การศึกษารูปแบบการรักษาอาการเลือดลมแปรปรวนในปัจฉิมวัยด้วยหัตถเวช
Main Article Content
บทคัดย่อ
บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนารูปแบบการรักษาอาการเลือดลมแปรปรวนในปัจฉิมวัยด้วยหัตถเวช (การรักษาด้วยมือ) เป็นการวิจัยเอกสารโดยการประมวลความรู้จากเอกสารตำราและงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับการรักษาอาการเลือดลมแปรปรวนในตำราการแพทย์แผนไทย เพื่อใช้เป็นแนวทางในการพัฒนารูปแบบการรักษาอาการเลือดลมแปรปรวนในปัจฉิมวัย ผลการศึกษาพบว่า อาการเลือดลมแปรปรวนเป็นอาการเจ็บป่วยที่เกิดกับปัจฉิมวัยโดยมีสาเหตุมาจากการแปรปรวนของลมและเลือดลมตามช่วงอายุที่เพิ่มมากขึ้นปัจจัยที่ส่งผลทำให้เลือดลมในร่างกายเกิดการแปรปรวนได้แก่ การเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศในช่วงก่อนฝนตก โดยจะทำให้เกิดอาการครั่นเนื้อครั่นตัว วิงเวียนศีรษะและเหงื่อซึมตามตัว ซึ่งสามารถทำการรักษาด้วยกรรมวิธีทางการแพทย์แผนไทยคือการใช้หัตถเวช (การรักษาด้วยมือ) เพื่อช่วยกระตุ้นการไหลเวียนเลือดลมตามแนวเส้นกาลทารีครอบคลุมพื้นที่บนร่างกาย ส่วนแขน ขา หลัง บ่า-คอ ศีรษะและท้อง โดยมีรูปแบบการรักษาคือจะอาศัยแพทย์แผนไทยผู้ให้การรักษา จำนวน 2 คน ในลักษณะทะแยงสลับซ้ายขวา ตามขั้นตอนการรักษา 3 ขั้นตอน คือ 1) ขั้นตอนการเตรียมความพร้อมของกล้ามเนื้อก่อนการรักษา 2) ขั้นตอนการกดเส้นและจุดที่เกี่ยวข้อง และ 3) ขั้นตอนการฟื้นฟูคืนสภาพกล้ามเนื้อหลังการรักษาจากผลการศึกษาจะเห็นได้ว่าสามารถนำรูปแบบการรักษาอาการเลือดลมแปรปรวนมาใช้ประกอบในการเรียนการสอนสำหรับนักศึกษาแพทย์แผนไทยให้เกิดความรู้ตลอดจนเกิดทักษะความชำนาญในการรักษาผู้ป่วยปัจฉิมวัยต่อไป
Article Details
ทัศนะและความคิดเห็นที่ปรากฏในบทความในวารสารฉบับนี้ถือเป็นความรับผิดชอบของผู้เขียนบทความนั้นเพียงผู้เดียว และไม่ถือเป็นทัศนะและความรับผิดชอบของกองบรรณาธิการ
กองบรรณาธิการขอสงวนสิทธิ์ในการคัดเลือกบทความลงตีพิมพ์และจะแจ้งให้เจ้าของบทความทราบหลังจากผู้ประเมินบทความตรวจอ่านบทความแล้ว
ต้นฉบับที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารครุศาสตร์ปริทรรศน์ คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ถือเป็นกรรมสิทธิ์ของคณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ห้ามนำข้อความทั้งหมดหรือบางส่วนไปพิมพ์ซ้ำ เว้นเสียแต่ว่าจะได้รับอนุญาตจากมหาวิทยาลัยฯ เป็นลายลักษณ์อักษร
เอกสารอ้างอิง
กนกอร เพียรสูงเนิน. (2562). การศึกษาเส้นประธานสิบ กรณีเส้นกาลทารี. วิทยานิพนธ์การแพทย์แผนไทยมหาบัณฑิต. มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย.
กรรณิกา นันตา. (2563). การติดตามผลการบริหารเลือดลมในผู้สูงอายุ. รายงานสืบเนื่องการประชุมวิชาการและนำเสนอผลงานวิจัยบัณฑิตศึกษาระดับชาติ มหาวิทยาลัยราชภัฏร้อยเอ็ด.
กระทรวงศึกษาธิการ. (2542). แพทย์ศาสตร์สงเคราะห์ภูมิปัญญาทางการแพทย์และมรดกทางวรรณกรรมของชาติ. กรุงเทพมหานคร: คุรุสภาลาดพร้าว.
กองประกอบโรคศิลปะ. (2549). ตำราแพทย์แผนโบราณทั่วไป สาขาเวชกรรม เล่ม 1. นนทบุรี: ไทภูมิพับลิชชิ่ง.
ชัยนรินทร์ เรือนเจริญ. (2562).การศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างขันธ์ 5 ตามพุทธปรัชญากับสาเหตุการเจ็บป่วยของการแพทย์แผนไทย. การศึกษาอิสระการแพทย์แผนไทยมหาบัณฑิต. มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย.
ฐิติรัตน์ ชัยชนะ. (2563). การศึกษาและติดตามผลการรักษาโรคข้อเข่าเสื่อมระยะเริ่มต้นด้วยการแพทย์แผนไทย. วารสารหมอยาไทยวิจัย. 6(1). 45-54.
ประเสริฐ อัสสันตชัย. (2554). ปัญหาสุขภาพที่พบบ่อยในผู้สูงอายุและการป้องกัน. พิมพ์ครั้งที่ 2. กรุงเทพมหานคร: ยูเนี่ยนครีเอชั่น.
พระราชบัญญัติวิชาชีพการแพทย์แผนไทย พ.ศ. 2556. (2556). ราชกิจจานุเบกษา เล่ม 130 ตอนที่ 10 ก. หน้า 2 (25 มี.ค. 2560).
มหาวิทยาลัยมหิดล สถาบันวิจัยประชากรและสังคม. (2563). สารประชากรมหาวิทยาลัยมหิดล พ.ศ. 2563. แหล่งที่มา http://www.ipsr.mahidol.ac.th สืบค้นเมื่อ 2 ก.พ. 2563.
มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย วิทยาลัยการแพทย์พื้นบ้านและการแพทย์ทางเลือก. (2562). ตำราการนวดรักษาของวิทยาลัยการแพทย์พื้นบ้านและการแพทย์ทางเลือก. เชียงใหม่: วนิดาการพิมพ์.
มูลนิธิสาธารณสุขกับการพัฒนา. (2552). ตำราการนวดไทย เล่ม 1. พิมพ์ครั้งที่ 4. นนทบุรี: พิมพ์ดี.
วลัยพร นันท์ศุภวัฒน์. (2551). การพยาบาลผู้สูงอายุ ความท้าทายกับภาวะประชากรสูงอายุ. ขอนแก่น: ขอนแก่นการพิมพ์.
ศิริพักตร์ จันทร์สังสา. (2563). การศึกษาความเชื่อเกี่ยวกับอาการเลือดลมแปรปรวนของผู้สูงอายุ. รายงานสืบเนื่องการประชุมวิชาการและนำเสนอผลงานวิจัยบัณฑิตศึกษาระดับชาติ มหาวิทยาลัยราชภัฏร้อยเอ็ด.
อายุรเวทวิทยาลัย. (2555). หัตถเวชกรรมแผนไทย (นวดแบบราชสำนัก). กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์อุษาการพิมพ์.