R., and Drake, F. (2001). Civic Intelligence and Liberal Intelligence in the History of Social Studies Teachers and Students. Principles and Practices of Democracy in the Education of Social Studies Teachers. 15(2). 135-166.

VanSledright, B. A. (2010). What does it mean to think historically and how do you teach it?. Social Studies Today Research and Practice. 22(2). 113-120.

VanSledright, B. A. (2014). Assessing Historical Thinking and Understanding: Innovative Designs for New Standards. New York: Routledge.

Weinberg, S. (2001). Historical Thinking and Other Unnatural Acts: Charting the Future of Teaching the Past. Philadelphia: Temple University Press.

Whitesell, Emilyn Ruble. (2016). A Day at the Museum: The Impact of Field Trips on Middle School Science Achievement. Journal of Research in Science Teaching. 53(7). 1036-1054.