รูปแบบความสัมพันธ์เชิงสาเหตุของปัจจัยที่ส่งผลต่อการเป็นชุมชนแห่งการเรียนรู้วิชาชีพของโรงเรียนประถมศึกษาสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

Main Article Content

อภิสิทธิ์ อุคำ
วาโร เพ็งสวัสดิ์
วัลนิกา ฉลากบาง
พรเทพ เสถียรนพเก้า

บทคัดย่อ

บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์คือ 1) เพื่อศึกษารูปแบบความสัมพันธ์เชิงสาเหตุของปัจจัยที่ส่งผลต่อการเป็นชุมชนแห่งการเรียนรู้วิชาชีพของโรงเรียนประถมศึกษา 2) เพื่อตรวจสอบความสอดคล้องของรูปแบบความสัมพันธ์เชิงสาเหตุของปัจจัยที่ส่งผลต่อการเป็นชุมชนแห่งการเรียนรู้วิชาชีพของโรงเรียนประถมศึกษากับข้อมูลเชิงประจักษ์ การดำเนินการวิจัยแบ่งเป็นสองระยะ คือ ระยะที่ 1 การกำหนดกรอบแนวคิดการวิจัย ด้วยวิเคราะห์เอกสาร การสัมภาษณ์ผู้ทรงคุณวุฒิ 7 คน และศึกษาโรงเรียนดีเด่น 3 แห่ง และระยะที่ 2 การตรวจสอบสมมติฐานการวิจัย เก็บรวบรวมข้อมูล โดยใช้แบบสอบถาม มีกลุ่มตัวอย่าง คือ ผู้อำนวยการโรงเรียน และครูโรงเรียนประถมศึกษา 626 คน วิเคราะห์ข้อมูลด้วยการหาความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์แบบเพียร์สัน และวิเคราะห์รูปแบบความสัมพันธ์เชิงสาเหตุ สรุปผลการวิจัยพบว่า 1) ปัจจัยที่ส่งผลต่อการเป็นชุมชนแห่งการเรียนรู้วิชาชีพของโรงเรียนประถมศึกษา ประกอบด้วย 5 ปัจจัย ประกอบด้วยบรรยากาศและวัฒนธรรม โครงสร้างโรงเรียน ภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลงของผู้บริหาร วิสัยทัศน์และพันธกิจ และบุคลากรและทีมงาน 2) รูปแบบที่พัฒนาขึ้นมีความสอดคล้องกับข้อมูลเชิงประจักษ์ โดยมีค่าสถิติ ดังนี้   χ2 = 158.37, p-value = 0.21, df = 145, χ2/df = 1.09, RMSEA = 0.01, GFI = 0.98, AGFI = 0.95 จากการวิเคราะห์เส้นทางเป็นดังนี้ อิทธิพลทางตรง พบว่า บุคลากรและทีมงาน มีอิทธิพลต่อการเป็นชุมชนแห่งการเรียนรู้วิชาชีพของโรงเรียนมากที่สุด รองลงมาคือ โครงสร้างโรงเรียน อิทธิพลทางอ้อม พบว่า บรรยากาศและวัฒนธรรม มีอิทธิพลทางอ้อมต่อการเป็นชุมชนแห่งการเรียนรู้วิชาชีพของโรงเรียน และอิทธิพลรวม พบว่า บรรยากาศและวัฒนธรรม มีอิทธิพลต่อการเป็นชุมชนแห่งการเรียนรู้วิชาชีพของโรงเรียนมากที่สุด รองลงมาคือ บุคลากรและทีมงาน โครงสร้างโรงเรียน และภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลงของผู้บริหาร ตามลำดับ เมื่อพิจารณาค่าสัมประสิทธิ์พยากรณ์ (R2) ของปัจจัยเชิงสาเหตุทั้ง 4 ปัจจัย สามารถร่วมกันอธิบายความแปรปรวนของการเป็นชุมชนแห่งการเรียนรู้วิชาชีพของโรงเรียนประถมศึกษา ได้ร้อยละ 40.00

Article Details

รูปแบบการอ้างอิง
อุคำ อ., เพ็งสวัสดิ์ ว., ฉลากบาง ว., & เสถียรนพเก้า พ. (2020). รูปแบบความสัมพันธ์เชิงสาเหตุของปัจจัยที่ส่งผลต่อการเป็นชุมชนแห่งการเรียนรู้วิชาชีพของโรงเรียนประถมศึกษาสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ. วารสารครุศาสตร์ปริทรรศน์ คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย, 7(2), 65–78. สืบค้น จาก https://so02.tci-thaijo.org/index.php/EDMCU/article/view/241449
ประเภทบทความ
บทความวิจัย

เอกสารอ้างอิง

กรองกาญจน์ นาแพร่. (2560). การเป็นชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพที่ส่งผลต่อประสิทธิผลการบริหารงานวิชาการในโรงเรียนประถมศึกษาของรัฐ จังหวัดสมุทรสาคร. วิทยานิพนธ์ครุศาสตรมหาบัณฑิต. มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม.

กัญญาภัค เฮงใจบุญ. (2555). การวิเคราะห์ปัจจัยเชิงสาเหตุที่มีอิทธิพลต่อการเป็นองค์การแห่งการเรียนรู้ของสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา. ดุษฎีนิพนธ์การศึกษาดุษฎีบัณฑิต. มหาวิทยาลัยอีสเทิร์นเอเชีย.

ดรุณี โกเมนเอก. (2553). รูปแบบความสัมพันธ์ของปัจจัยเชิงสาเหตุต่อการเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ของมหาวิทยาลัยราชภัฏ. ดุษฎีนิพนธ์ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต. มหาวิทยาลัยคริสเตียน.

ธันยพร บุญรักษา. (2553). ปัจจัยที่ส่งผลต่อการเป็นชุมชนแห่งการเรียนรู้ของโรงเรียนในสังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในจังหวัดเลย. วิทยานิพนธ์ครุศาสตรมหาบัณฑิต. มหาวิทยาลัยราชภัฏเลย.

นงลักษณ์ วิรัชชัย. (2542). โมเดลลิสเรล : สถิติวิเคราะห์สำหรับการวิจัย. พิมพ์ครั้งที่ 3. กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

วรลักษณ์ ชูกำเนิด. (2557). รูปแบบชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพครูสู่การเรียนรู้ในศตวรรษที่ 2 บริบทโรงเรียนในประเทศไทย. ดุษฎีนิพนธ์ศึกษาศาสตรดุษฎีบัณฑิต. มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์.

วิจารณ์ พานิช. (2555). วิถีสร้างการเรียนรู้เพื่อศิษย์ในศตวรรษที่ 21. กรุงเทพมหานคร: ตถาตาพับลิเคชั่น.

วิโรจน์ สารรัตนะ. (2548). โรงเรียนการบริหารสู่ความเป็นองค์การแห่งการเรียนรู้. กรุงเทพมหานคร: อักษราพิพัฒน์.

ศศกร ไชยคำหาญ. (2550). ปัจจัยทีมีอิทธิพลต่อการเป็นองค์การแห่งการเรียนรู้ของสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน. ดุษฎีนิพนธ์ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต. มหาวิทยาลัยศิลปากร.

สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา. (2560). สภาวะการศึกษาไทยปี 2559/2560 แนวทางการปฏิรูป การศึกษาเพื่อก้าวสู่ยุค Thailand 4.0. กรุงเทพมหานคร: สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา.

สุเทพ พงศ์ศรีวัฒน์. (2555). ผู้นำสถานศึกษากับการสร้างโรงเรียนแห่งการเรียนรู้. แหล่งที่มา http://www.suthep.ricr.ac.th. สืบค้นเมื่อ 11 ธ.ค. 2560.

อมรา จำรูญศิริ. (2555). รูปแบบความสัมพันธ์โครงสร้างเชิงเส้นของปัจจัยที่ส่งผลต่อการเป็นชุมชนแห่ง การเรียนรู้ของโรงเรียนสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ. ดุษฎีนิพนธ์ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต. มหาวิทยาลัยราชภัฏเลย.

DuFour, R., Eakey, R., and Many, T. (2006). Learning by Doing. A Handbook for Professional Learning Communities at Work. Bloomington. IN: Solution Tree Press.

Hoy, W. K. & Miskel, C.G. (2001). Educational administration: Theory research and practice. 6th ed. New York: McGraw-Hill.

Leithwood, K., & Jantzi, D. (2006). Transformational school leadership: Its effects on students, teachers and their classroom practices. School Effectiveness and School Improvement. 17(2). 201-227.

Thompson, S. C. Gregg, L., & Niska, J. M. (2004). Professional learning communities, leadership, and student learning. From http://www.nmsa.org/Publications/RMLEOnline/Articles. Retrieved May 10, 2004.