แนวทางการประยุกต์ใช้การคิดเชิงออกแบบในการพัฒนากรอบความคิดเชิงออกแบบของครู: กรณีศึกษาครูสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 2
Main Article Content
บทคัดย่อ
บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาบริบทของสถานศึกษากรณีศึกษาในการนำการคิดเชิงออกแบบไปประยุกต์ใช้ในการพัฒนาความคิดเชิงออกแบบของครู 2) เพื่อทดลองและศึกษาผลการประยุกต์ใช้การคิดเชิงออกแบบในการพัฒนากรอบความคิดเชิงออกแบบของครู 3) เพื่อสังเคราะห์แนวทางการประยุกต์ใช้ โดยผู้เข้าร่วมการวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วมเป็นผู้บริหารสถานศึกษาและครู ในโรงเรียนจำนวน 6 คน โดยใช้วิธีการเลือกแบบเจาะจง ระเบียบวิธีวิจัยแบ่งเป็น 3 ระยะ โดยประยุกต์ใช้กระบวนการ 5 ขั้นของการคิดเชิงออกแบบตามแนวคิด Stanford d.school วิเคราะห์ข้อมูลเชิงคุณภาพด้วยการวิเคราะห์สาระและการวิเคราะห์พรรณนา วิเคราะห์ข้อมูลเชิงปริมาณด้วยร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และคะแนนพัฒนาการ สรุปผลการวิจัยพบว่า 1) บริบทสถานศึกษามีปัจจัยสนับสนุน คือ ผู้บริหารและครูตระหนักและมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการคิดเชิงออกแบบอยู่ก่อนแล้ว และมีการส่งเสริมการพัฒนาครูโดยการจัดทำแผนพัฒนาตนเองรายบุคคล (ID Plan) การสร้างชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (PLC) การชี้แนะและระบบพี่เลี้ยง (Coaching and Mentoring) แต่ยังคงมีข้อจำกัดเรื่องเวลาและงบประมาณที่ใช้ในการพัฒนาครู 2) การประยุกต์ใช้การคิดเชิงออกแบบในการพัฒนากรอบความคิดเชิงออกแบบของครู พบว่าครูชื่นชอบกระบวนการทั้ง 5 ขั้นตอนและให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีมีคะแนนพัฒนาการของกรอบความคิดเชิงออกแบบเฉลี่ยร้อยละ 30.10 3) แนวทางการประยุกต์ใช้การคิดเชิงออกแบบในการพัฒนากรอบความคิดเชิงออกแบบของครูมี 7 แนวทาง ได้แก่ (1) กำหนดนโยบายการพัฒนาลงในแผนปฏิบัติการประจำปี (2) จัดอบรมให้ความรู้กับคนในองค์กรเกี่ยวกับการคิดเชิงออกแบบ (3) เปิดช่องทางการรับฟังความคิดเห็นที่หลากหลาย (4) สนับสนุนงบประมาณเพื่อใช้ดำเนินการพัฒนา (5) สนับสนุนสื่อเทคโนโลยีทางการศึกษาที่เอื้อต่อการพัฒนา (6) นิเทศ กำกับ ติดตาม การพัฒนาครูอย่างสม่ำเสมอ และ (7) สร้างขวัญและกำลังใจเพื่อให้เกิดแรงจูงใจในการพัฒนา
Article Details
ทัศนะและความคิดเห็นที่ปรากฏในบทความในวารสารฉบับนี้ถือเป็นความรับผิดชอบของผู้เขียนบทความนั้นเพียงผู้เดียว และไม่ถือเป็นทัศนะและความรับผิดชอบของกองบรรณาธิการ
กองบรรณาธิการขอสงวนสิทธิ์ในการคัดเลือกบทความลงตีพิมพ์และจะแจ้งให้เจ้าของบทความทราบหลังจากผู้ประเมินบทความตรวจอ่านบทความแล้ว
ต้นฉบับที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารครุศาสตร์ปริทรรศน์ คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ถือเป็นกรรมสิทธิ์ของคณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ห้ามนำข้อความทั้งหมดหรือบางส่วนไปพิมพ์ซ้ำ เว้นเสียแต่ว่าจะได้รับอนุญาตจากมหาวิทยาลัยฯ เป็นลายลักษณ์อักษร
เอกสารอ้างอิง
จิราภรณ์ ตั้งกิตติภาภรณ์. (2556). จิตวิทยาทั่วไป. กรุงเทพมหานคร: สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
จิราภา เพียรเจริญ. (2556). บทบาทของผู้บริหารในการส่งเสริมการจัดการเรียนรู้ของครูตามหลักสูตรสถานศึกษาขั้นพื้นฐานในโรงเรียนมัธยมศึกษา จังหวัดปทุมธานี. วิทยานิพนธ์ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต. มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์.
นุชจรี กิจวรรณ. (2561). กระบวนการคิดเชิงออกแบบ: มุมมองใหม่ของระบบสุขภาพไทย. วารสารสภาการพยาบาล. 33(1). 5-14.
วีระยุทธ ชาตะกาญจน์. (2557). การวิจัยเพื่อพัฒนาการบริหารการศึกษา. กรุงเทพมหานคร: สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
ศศิมา ตุ้มนิลกาล. (2560). การนำเสนออัตลักษณ์บนเครือข่ายสังคมออนไลน์อินสตาแกรมของเจเนอเรชั่น: กรณีศึกษาความแตกต่างระหว่างเจเนอเรชั่นเอ็กซ์ เจเนอเรชั่นวาย และเจเนอเรชั่นแซด. วิทยานิพนธ์นิเทศศาสตรมหาบัณฑิต. มหาวิทยาลัยกรุงเทพ.
ศุภามาศ แก้วดวงดี. (2553). แนวทางการพัฒนาบุคลากร: กรณีศึกษาองค์การบริหารส่วนจังหวัดสตูล.วิทยานิพนธ์รัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต. มหาวิทยาลัยรามคำแหง (จังหวัดสงขลา).
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน. (2561). สถิติทางการศึกษา ปี 2560. กรุงเทพมหานคร: สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน.
สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา. (2560). คู่มือการประเมินตนเองและการจัดทำแผนพัฒนาตนเองรายบุคคล (ID PLAN) ของครูสายงานการสอน สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา. กรุงเทพมหานคร: สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา.
สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา. (2558). สภาพการผลิตและพัฒนาครูในประเทศไทย. กรุงเทพมหานคร: พริกหวานกราฟฟิค.
สุนทร วงศ์ไวศยวรรณ. (2540). วัฒนธรรมองค์การ แนวคิด งานวิจัยและประสบการณ์. กรุงเทพมหานคร: โฟร์เพซ.
อรรณพ จีนะวัฒน์. (2559). การพัฒนาตนของผู้ประกอบวิชาชีพครู. วารสารมหาวิทยาลัยศิลปากร. 9(2). 1379-1395.
Dweck, C. S. (2006). Mindset: The new psychology of success. New York: Random House.
IDEO. (2009). Human-Centered Design Toolkit. IDEO.
Likert, R. (1987). The human organization: Its management and value. New York: McGraw - Hill.
Schweitzer et al. (2015). The Design Thinking Mindset: An Assessment of What We Know and What We See in Practice. Researchgate.
Stanford d.school. (2009). Design Thinking Bootcamp Bootleg. from https://static1.squarespace.com/static/57c6b79629687fde090a0fdd/t/58890239db29d6cc6c3338f7/1485374014340/METHODCARDS-v3-slim.pdf. Retrieved September 29, 2019