แนวทางการพัฒนาการประพฤติปฏิบัติอย่างมีคุณธรรมตามพระราชบัญญัติมาตรฐานทางจริยธรรม พ.ศ. 2562 สำหรับผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 1
Main Article Content
บทคัดย่อ
บทความวิจัยนี้วัตถุประสงค์เพื่อศึกษา เปรียบเทียบสภาพปัจจุบัน สภาพที่คาดหวัง ลำดับความสำคัญต้องการจำเป็น และเสนอแนวทางพัฒนาการประพฤติปฏิบัติอย่างมีคุณธรรมตามพระราชบัญญัติมาตรฐานทางจริยธรรม พ.ศ. 2562 ของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 1 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยเป็นครูสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 1 จำนวน 303 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ แบบสอบถามมาตรตราส่วนประมาณค่า แบบสัมภาษณ์กึ่งโครงสร้าง และแบบประเมินความเหมาะสม ทำการวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบค่าที และการวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว ผลการวิจัยพบว่า สภาพปัจจุบันการประพฤติปฏิบัติฯ ทั้งเจ็ดด้านของผู้บริหารสถานศึกษาอยู่ในระดับมากถึงมากที่สุด สภาพที่คาดหวังอยู่ในระดับมากที่สุดทุกด้าน โดยลำดับความสำคัญต้องการจำเป็นลำดับแรก คือ ด้านปฏิบัติหน้าที่อย่างเป็นธรรมและไม่เลือกปฏิบัติ การเปรียบเทียบสภาพปัจจุบันและสภาพที่คาดหวังจำแนกตามประสบการณ์การทำงานและขนาดโรงเรียนมีความแตกต่างกัน แต่เมื่อจำแนกตามวุฒิการศึกษาแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ.05 และแนวทางการพัฒนาการประพฤติปฏิบัติอย่างมีคุณธรรม 2 แนวทาง ได้แก่ 1) แนวทางการพัฒนาการประพฤติปฏิบัติอย่างมีคุณธรรมตามลำดับความสำคัญต้องการจำเป็น 2) แนวทางการเสริมสร้างการปฏิบัติอย่างมีคุณธรรมจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
Article Details
ทัศนะและความคิดเห็นที่ปรากฏในบทความในวารสารฉบับนี้ถือเป็นความรับผิดชอบของผู้เขียนบทความนั้นเพียงผู้เดียว และไม่ถือเป็นทัศนะและความรับผิดชอบของกองบรรณาธิการ
กองบรรณาธิการขอสงวนสิทธิ์ในการคัดเลือกบทความลงตีพิมพ์และจะแจ้งให้เจ้าของบทความทราบหลังจากผู้ประเมินบทความตรวจอ่านบทความแล้ว
ต้นฉบับที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารครุศาสตร์ปริทรรศน์ คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ถือเป็นกรรมสิทธิ์ของคณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ห้ามนำข้อความทั้งหมดหรือบางส่วนไปพิมพ์ซ้ำ เว้นเสียแต่ว่าจะได้รับอนุญาตจากมหาวิทยาลัยฯ เป็นลายลักษณ์อักษร
เอกสารอ้างอิง
ข้อบังคับคุรุสภาว่าด้วยแบบแผนพฤติกรรมตามจรรยาบรรณของวิชาชีพ. (2550). ราชกิจจานุเบกษา เล่มที่ 124 ตอนพิเศษ 50 ง (27 เม.ย. 2550).
ประภาพร จันทรัศมี. (2559). กลยุทธ์การบริหารโรงเรียนเพื่อเสริมสร้างความเข็มแข็งทางคุณธรรมจริยธรรมของนักเรียนประถมศึกษา. ดุษฎีนิพนธ์ครุศาสตรดุษฎีบัณฑิต. จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
พระราชบัญญัติมาตรฐานทางจริยธรรม พ.ศ. 2562. (2562). ราชกิจจานุเบกษา เล่มที่ 136 ตอนที่ 50 (15 เม.ย. 2562).
พระราชบัญญัติสภาครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2546. (2546). ราชกิจจานุเบกษา เล่มที่ 120 ตอนที่ 52ก (24 พ.ค. 2546).
พูนสุข อุดม. (2558). ความเป็นครู. สงขลา: คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยทักษิณ.
รุ่งชัชดาพร เวหะชาติ. (2560). คุณธรรมจริยธรรมสำหรับผู้บริหารมืออาชีพ. สงขลา: นำศิลป์โฆษณา.
วีนันท์กานต์ รุจิภักดิ์ และ เอมม่า อาสนจินดา. (2559). จริยธรรมในวิชาชีพครู. นครปฐม: สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยมหิดล.
ศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านการทุจริต กระทรวงศึกษาธิการ. (2561). แผนปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบกระทรวงศึกษาธิการ. แหล่งที่มา http://www.reo2.moe.go.th/home/images/book/39PlanProtect.pdf สืบค้นเมื่อ 22 ก.ย. 2562.
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 1. (2562). ข้อมูลสารสนเทศ. แหล่งที่มา https://eservice.sesao1.go.th/info สืบค้นเมื่อ 22 ก.ย. 2562.
สำนักงานเลขาธิการคุรุสภา. (2546). พระราชบัญญัติสภาครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2546. กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์คุรุสภาลาดพร้าว.
สุชาดา นันทะไชย. (2554). จริยธรรมวิชาชีพสำหรับผู้บริหารทางการศึกษา. กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์สามเจริญพาณิชย์(กรุงเทพ).
สุวิมล ว่องวาณิช. (2548). การวิจัยประเมินความต้องการจำเป็น. กรุงเทพมหานคร: สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
Boydell, T. (1985). Management self-development: A guide for managers, organizations and institution. Geneva: International Labour Office.
Cronbach, L. J. (1970). Essentials of Psychological Test. 4th ed. New York: Harper Collins.
Derick Meado. (2016). The Role of the Principal in Schools. From http://teaching.about.com/od/admin/tp/Role-Of-The-Principal.htm Retrieved September 30, 2019.
Krejcie and Morgan. (1970). Determining Sample Size for Research Activities. Educational and Psychological Measurement. 607-610.